ในคำตอบ

ทั้งสองข้อ เป็นเรื่อง ของการไม่สำรวม หรือมีกิริยาไม่เหมาะสมมากกว่าจ้ะ

ไม่น่าผิดวินัยนะ

พูดถึงเรื่องพระเข็นรถ เรามีประสบการณ์ตรงจะเล่าให้ฟัง

หลายปีก่อน รถที่พี่ชายเราขับไปธุระกับเราที่จังหวัดสุโขทัย

แต่ปรากฏว่ารถดับหน้าวัดแห่งหนึ่ง ทำไงดีล่ะ ... ? ?

เราก็ตัวเล็ก พี่ชายเราคนเดียวเข็นจนให้เครื่องติดด้วยตัวคนเดียวก็ไม่ไหว

มองไปมองมาเห็นว่าในวัดมีพระนั่งอยู่ ห้าหกรูป กับฆราวาสอีกหนึ่งคน กำลังมองมาทางเรา

เราไม่รู้จะทำยังไง .. หาอู่ก็ไม่รู้อยู่ไหน พยายามสตาร์ทเครื่องติดๆ กันหลายครั้ง..ก็ไม่สำเร็จ !

พระที่นั่งก็มองอยู่ แต่นิ่งๆ ไม่ได้ช่วยเหลืออะไร

สักพักคงเห็นเรายืนเซ่อๆ อยู่ เพราะไม่รู้จะทำยังไง

พระเลยให้เด็กวัดเดินมาบอกว่าให้เข็นรถเข้าไปในวัด

ตอนแรกคิดว่ามีพระหรือใครเป็นซ่าง คงจะมาดูอาการให้

พอศิษย์หนึ่งคน กับพี่ชายเราอีกหนึ่งพยายามเข็นเข้าใปในวัด

พระท่านบอกว่าเห็นพี่ชายเราติดเครื่องบ่อย ท่าจะน้ำมันท่วม อย่างนี้สตาร์ทไม่ติดหรอก

ต้องเข็นจนเครื่องยนต์ติดจึงไปได้ จึงให้ลูกศิษย์ไปตามให้เข็นเข้ามาในวัด

จากนั้นพระให้เข็นไปโน่นเลย.... ที่ลับตาคน

แล้วพระท่านห้าหกรูปก็ช่วยกับเด็กวัดและพี่ชายเรา เข็นรถให้...จนสตาร์ทติด ...

ท่านให้เหตุผลว่า เป็นพระต้องสำรวม ไม่สามารถออกไปเข็นรถริมถนนได้ เพราะไม่สำรวม ดูไม่งาม

แต่อยากช่วย เลยต้องใช้วิธีนี้ ... นี่คือประสบการณ์ตรงจากเราจ้ะ

+3 โหวต · 5 ตอบกลับ

๕ ๕ ๕ ๕

นึกว่าภาษาบาลี

เครเลย !! ....

+1 โหวต

ที่ตั้งไม่ตั้ง จะมาตั้งที่กุจะนั่ง

ประมาณนี้

+1 โหวต

@ light

จ้ะ ... เราก็ซึ้ง พระก็วัยทำงานนี่แหละ ไม่ใช่เด็กนัก แต่ก็ไม่แก่

ที่เราชื่นชม คือ พระทุกรูป รู้ได้ด้วยตนเองว่า ..ควร หรือ ไม่ควร แสดงกิริยาเช่นใด

ไม่เหมือนพระในกรุง หรือเมืองใหญ่

นอกจากไม่สำรวมแล้ว หลายรูปยังเข้าข่ายทำผิดวินัยสงฆ์จนถึงขั้นปราชิกด้วย

@ ทีตังมิตัง มะตังทิกุจะนัง .(แปลว่าอะไรเหรอ?)

ไม่อยากให้เสียภาพพจน์พระดีต่างหากคุณ

+2 โหวต

เรียกว่าทำดีไม่อยากให้ใครเห็น

+2 โหวต

เยี่ยมเล้ย

อ่านแล้วซึ้งมากๆ

+2 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ