การหลุดพ้นจากความทุกข์-ทางร่างกาย ก็คือ "ความตาย"

เพราะตราบใดที่เรายังหายใจอยู่ เซลล์เสื่อมไปทุกวัน แก่ลงไปทุกวัน

โรคภัยไข้เจ็บย่อมตามมาทุกคน การเสื่อมสภาพทางร่างกาย = ทุกข์

ส่วนการเอาตัวรอดจากอันตราย รอดในวันนี้ พรุ่งนี้อาจไม่รอด

รอดมาได้ครั้งหนึ่ง แน่นอน จิตยังกังวลอยู่ ว่าวันหน้าจะโชคดีแบบนี้อีกไหม จะรอดไหมหนอ?

การหลุดพ้นจาความทุกข์-ทางสมอง คือ เมื่อเราเป็นอันไซเมอร์

เพราะเราจำอะไรไม่ได้ ความทุกข์ย่อมเกิดจากภาพในสมองที่ผ่านมา

แต่คนจำอะไรไม่ได้ สมองว่าง ไม่มีห่วงหน้าห่วงหลัง พ้นทุกข์แน่ๆ

ส่วนการค้นคว้าของนักวิทยาศาสาตร์ หรือหมอเพื่อช่วยผู้ป่วยนั้น

ก่อนจะค้นคว้าได้สมองเกือบแตก และเมื่อรักษาคนไข้ได้แล้ว ก็เครียดอีก

คนไข้จะหายไหมหนอ จะตายไหมหนอ ทุกข์และเครียดหนักเข้าไปอีก

การหลุดพ้นจากความทุกข์ - ทางจิตใจ น่าจะมีแต่ความสงบเท่านั้น

การรู้จักปล่อยวาง เป็นวิถีทางสงบสุข เมื่อสงบ ก็จะหมดทุกข์ทางใจ

จะไปบวชสีกาก็ตามไปเกาะขาอีก

สู้นั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง ให้สงบ นั้นแลจะพ้นทุกข์

สำหรับผู้ที่จิตใจสูง คือเทพ การเป็นเทพนั้น

ถ้าได้อ่านเทพปกรณัมไม่ว่า เทวดาจีน ไทย ฮินดู กรีก

ล้วนแต่มีบทบาท คล้ายๆ มนุษย์ แต่สำแดงฤทธิ์ได้

การเป็นเทพบนสวรรค์นั้นย่อมเคยทำตัวดีมาเลยไปเกิดเป็นเทพ

แต่ถ้ายังไม่ตาย แล้วฉลาดขั้นเทพ หรือทำตัวได้ดีเสมือนเทพ

หรือเล่นกีฬาเก่ง หรือหล่อขั้นเทพ นี่ก็เทพอีก

แต่ทุกเทพนั้นแระ ต้องมีสมอง ต้องฉลาด ต้องมีคุณธรรม หรือต้องมีดีอะไรโดดเด่น

หากไม่มีสมองนั้น จะรู้คิดรู้ทำในสิ่งที่จรรโลงให้จิตใจของตัวเองสูงส่งได้อย่างไร

สรุปว่า "เทพสมอง-กลวง" นั้นไม่มี เป็นไปไม่ได้

หากร่างกายแข็งแรงอย่างเดียว คิดอะไรคิดไม่ออก นั้นก็ไม่ใช่เทพ แต่เรียกว่า "ไอ้ทุย"

สรุป-เทพต้องมีดีอะไรสักอย่าง และมีสมองด้วย

ถึงคนทั่วไปจะยกย่องว่า คนๆ นี้ "ขั้นเทพ" ได้