มีพี่น้องฝาแฝดคู่หนึ่ง ก้าวสู่สนามสอบแข่งขันเข้ามหาลัย
ปรากฎว่าผู้เป็นพี่ชายได้รับจดหมายแจ้งให้ทราบว่า
ได้รับการบรรจุเข้าเรียนจากมหาลัย ส่วนผู้เป็นน้องชายเพียงเพราะสอบได้คะแนนน้อยไปสองคะแนน
ไม่ได้รับการบรรจุ รูปลักษณ์หน้าตาภายนอกของสองพี่น้องนี้ คล้ายคลึงกันมาก
จนแทบจะเหมือนเป็นคนคนเดียวกัน ทว่าอุปนิสัยกลับต่างกันราวฟ้ากับดิน
พี่ชายซื่อสัตย์จงรักภักดี น้องชายสดใสร่าเริง เฉลี่ยวฉลาด พี่ชายพูดจาเงอะงะ
น้องชายพูดจาคล่องแคล่ว พี่ชายถือจดหมายจากมหาลัยยืนเผชิญหน้าอย่างเงียบๆกับพ่อแม่ที่ยากจน
อีกทั้งสุขภาพที่ไม่แข็งแรง น้อง
ชายขังตัวเองอยู่ในห้อง ไม่ยอมดื่มไม่ยอมกิน เอาแต่พร่ำบ่นว่า...
" สวรรค์ไร้ตา จึงมองไม่เห็นผู้มากความสามารถ "
คุณพ่อที่แก่ชราขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สองคืน สุดท้ายก็เอ่ยปากพูดกับลูกชายคนโตว่า
" ให้น้องชายไปเรียนเถิด เขามีคุณสมบัติเหมาะกับการเรียหนังสือตั้งแต่เกิด "
พี่ชายนำจดหมายแจ้งการบรรจุเข้าเรียนของมหาลัย ยื่นใส่มือของน้องชาย
อีกทั้ง..ยืนอยู่ข้างกายน้องชายพูดเพียงว่า
" นี่ไม่ใช่ตั๋วเพื่อผ่านประตูที่จะก้าวสู่สวรรค์ อย่าตั้งความหวังไว้มากมายจนเกินไปกับมัน "
น้องชายไม่เข้าใจ ถามว่า
" แล้วพี่ว่ามันคืออะไรล่ะ "
พี่ชายตอบว่า
" กระดาษดูดซับน้ำแผ่นหนึ่ง เป็นกระดาษดูดซับเหงื่อโดยเฉพาะ "
น้องชายส่ายหัว หัวเราะเยาะพี่ชายว่า พูดแต่คำพูดโง่ๆไร้สาระ
เปิดเทอมแล้ว น้องชายแบกสัมภาระเข้าสู่เมืองใหญ่ อีกทั้งเดินก้าวสู่มหาลัยมีชื่อเสียงโด่งดัง
ส่วนพี่ชายทำเรื่องให้คุณพ่อที่ป่วยไข้บ่อย ออกจากโรงงานปูนซิเมนต์ เพื่อรักษาอาการป่วยไข้ที่บ้าน
แล้วตนเองเข้าแทนที่ ยืนอยู่ข้างเครื่องบดหิน หยิบชะแลงเหล็กที่หนักอึ้งขึ้นมา
บนเครื่องบดหิน มีร่องรอยของคราบเลือด เครื่องจักรเครื่องนี้เคยดูดม้วนนิ้วของคนงานขาดไปหลายคน
ตั้งแต่วันแรกที่พี่ชายก้าวเข้าสู่ตำแหน่งนี้ก็ได้ทำคิดแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้
เขาใช้เวลาไปสามเดือน ทำการปรับปรุงแก้ไขเทคโนโลยีของเครื่อง ทำ
ให้สามารถทำการบดหินได้ปริมาณมากขึ้น อีกทั้งเพิ่มควาปลอดภัยให้สูงขึ้นแก่ผู้ปฏิบัติงาน
ผู้จัดการโรงงานได้ย้ายเขาไปอยู่แผนกเตาเผา
แผนกเตาเผามีฝุ่นคลุ้งกระจาย จำนวนคนงานไม่น้อยที่ต้องเป็นโรคปอด
เขาร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานที่มีฝีมือหลายคน ทำการค้นคว้าปรับปรุงแก้ไขหลายอย่าง
ทำให้สภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานดีขึ้น หลังจากนั้นผู้จัดการโรงงานย้ายเขาไปอยู่ห้องปฏิบัติงานการวิจัย
ในห้องปฏิบัติงานวิจัย เขาศึกษาความรู้เพิ่มเติมจากการอ่านตำรามากมาย
บ่อยครั้งไปทำการสอบถามหาความรู้จากโรงงานอื่นที่มีชื่อเสียง ทำการทดลองบ่อยครั้ง
ทำการวิจัยสารเคมีตัวใหม่ใหม่ จากการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า
ทำให้ในการผลิตปูนซิเมนต์ปริมาณเพิ่ม ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนโรงงานสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ออกมา
อีกทั้งมีตลาดเป็นบริเวณกว้าง ต่อมา เขาก็กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจก่อสร้าง
น้องชาย..หลังจากเข้ามหาลัยแล้ว ปีแรกยังพอมีท่าทีคล้ายคนศึกษาเล่าเรียน
อีกทั้งเคยเขียนจดหมายถามอาการป่วยไข้ของคุณพ่อหลายฉบับ ปีที่สองรู้จักลูกสาวของผู้ร่ำรวยคนหนึ่ง
ทั้งคู่ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักผู้หญิงคนนั้นกลายเป็นกระเป๋าเงินของเขาที่เอาที่ใช้ไม่มีวันหมด
สองปีเต็มที่เขาไม่ได้เอาเงินจากทางบ้านแม้แต่เซ็นต์เดียว แต่กลับกลายเป็นสุดยอดความหล่อความเท่
หลังจากเรียนปีสี่ ผู้หญิงคนนั้นกล่าวบ๊ายบายกับเขา เขาเริ่มจมปลักอยู่ในผับในบาร์
ไม่มีจิตใจเล่าเรียน เวลาสอบอาศัยการทุจริต จึงได้ใบปริญญาบัตรจากมหาลัย
เขาคล้ายดั่งแมลงวันตัวหนึ่ง บินวนไปหนึ่งรอบแล้วกลับมาหางานทำที่ชนบทอีกครั้ง
เขายังพอมีความละอายใจมีสามัญสำนึกอยู่บ้าง ไม่ยินยอมกลับไปพบพ่อแม่ในยามตกต่ำ
จากการแนะนำของตลาดแรงงาน เขาไปสมัครงานที่บริษัทฯขายวัสดุก่อสร้างที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง
ไม่ง่ายเลยกว่าจะผ่านการทดสอบสามด่าน สุดท้ายเป็นการสอบสัมภาษณ์ในห้องประธานบริษัทฯ
เมื่อถึงเวลาทำการสัมภาษณ์ของเขา รอเนิ่นนานท่านประธานบริษัทฯไม่ได้ออกมา
สุดท้ายเป็นเลขาฯออกมาแทน แล้วบอกกับเขาว่า ได้รับการบรรจุแล้ว
ทว่า ต้องเริ่มจากการเป็นคนงานในแผนกเตาเผาก่อน เขารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ
วิงวอนขอร้องพบประธานบริษัทฯให้ได้ เลขาฯได้ยื่นกระดาษบันทึกให้เขาแผ่นหนึ่ง
เขาคลี่ออกดูในนั้นเขียนตัวหนังสือตัวใหญ่ๆมีเนื้อหาว่า
" ต้องการขึ้นสวรรค์ ต้องลงนรกก่อน "
เขาเงยหน้าขึ้น เห็นพี่ชายเดินเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ประธานบริษัทฯ
ใบ หน้าของเขาร้อนวูบวาบจนปวดขึ้นมาทันที
* หากคุณเป็นเพชรเม็ดหนึ่ง ตกอยู่ ณ ที่ใดล้วนจะเปล่งประกายแสง *
==========================================
#นิทานก่อนนอน
Cr.Niwat Rungvicha