ในคำตอบ

เหลือเวลาอีกไม่เท่าไรก็จะเที่ยงคืนหมดไปอีกวันหนึ่งแล้ว

ผมว่าเตรียมแจกแต๊ะเอียดีกว่า ยังมีเวลาเตรียมซองครับ

+1 โหวต · 34 ตอบกลับ

คนที่เป็นภูมิแพ้ บางคนแสดงอาการทางผิวหนัง ทำให้เป็นผื่น ลมพิษ คัน ตัวบวม

บางคนแสดงออกทางเดินหายใจ ทำให้หายใจขัด หอบ เพราะเยื่อบุทางเดินหายใจบวม จาม เป็นหวัด ไอ

บางคนแสดงออกทางเดินอาหาร ทำให้ถ่ายท้อง อาหารเป็นพิษ

การตรวจอย่างละเอียดสามารถแยกสารที่แพ้ และอาการที่แพ้ได้จ้ะ

ชงโอวัลติน ใส่บรั่นดี แน่นะว่าไม่มีน้ำตาล

+0 โหวต

ผมไม่ได้แพ้ภูมิอะไร บางครั้งได้กลิ่นจากการผัดอาหารผมก็เลี่ยงห่างแล้ว

เรื่องการพ่นยาเข้าคอความจริงเลิกใช้มาเป็นปี ๆ เพราะทราบว่าอันตราย

หากใช้มากเกินไป เรื่องน้ำตาลผมไม่ใช้มากอยู่แล้ว ขอบคุณที่แนะนำมา

คราวหน้าชงโอวัลตินผมจะใส่บรั่นดีแทนเพื่อเลี่ยงน้ำตาลครับ

+0 โหวต

(ต่อ)

ทางเดินหายใจ จ้ะ เพื่อนเราไปหาหมอเพราะคิดว่าฝ้าขาวในปอดเกิดจากวัณโรคมาตั้งแต่เด็ก แต่สามสี่เดือนมานี้ หมอเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้บอกว่ามีการวิจัยว่าคนเป็นภูมิแพ้แล้วใช้ยาพ่นมากๆ อาจทำให้เกิดเชื้อราในปอดได้ แต่ไม่ได้เกิดจากแผลวัณโรค เราอธิบายไม่เคลียร์หรอกเพราะฟังผ่านเพื่อนมาอีกที

+0 โหวต

คงเป็นธรรมดาของที่ที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ แหละ ที่มีการแบ่งชนชั้น แบ่งกลุ่ม มีพรรค มีพวก

เพราะคนเป็นสัตว์สังคม การมีกลุ่ม มีพวกทำให้มีความมั่นคงทางจิตใจ ส่วนที่นี่คนน้อย การแบ่งกลุ่มจึงยังไม่เกิด ต่อไปอนาคตหากที่นี่มีสมาชิกที่โชว์ตัวมากกว่าการแอบส่องอย่างทุกวันนี้

ที่นี่ก็คงไม่พ้นการมีกลุ่มพวกอย่างในกูรูแน่ๆ จ้ะ

เรื่องทูอินวัน ทูอินจัน ที่ว่า ฮาดีนะ ...^_^...

แต่เราไม่ค่อยกินโอวันติน ไมโลให้เป็นประจำหรอก น้ำตาลเยอะเกิน

เราอบรมมา วิทยากรบอกว่า ไม่ควรกินน้ำตาลทุกชนิด ทั้งน้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลกรวด

น้ำตาลทรายแดง เพราะเป็นสิ่งสังเคราะห์มา ควรกินน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลอ้อย

เพราะมาจากธรรมชาติ ผ่านกรรมวิธีเคี่ยวเอาส่วนประกอบที่เป็นน้ำออกเท่านั้น

เราว่าคุณไปหาหมอภูมิแพ้ก็ดีเนอะ ว่าแพ้สารอะไรบ้าง จะได้เลี่ยงการสูดดม สัมผัส

เพราะเราว่ามาจากอาการภูมิแพ้ ที่แสดงผลมาทางเดินหายใจแน่เลย

จึงไอมากมายเมื่อสัมผัสสิ่งนั้น ผ่านทางเดินหายใจ เพราะการแสดงอาการแพ้ออกได้หลายทาง เช่น ผิวหนัง ทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ จ้ะ เพื่อนเราไปหาหมอเพราะคิดว่าฝ้าขาวในปอดเกิด

+0 โหวต

ผมว่าที่นี่เปิดกว้างในด้านความคิดตามที่คุณว่า กูรูแบ่งกลุ่มแล้วเชียร์กันเอง

เพราะสมาชิกมากมาย ผมเองคิดถูกแล้วที่ไม่มีชื่อ เข้าไปเล่นแบบเป็นตัว

ของตัวเองจนกูรูปิดตัวไป เรื่องโอวัลตินผมซื้อห่อใหญ่มาแบ่งใส่ขวดเพื่อ

ความสะดวกในการตักใส่ถ้วย สำหรับแบบทรีอินวันหรือทรีอิน-จัน (ฝาแฝด

สยาม)ผมเคยดื่มแล้ว หวานเสียไม่มีดีผมทานไม่ได้ซ้ำผงโอวัลตินก็น้อย

ผมชงดื่มเองดีกว่าได้ผสมผงคอฟฟี่เมทตามความพอใจ สำหรับน้ำตาลนั้น

ผมใช้น้ำตาลสีคล้ำ ๆ ไม่ใช่แบบเกล็ดขาวหรือแบบบราวด์ซูก้า คงทำมาจาก

อ้อยที่คนรักสุขภาพเอามาใส่ในถั่วเขียวต้มทำให้น้ำถั่วเขียวสีขุ่น ๆ ขอบคุณ

ที่ห่วงสุขภาพผมเกี่ยวกับน้ำตาลในเลือด เรื่องนี้ผมไม่ห่วงเท่าไรเพราะไม่ชอบ

ทานของหวานของมันอยู่แล้ว ตอนนี้กลัวอย่างเดียวคืออาการไอจนตัวโยน

เรื่องนี้อธิบายยาก ใครไม่เป็นไม่รู้ผมกลัวยิ่งกว่าโรคหืดหอบอีกครับ

+0 โหวต

เราว่าคนที่นี่มีข้อดีตรงเปิดกว้างทางความคิด

มีมิตรจิตมิตรใจให้เพื่อนสมาชิกด้วยดีเสมอมา (คล้ายกูรู แต่ไม่แบ่งกลุ่มเท่ากูรู)

ความสบายใจจึงมีมากอยู่ และไม่มีทางที่จะห่างหายไปง่ายๆ ในช่วงเวลานี้แน่นอนจ้ะ

เราก็เหมือนกันจ้ะ ... ที่นี่เป็นที่ผ่อนคลาย จากเรื่องราวเครียดๆ ทั้งหลาย ทั้งปวง

ส่วนเรื่องกาแฟเย็น ไม่สันทัด แต่ถ้าเรื่องถนัดต้องโอวัลติน

ก็ดีนะคาเฟอีนน้อย แต่กระซิบนิดนึงด้วยความห่วงใย

ระวังเรื่องน้ำตาลในเลือดสักนิดนะ คนที่มีวัยเกินวัยผู้ใหญ่

มักมีภาวะขับน้ำตาลยากอยู่สักหน่อยจ้ะ

การดื่มโอวัลตินทรีอินวัน หรือใส่น้ำตาลเทียม หรือ สารเพิ่มความหวาน

มีผลต่อตับด้วยนะจ๊ะ

ด้วยความปรารถนาดี

+0 โหวต

ผมคงเข้ามาบ้างหรือหายไปบ้างตามโอกาสเพราะผมชอบที่นี่ และการตอบ

กระทู้แบบของผมเพื่อน ๆ คงยอมรับกันบ้างแม้จะไม่ค่อยมีสาระอะไรแต่

อาจสร้างรอยยิ้มได้บ้างหลังพักผ่อนจากการงานในชีวิตประจำวันที่บางครั้ง

ก็น่าเบื่อแต่จำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตโดยมีรายได้นำมาใช้ในชีวิตประจำ

วันกับตัวเองหรือครอบครัว ส่วนเรื่องชาดัด จัดไปจัดมาขาดกาแฟเย็นไปได้

เรื่องนี้ผมต้องยอมรับเพราะขาดประสบการณ์เรื่องกาแฟ ผมดื่มแต่โอวัลติน

หรือไม่ก็น้ำต้มใบหนุมานประสานกายครับ

+0 โหวต

จ้าาาา.... คุณหายไปนานจนะเราคิดว่าคุณจะถอยหลังกลับไปไหนต่อไหนซะแล้ว

ดีใจนะที่รับรู้ว่าที่นี่ยังมีอะไรๆ ที่คุณมองบวกอยู่ ยังคิดถึง ยังอยากมา และอยากเห็นความเคลื่อนไหว

ที่นี่ตอนที่คุณไม่อยู่ก็เหมือนเดิมๆ มีคำถามเป็นระยะ แต่มีคนตอบห่างๆ ไม่คึกคักเช่นกูรู

คนเดิมๆ ที่อยู่ก็ยังอยู่ คนใหม่ๆ ที่มาเพิ่มก็ไม่มากมายนัก มิตรภาพที่นี่เริ่มอย่างเอื่อยๆ แต่มั่นคง

การเป็นตัวของตัวเองอย่างคุณเป็นก็คงพอเหมาะ พอสมกับตัวคุณ มีความเป็นตัวเอง ที่ไม่ได้ล้ำเส้นใคร

หรือสุดโต่งเกินไป เราว่าแค่นี้ก็พอดีแล้วนะ แต่หากสนิทมาก หรือพบตัวเป็นๆ คุณคงมีอะไรมากมายกว่านี้.เยอะ

แต่ด้วยการคบที่ห่างกัน ไม่ได้เจอกันทุกวัน หรือครั้งละนานๆ เลยทำให้มิตรภาพเดินทางไปแบบข้าๆ

แต่มั่นคง และค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ได้ เหมือนแม่น้ำที่น้ำไหลเอื่อยๆ คล้ายนิ่งอยูกับที่

แต่จริงๆ แล้วมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ....

เข้าใจต่อนะ ชาดัด ไปเป็นชาดำเย็น เป็นโอเลี้ยง และกาแฟดำ แต่ยังไปไม่สุดทางนะคุณ

ยังขาดกาแฟเย็นอีกอย่าง เพราะเป็นตระกูลกาแฟเหมือนเมนูอื่น

เหมือนเป็นสมาชิกใหม่เหรอ?

+0 โหวต

ผมหายไปหลายวันไม่ได้ป่วยหรอก โน๊ตบุ๊คของผมมีการขัดข้องต่อออกไม่

ได้แล้วต้องมีอะไรทำจนไม่มีโอกาสเพราะดึกเกินไป เข้ามาทีนี้เลยกลายเป็น

สมาชิกใหม่ ที่ผ่านมาเขาพูดถึงเรื่องอะไรกันบ้างผมตกสำรวจไม่ทันเหตุการณ์

ผมเพิ่งแก้ไขโน๊ตบุ๊คให้เข้าเน็ตได้ต้องเสียเวลาไปกว่า ๑ ชม.แทบจะเลิกล้ม

ความพยายามเลย...เรื่องการเป็นตัวตนของผมทุกวันนี้ก็เป็นอยู่แล้ว ไม่ได้

เอานิสัยเพื่อน ๆ มาใช้เลย การควบคุมตัวเองเป็นทุกข์กับการเก็บกดผมคงไม่

ทำแน่ กลัวจะกลายเป็นตะโก ชาดัดชาดำเย็นหรือโอเลี้ยงกาแฟดำอะไรทำนอง

นั้น ถ้าเข้าไปอ่านกระทู้ที่ผมตอบในกูรูสมัยก่อนคงพบสำนวนทำนองนี้ หากจะ

เอาผมไปตัดหัวคั่วเค็มหรือดองเค็ม ผมก็เป็นอย่างนี้แหละครับ

+0 โหวต

กลัวคุมอาการไม่อยู่.... ว่างั้น

แหม่ ! เราอยากเห็นคุณเป็นตัวคุณจริงๆ จัง

ว่าถ้าปล่อยตามอิสระคุณจะพูดเพิ่มขึ้น จะไม่สุภาพจ๋า และเพี้ยนได้ขนาดไหน

เราว่าการควบคุมตัวเองมากไปก็ไม่ค่อยดีนะ เพราะทำให้แห้งแล้ง ไม่เป็นธรรมชาติ

เหมือนพวกตะโก ชาดัด ที่ดูรูปร่างเหมาะสม ไม่หนักด้านใด ด้านหนึ่ง มีสมดุลเหมาะเจาะ

แต่ตะโก ชาดัดนั้น ได้สูญเสียความเป็นธรรมชาติในตัวเองไปหมดสิ้น

กลายเป็นสิ่งปรุงแต่ง ถอดความงามตามธรรมชาติออกไปจนหมดเสน่ห์

ลองเป็นตัวของตัวเองแบบชัดสุดๆ ให้เห็นบ้างก็ได้นะ เราไม่พูดในที่รโหฐานหรอก

... รับรอง เราไว้ใจได้ล้านเปอร์เซนต์ ...!!

+0 โหวต

ผมหายไปนานเพราะไม่สบาย ความจริงผมเป็นคนพูดน้อยแต่ไม่ขรึมหรอก

พูดทีไรเพื่อนฝูงหัวเราะได้เกือบทุกครั้ง ส่วนที่ว่าผมอาจจะตอบแบบเกร็ง ๆ

อาจเป็นไปได้ต้องระวังเพราะกลัวเพี้ยงครับ

+0 โหวต

คุณหายไปนานมากๆ ....

แต่เรารับรู้ว่า คุณเป็นคนพูดน้อย ขรึมออก หรือว่าคุณตอบแบบเกร็งๆ

+0 โหวต

ใช่เลยตอนเป็นเด็กผมรู้อะไรไม่ค่อยจริง พูดไปทำไปกลายเป็นตัวตลกให้ผู้ใหญ่

ขบขัน ว่ากันไปก็ดีเหมือนกันที่ทำให้คนรอบข้างอารมณ์ดีเลยติดนิสัยเอามาใช้

ตอนโต เห็นใครมีอารมณ์ดีฉีกยิ้มผมพลอยมีความสุขไปด้วย สิ่งนี้อาจเป็นต้นเหตุ

ให้ผมพูดอะไรให้เพื่อน ๆ หรรษาอยู่เรื่อยครับ

+0 โหวต

คงเป็นตอนเด็กๆ กระมัง เด็กๆ ไม่รู้ เข้าใจผิดได้เสมอ ผู้ใหญ่ที่ดีควรเป็นผุ้แนะนำ ปรับเปลี่ยนความรู้ใหม๋ที่ถูกต้อง ไม่ใช่นั่งหัวเราะขบขันเมื่อเด็กพูดผิด หรือ เข้าใจผิด เพราะทำให้เด็กขาดความมั่นใจที่จะแสดงออกได้

ไม่อยากเล่าจริงๆ เหรอะ เราไม่ขำกลิ้งหรอก รับรอง

เหตุผลตามข้างต้น เราพยายามไม่ทำให้ใครเสียความมั่นใจหรอก เชื่อได้ !

+0 โหวต

ผมทำอะไรต้องมีหลักการเพื่อรู้แจ้งเห็นจริงและไม่ได้คิดว่าใครพูดประชดหรอก

ทำให้ฉลาดเสียอีกที่เมื่อก่อนผมคิดว่ากระเพาะมีขนาดเท่ากำปั้นของผู้เป็น

เจ้าของ ไม่อยากเล่าให้ฟังเลยกลัวขำกลิ้งครับ

+0 โหวต

ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? ต้องมามัดมาผูกกันอย่างนี้หน้ายู่ย่นแย่เลย

ที่พูดมาเราตีความว่าชม ไม่ใช่ประชดนะ

+0 โหวต

ดูแลเรื่องการกินอาหารดีจังมีวินัยเรื่องการกินอ่านแล้วได้ประสบการณ์เกี่ยวกับ

เรื่องระบบการย่อยอาหารของร่างกายแถมมาอีก..ผมต้องไปดูที่กระจกแล้วละ

ว่ากระเพาะผมมีขนาดเท่าไรโดยดูจากครึ่งล่างตั้งแต่ปลายจมูก ปาก คาง หากจะ

ดูให้ชัดเจนผมคงต้องหาแถบผ้าผูกแบ่งอณาเขตตั้งแต่ปลายจมูกเพื่อจะได้ทราบ

ขนาดกระเพาะของตัวเองอย่างแท้จริงเสียทีครับ

+0 โหวต

ไม่แล้วมั๊ง คุณคุมอาหารมาตลอด คนเราถ้ากินทุกมื้อ แต่ระหว่างมื้อไม่กินจุบจิบ เราว่าไม่น่าทำให้อ้วนหรอก เรากินข้าวทุกมื้อครบนะ เว้นวันหยุดบางทีก็สองเพราะเริ่มมื้อเข้าสายหน่อย เลยรวมกับมื้อเที่ยง แต่เรากินพออิ่มไม่ได้อิ่มแปร้ทุกมื้อ เราเรียนมาว่ากระเพาะอาหารของคนเรามีขนาดเท่าครึ่งล่างของใบหน้าคนนั้น คือ เอาหน้าคนนั้นมาแบ่งครึ่งจากบนลงล่าง แล้วครึ่งล่างที่มีปลายจมูก ปาก คาง นั่นมีขนาดเท่ากระเพาะอาหารของคนนั้น ถ้าคนเราทานอาหารไม่เกินกว่านี้ ก็จะไม่อ้วน อีกอย่างอาหารที่กินจะไปถึงลำไส้เล็กประมาณ ๕ ชั่วโมง แล้วก็ดูดซึมสู่ร่างกาย ระหว่างมื้อจึงควรมีเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า ๕ ชั่วโมง ถ้ากินบ่อยก็ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารตลอดเวลา ที่เหลือก็จะเป็นส่วนเกินที่เผาผลาญไม่หมดเก็บสะสมไว้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เราเลยมีน้ำหนักเฉลี่ยเท่าเดิมมาตลอด อาจขึ้นลงบ้างแล้วแต่ช่วงเวลา แต่เราพยายามคุมน้ำหนักนะ ถ้าเริ่มเกินก็ลดขนมหวาน หรือทานให้น้อยกว่าเดิมหน่อย ระยะหนึ่งเมื่อร่างกายดึงส่วนที่สะสมมาใช้เรื่อยๆ น้ำหนักก็ลดจนเข้าที่ได้ โดยไม่เหลว ไม่เผละ จ้ะ แล้วก็ไม่ต้องกังวลจนอดกินโน่น นี่ นั่น จนแทบไม่มีความสุขในการกินอีกด้วย

+0 โหวต

ผมไม่ทานอาหารเย็นแบบเป็นมื้อหนักมานานแล้ว จะทานผักผลไม้เป็นหลัก

ถ้าหิวจะทานขนมปังโฮลวีตทาด้วยเนยถั่วลิสงแล้วราดด้วยน้ำผึ้ง ๑ คู่ ถ้าหิว

มากก็ ๒ คู่ พร้อมโอวัลตินร้อนอีก ๑ ถ้วย ทานเหมือนอาหารเช้า ผมไม่ทาน

มากในตอนเย็นเพราะกลัวห่วงยางจะแวะมาเกาะที่พุงผมอีก ขอบคุณที่ชวน

ทานข้าวครับ

+0 โหวต

จ้าาาา.... คุณพ่อ

เราก็พูดไปงั้นแหละ สุดท้าย เราก็ยังเป็นเรา บ้าๆ บวมๆ ตลกบ้าง เครียดบ้าง ห่วงใยตัวเองบ้าง ละเลยบ้าง บลาๆ

ทานข้าวยังคุณ .... ทานข้าวกันจ้ะ

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ