คุณเคยได้อะไรบ้างจากความล้มเหลว..??..

ส่วนตัวเคยถูกยุยงให้เกลียดหัวหน้างานและ ผจก. ที่เก่า..

โดยพวก พนง.รุ่นพี่..เพราะเรายังอ่อน จบใหม่ๆไฟแรง..เลยไม่ทันใคร..

เหตุผลที่เค้าทำอย่างงั้น..เพราะจะได้ตัดโอกาสการทำงานของเราให้หัวหน้างานเปลี่ยนเป้าหมายจากเค้ามาหมายหัวเราแทน..

อาจจะมองเป็นการมองโลกในแง่ร้ายก็ได้..แต่..ประสบการณ์การทำงานหลายที่..ก็เห็นอย่างงั้นเหมือนกัน..

แล้ว.."ล้มเหลว"..ยังงัย..สำหรับบางคนอาจจะมองว่าไม่..ก็เป็นได้..แต่..

คนที่หัวหน้างานหรือ ผจก.จะมองเห็นมี 2 แบบ ดีสุดขั้ว หรือไม่ก็แย่สุดติ่ง..

พอเราไปอยู่ในสับเซตของคนประเภทที่ 2 ..

เรื่องค่าตอบแทน ปรับเงินเดือนหรือโบนัส ตัดทิ้งไปได้เลย...

แต่หลังจากปรับตัวได้ในปีที่ 2-3 ก็รีบไขว้คว้าหาชิ้นงานที่คนอื่นไม่อยากทำ..ยากบ้างหละ..เหนื่อยบ้างหล่ะ..

สะสมหลายปีเข้าจนสามารถทำงานที่ยากที่สุดในบริษัท..

ที่ใครหลายคนก็ออกปากว่า..ยี้..!!!..ใครจะอยากทำงานอย่างงั้น..

หลังจากนั้น..เราก็บิน.....หากิ่งไม้เกาะใหม่..เปลี่ยนความคิดและทัศนคติ..

...

และสิ่งที่ได้อีกอย่าง....5 คำที่ไม่ควรพูด..

1. ยาก

2. เหนื่อย

3. ขี้เกียจ

4. เบื่อ

5. ทำไม่ได้

จากประสบการณ์อันโชกเลือด..."เป็นไปไม่ได้..ทำไม่ได้..หรือขี้เกียจทำ"....

ทุกวันนี้เหรอครับ..อยู่ในมุม..ที่มองเห็นสิ่งที่ผ่านมาเป็นเรื่องตลก..ทำไปได้...งัยตัวเรา....เหอะๆๆๆ...

5 คำตอบ · +4 โหวต · 1 รายการโปรด · 274 อ่านแล้ว

แสดงว่าเป็นคนมีความอดทนมากๆค่ะ เราเป็นประเภทล้มเหลวเพราะเพื่อนร่วมงานชอบเอาเปรียบ และชอบขี้อิจฉาหาเรืองมากกว่านะ ส่วนตัวเป็นคนที่ขยันทำงานมากๆ ถ้าทำเป็นทีมนี่ มักจะมีเรื่องเสียเปรียบเพือนร่วมงานประจำ แต่ถ้าทำงานนั้นคนเดียว แล้วได้ส่งหัวหน้าแบบนี้น่ะ หัวหน้าจะชอบมาก และผลงานจะดีเด่น โดดเด่นมาก เป็นอย่างนี้ทุกที แสดงว่าเราคงไม่เหมาะกับการทำงานที่เป็นทีมล่ะมั้ง อย่างเช่น เราเป็นคนเก็บเอกสารเรียบร้อย ดันได้อยู่กับเพืือนท่ี่ชอบเก็บเอกสารมั่วๆ ไม่รู้วางไว้ตรงไหน ถามหาทีไรมันบอกไปค้นเอาเอง แล้วพอคนอื่นมาค้นแฟ้ม ก็หาไม่เจอ มาโทษเราเฉยเลย แบบนี้น่ะ บางที หัวหน้าไม่ชอบเพื่อนร่วมงานในกลุ่มเรา พอเรารับโทรศัพท์ลูกค้า คุยธุระกับลูกค้าอยู่ หัวหน้าก็มาเขม่นและชอบเรียกเราไปคุยว่าอย่าคุยโทรศัพท์เล่น อะไรแบบน่ี้น่ะ โดนเพ่งเล็งโดยใช่เหตุ ไม่รุ่งเลย 555

+3 โหวต · 0 ตอบกลับ

สำหรับผมคือ ความเจ็บปวดทั้งกายและใจที่ได้รับครับ ที่ได้รับจากความล้มเหลวในอดีต

บอกได้เลยว่า แทบอยากคิดสั้นเลยล่ะ

แต่ในปัจจุบัน คือ ได้ความสำเร็จในชีวิตมาคล้องใจแล้ว

จากในอดีตที่ผ่านมา หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย

ผมก็ได้ออกจากบ้านและไปหาสมัครงานของเอกชนไม่ต่ำกว่า 10 ที่ในแต่ละวัน

ผลปรากฏว่า

บางที่บอกว่า เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปในภายหลัง

บางที่บอกแบบหน้าด้านๆว่า เอาคนของเขาแล้ว ที่เรียกว่าเส้น

บางคนตอบแบบตรงๆเลยว่า ไม่รับคุณเข้าทำงาน เพราะว่าคุณไม่มีคุณสมบัติพอ ทีจะทำงานที่นี่

ผมก็สมัครแล้ว สมัครเล่า สมัครไปหลายๆที่ หากรวมที่สมัคร ก็ประมาณ 70 กว่าที่ได้

ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ น้ำตาไหลกลับบ้านแทบทุกวัน ในช่วงนั้น

และแล้ว จนผมได้งานของเอกชนที่หนึ่ง ผมก็ทำงานที่นั่นได้ประมาณ 3 ปี

ซึ่งงานที่นั่นถือว่าหนักมาก แถมใช้งานหนักมาก เจ้านายจนไปถึงท่านประธานก็ขี้งก แถมปากจัด ไม่รักษาน้ำใจลูกน้อง

เงินเดือนก็น้อยแทบจะไม่พอยาไส้ แถมเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่ค่อยตั้งใจทำงาน ดีแต่นินทาลับหลัง....

จนผมแทบรู้สึกอยากลาออกมาในตอนนั้นเลย

แต่ผมต้องอดทนอดกลั้นเข้าไว้ คือ คิดเสียว่า มีงานทำ มันยังดีกว่าตกงาน......

แต่เบื้องหลัง ผมก็จะอ่านหนังสือสอบงานราชการไปเรื่อยๆ และมีสอบราชการที่ไหน ก็ไปหาสอบเรื่อยๆ

เพราะในความเห็นส่วนตัว ผมชอบงานราชการอยู่แล้ว

ซึ่งผมสอบไปหลายที่ แต่ไม่เคยสอบติดเลยสักที่ ผมแอบร้องไห้ไปหลายครั้ง หลายหน ท้อแท้ จนแทบเป็นโรคซึมเศร้า

และก็เครียดมาก อยากออกไปจากจุดนี้ และไม่อยากอยู่จุดนี้ต่อไป คือที่ทำงาน ที่ผมกำลังทำอยู่

แต่ที่อยู่มาทุกวันนี้ได้ และมีกำลังใจต่อไป เพราะคำให้กำลังใจ จากคนเป็นแม่

ท่านบอกผมว่า.....คนเรา หากจะท้อ ก็ท้อได้ แต่อย่าถอย...ถ้ายังมีลมหายใจอยู่

ผมก็เลยมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

และสุดท้ายก็ตัดสินใจ อ่านหนังสือสอบบรรจุเรื่อยๆ เป็นประจำทุกวัน แบบไม่ท้อ และฝืนสู้ต่อ

และพยายามหาสอบไปเรื่อยๆ สอบหลายๆที่

ซึ่งในปัจจุบันนี้ กับเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ผมก็ได้ทำสำเร็จในชีวิตแล้ว

คือ ผมสามารถสอบได้ สอบผ่าน และได้ทำงานราชการ สมดั่งใจแล้วครับ

แถมเงินเดือนก็ดี สวัสดิการดี ถือว่ามีความพึงพอใจ และ ok.

และสุดท้าย....ก็ได้ลาออกมาจากที่ทำงานเก่า แบบสมใจอยาก....

สำหรับความรู้สึกในตอนนี้

อยากบอกว่า.....รู้สึกฟิน และมีความภาคภูมิใจ ในทั้งตัวเอง และครอบครัว

จนผมต้องลองย้อนถามตัวเองว่า.......'' เฮ้ย.!!....เรามาถึงจุดนี้ ได้ยังไง.???..''

ปล. พิมพ์ซะยาว ให้ถือว่า เล่าสู่กันฟังแล้วกัน จากประสบการณ์จริง

ขอบคุณครับ

+3 โหวต · 0 ตอบกลับ

ได้ความมานะ เพื่อลบคำสบประมาท

ประสบการณ์ที่ว่ามา มีทุกที่..

เพราะเราก็เคยเจอ พยายามดึงเราเข้ากลุ่ม

ให้แอนตี้หน.งาน ด่าผู้บังคับบัญชา

ขอความเห็น ซึ่งรู้ๆ อยู่ว่า...

ต้องการแค่ความคิดเห็นสนับสนุนกลุ่มเขา

แต่เราเลือกอยู่ข้างความถูกต้อง!!

ฟังดูดีเนอะ แต่ผลลัพธ์สิ

เขาตัดเราออกจากกลุ่มโดยสิ้นเชิง

จนเราสงสัยสุดๆ ว่า...

ตกลงแล้วการยึดความถูกต้อง

เป็นสิ่งที่ควรทำ

แต่ต้องไม่มากไปกว่า

ทำตามสิ่งที่กลุ่มทำ.... ใช่หรือไม่ !?!

หากคุณไม่อยากเป็นเสือ

ที่ต้องหากินตามลำพังอย่างเหงาๆ

ใครก้อได้ช่วยตอบที..!

+2 โหวต · 4 ตอบกลับ

คงต้องเป็นฮายีน่าที่หากินเป็นฝูงซินะ..เหอะๆๆ..

+1 โหวต

สงสารม้าลายเลย

ต้องทนเจ็บปวดแค่ไหน

เมื่อแต่ละเขี้ยวของหมาป่าไฮยีน่ากัด

และฉีกเนื้อตัวออกทีละนิด

เราไม่อยากเป็นหมาป่าหรอก

อยากพึ่งตนเองแบบราชสีห์มากกว่า

"จงโบกโบยโผบินแม้เหน็บหนาว"

+1 โหวต

ธรรมชาติก็ต้องดำเนินต่อไปอย่างงั้น..ไม่งั้นจะมีห่วงโซ่อาหารรึ...

ล่าเพื่อประทังชีวิตหรือล่าเพื่อความบันเทิง..แค่นั้นเอง..

เบื้องหลังของราชสีห์..เจ้าป่า...

ส่วนใหญ่ไม่ได้ล่าเอง..ล่าเอาก็มี..แต่จะเป็นตัวผู้พวกหน้าใหม่วัยรุ่นที่ไม่ได้มีฝูง..

ที่ตัวใหญ่มีแผงขนคอก็เพื่อเอาไว้ขู่พวกสิงโตฝูงอื่นหรือพวกเด็กรุ่นใหม่ที่อยากเทียบรัศมี..แค่นั้น..

สิงโตตัวเมียมีหน้าที่ล่าเป็นหลัก...และเลี้ยงลูก..

พอลูกสิงโตเกิดขึ้นมาแล้วเป็นตัวผู้ส่วนใหญ่จะโดนสิงโตจ่าฝูงฆ่าตาย...เหลือไว้แต่ตัวเมียไว้รับหน้าที่ต่อจากแม่..

ยกเว้นตัวเมียบางตัวที่ฉลาด..เอาลูกไปซ่อน..นั่นแหละถึงได้พอมีตัวผู้เอาไว้แย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป..

+1 โหวต

ก็เข้าใจเรื่องห่วงโซ่อาหาร แต่แยกความเหตุผลกับความรู้สึกออกจากกันไง

ส่วนที่เป็นเหตุผลก็รู้ และเข้าใจ แต่ส่วนที่เป็นความรู้สึกก็ยังอยู่ในจิตใจนะ

สงสารกับยอมรับความจริงจึงอยู่คู่กันได้ไงจ๊ะ คุณป๋า

เราจะเป็น lion king ...เท่ห์มะ? ครุคริ

อยากเป็น โจนาธาน ลิฟวิงตั้น นางนวล

ที่ไม่ต้องบินเหมือนนางนวลตัวอื่น แต่จะบินให้ได้อย่างนกเหยี่่ยว

ถ้าเราเป็นสิงโตตัวเมีย ก็ขอเป็นสิงโตตัวเมียที่ฉลาด

จะซ่อนและสอนลูกให้ดี เพื่อให้ได้ตำแหน่งจ่าฝูงในอนาคตอีกด้วย

ขอบคุณความรู้นะจ๊ะ .. เราชอบตรงนี้แหละ ..

อา-รุน-ซา-หวาด

+1 โหวต

พี่ก็เคยล้มหลายๆครั้ง แต่ยังไม่เคยเหลวเลยครับ อิอิ อย่างเช่น พี่เคยสอบตกบางวิชา สมัยเรียนเศรษฐศาสตร์

พี่ก็เลยได้มาทำงานด้านคอมพิวเตอร์แทน ซึ่งเป็นงานที่พี่รัก ถ้าพี่เก่งด้านเศรษฐศาสตร์ พี่ก็คงไม่ได้ทำงานนี้

ส่วนคำที่ห้ามพูดนั่น ๓ คำแรก พี่พูดบ่อยเลย อย่างเช่น ตอนนี้พี่ก็กำลังทำงานที่ยากมาก แต่ยิ่งยากก็ยิ่งท้าทาย

พี่ยิ่งอยากทำให้สำเร็จ ส่วนเวลาเหนื่อยพี่ก็พักผ่อน เสร็จแล้วก็จะมีแรงสู้ต่อไป เวลาบ่นขี้เกียจมันก็ทำให้พี่คิดหา

อะไรอย่างอื่นทำ หรือคิดค้นทางลัดใหม่ๆที่นำมาใช้ประโยชน์ได้จริงๆครับ

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

ได้โอกาสเริ่มใหม่อีกครั้ง ด้วยความฉลาดมากขึ้นกว่าเดิม..

+0 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ