คำถาม
ถามคำถาม

ในการกระทำของพ่อแม่ มีสิ่งใดที่แฝงธรรมะให้เรารู้บ้างครับ??

สำหรับผม เช่น เวลาท่านดุด่า ท่านทำอะไรกับเรา ผมจะถือว่าท่านสั่งสอน เช่น

1. เวลาท่านไม่ให้เงินเรา ไม่ช่วยเหลือเราในบางสิ่ง ผมจะถือว่าท่านสอนให้เรารู้จักปลง และรู้จักคิดว่า ถ้าเราไม่อยากได้อะไรแบบไหน เราก็อย่าทำแบบนั้น

2. เวลาท่านไปวัด ท่านสอนให้เรารู้จักไปทำบุญอย่างเช่นท่านบ้าง

3. เวลาเราคิดไมดีสิ่งไหนกับพ่อแม่ เราก็จะได้สิ่งนั้นกลับมาเอง นี่เรียกว่ากรรม

4. การทะเลาะกับพ่อแม่ การโกรธพ่อแม่ การนินทาหรือระบายน้อยใจพ่อแม่ คือการทำให้เรารู้ว่าเราเป็นคนอกตัญญูต่อท่าน ไม่นึกถึงข้าวแดงแกงร้อน ความยากลำบากของท่านที่ได้อดทนเลี้ยงดูเรามา สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมเปลี่ยนไป ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ทำมาอย่างสิ้นเชิงครับ คือ เมื่อพ่อแม่ดุ ผมจะเดินหนี หรือเงียบนิ่งเสีย เดี๋ยวท่านก็จะหยุด การเคยระบายเรื่องน้อยใจพ่อแม่ให้คนอื่นฟัง ผมได้รับผลกรรมคือเป็นคนเสียชื่อเสียง เพราะเคยเอาท่่านมาพูดระบาย มันก็เหมือนการประจานชือเสียงพ่อแม่ให้เสื่อมเสีย เป็นต้น

5. การช่วยเหลือพ่อแม่ทุกอย่างนั้น เรียกว่าเป๋นคนกตัญญู ผมหัดทำทุกสิ่ง โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

6. คุณแม่ผมเป็นคนมีบารมีมาก ท่านมีญาติมิตรคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา นั่นเพราะท่านใจกว้างคอยช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอ ต่างกับผม ซึ่งไม่มีใครสนใจหรือช่วยเหลือเลย ผมเคยนึกโกรธญาติเพราะไม่ช่วยอะไรเราเลย นี่ดีนะที่มีบารมีแม่อยู่ ผมเคยนึกจะไม่จุนเจือญาติอีกเลย แต่พอผมนึกอีกด้านต่อแม่ ผมก็นึกออกว่า เพราะการมีจิตใจที่เอาแต่โกรธแค้น ผูกพยาบาทนี่เอง ทำให้เราเป็นคนคิดเล็กคิดน้อย ใจไม่กว้าง เลยทำให่ไม่มีบารมี คุณแม่ผมจึงเป็นตัวอย่างให้ผมอดทนอดกลั้นว่า ผมต้องทำใจ ยอมเสียสละ และต้องมีน้ำใจ ต้องข่มใจ เพราะถึงแม้เราจะไม่ชอบใจ

แต่ถ้าไม่ทำดี ไม่ให้ทาน ไม่ต้องรื้อฟื้นเรื่องราวหนหลังมาเคียดแค้น ถ้าไม่อยากได้สิ่งไหน จะต้องไม่ทำสิ่งนั้น คือผมจะต้องหัดให้ญาติ แม้จะเจ็บใจ มันเหมือนเป็นการสร้างทานบารมีคือ ถ้าเราไม่ทำวันนี้ ต่อไปแก่ตัวไป คงจะไม่มีใครดูแลเรา ผมจึงเข่้าใจแล้วว่า ผู้มีบารมีมากนั้น คือเขาไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนอื่น ต้องให้ทาน และจริงอย่างที่พระพุทธเจ้าท่านว่า การให้ทานเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ผมจะพยายามทำตามครับ

มีอีกหลายเรืองที่ผมเห็นธรรมะแฝงในตัวของคุณแม่ แต่นึกออกเพียงแค่นี้ เพือนๆล่ะครับ คิดเรืืองอะไรกันออกบ่้าง ในธรรมะที่แฝงอยู่ในตัวของพ่อแม่ของเราครับ

5 คำตอบ · +4 โหวต · 1 รายการโปรด · 43 อ่านแล้ว

ท่านทั้งสองให้กำเนิดตัวเราก็เป็นธรรมะอันยิ่งใหญ่ต่อชีวิตเราแล้ว ไม่ต้องค้นหาธรรมะแฝงแต่อย่างใด

+5 โหวต · 1 ตอบกลับ

ครับๆ....ข้าน้อยด้อยปัญญาที่จะแยกแยะเพื่อนำมารีไซเคิล

แต่... การเป็นผู้ให้ กับ ผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทนก็นับเป็นสิ่งประเสริฐ

หมั่นเติมไว้เหอะนะจ๊ะ...หนูจ๋า

+0 โหวต

ทุกอย่างที่พ่อแม่ให้ทำ..หรือว่าบังคับเรา..ฝึกเรา...มันล้วนแต่สร้างสมให้เราคิดแบบผู้ใหญ่ในภายหลัง..

ให้เรารู้จักอดทน..อดออม..ขยัน..พยายาม..แล้วในที่สุดพอเรามีครอบครัวเอง..

สิ่งที่เราได้เรียนรู้ทั้งจากพ่อแม่และคนรอบกายที่เราได้ผ่านมาในชีวิต..

จะช่วยให้เราสอนคนรุ่นหลังให้ดีเหมือนกับคนรุ่นที่ผ่านๆมาได้อย่างไม่ต้องเพิ่มความรู้อะไรมากเลย..

ส่วนตัวแล้วคิดเสมอมาว่ารักลูกแต่ก็ต้องไม่..รักแบบพ่อแม่รังแกฉัน..

เหมือนที่เห็นเป็นข่าวบ่อยๆ...😰

+5 โหวต · 0 ตอบกลับ

สาธุที่เอามาแชร์จากประสบการณ์ตรง

แม่เราทำให้เห็น สอนเป็น

ท่านบอกว่าทำไม่ดีกับพ่อแม่หากินไม่เจริญ เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือนพระเจ้า พระพรหม พระประจำบ้านของลูก ดูแบพ่อแม่ดี ก็ได้ดี

แต่ท่านไม่ขอเรา ไม่ทวงบุญคุณ ไม่เคยบอกว่าฉันคลอดแกมา ทำให้รู้ว่านี่แหบะการให้ที่แท้จริง คือ ให้เปล่าไม่เอาคืน

เอาเท่านี้พอ มันมากมายเหมือนเพลง

อิ่มอุ่น ใครหนอ

+3 โหวต · 0 ตอบกลับ

ท่านสอนให้รู้จักความกตัญญู รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักเคารพพ่อแม่ และผู้มีพระคุณทั้งหลาย

ชีวิตจะได้เจริญ และรอดพ้นจากภยันตรายทั้งปวง

เพราะพ่อแม่ เปรียบดังพระอรหันต์ของลูกๆ.....

+3 โหวต · 0 ตอบกลับ

เยอะมากๆ นะ

สอนให้แบ่งปัน คือ ให้ทาน

สอนให้กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ

สอนให้อดทน มานะ คือ ความเพียร

สาธยายไม่หมด เพราะพิมพ์จาก

เอ้ย!! ... เพราะมีมากจริงๆ ต่างหาก

+2 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ

ดูคำถามที่เกี่ยวกับ สังคมและวัฒนธรรม
ถามคำถาม