ในคำตอบ

รู้ได้ไงว่าเรื่องที่พิมพ์อ่ะจริง หรือว่ามโนไปเองตามอคติ มีพยายานหลักฐาน

หรือพร้อมจะเชื่อเพราะตรงตามอคติของตนเอง คนอะไรหาดีไม่เจอ เลวจังนิ

คนๆเดียวกัน อาจมองได้หลายมุมมอง คนเราจะเชื่อตามที่ตนเองอยากเชื่อ

ทั้งๆที่อาจไม่จริงเสมอไป ขนาดแพทย์ยังวินิจฉัยต่างกัน เนื่องจากบางท่านอาจ

มิใช่แพทย์เฉพาะทาง ทำไมบางคนหาแพทย์บางท่านรักษาหาย บางคนไป3ครั้ง

ยังไม่หาย คิดว่าเพราะอะไร เราไม่แคร์นะ ไม่เล่นมาย ไม่ตายหรอก ไม่เสียเวลาด้วย

โลกออนไลน์ ถ้าใจแคบอคติ ก็ไม่มีปย.อะไร เพราะจะครอบงำและบิดเบือนความคิด

ได้ง่าย คงไม่ฉลาดขึ้น 5555

+0 โหวต · 3 ตอบกลับ

'' Countryside '' คุณไม่ใช่ผู้ดูแลระบบ และคุณไม่ใช่เจ้าของที่นี่

แต่ที่นี่คือ.....สังคมแห่งเสรีภาพของการแชร์ความรู้ ความคิด ความรู้สึก คำถาม คำตอบ มิตรภาพ และอื่นๆ....

ฉะนั้น...คุณไม่มีสิทธิที่จะกระทำการ '' ละเมิด '' สิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ในทางที่ไม่ถูกต้อง ทุกกรณี...

ถึงแม้การกระทำของคุณ แค่แสดงออกมาเป็นเพียง '' ตัวอักษร '' ในโลกโซเชียลก็จริง...

แต่........ให้ความรู้สึกถึงความรุนแรง ดูถูก เหยียดหยาม มีอคติ และไม่ให้เกียรติผู้อื่น ไปในตัว

อาจทำให้ผู้อื่นนั้น เสียชื่อเสียงตามมาได้.....

คุณมีความคิดและการกระทำเช่นนี้ มาหลายครั้งแล้ว....และหลายๆคน ได้สังเกตุมานานแล้ว

ถือได้ว่า....เข้าเครือข่ายความผิดฐาน '' ดูหมิ่น '' หรือ '' หมิ่นประมาท '' ไปในตัว...

ตามกฏหมายอาญา + พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์

ฉะนั้น.....กรุณาหยุดความคิดและการกระทำเช่นนี้เถอะครับ

ก่อนที่คุณอาจกลายเป็น '' ผู้ต้องหา '' กับฐานความผิดนี้ ไปโดยไม่รู้ตัว....

ดีไม่ดี สังคมอาจจะมองคุณ หรือประนามว่าเป็น..'' บุคคลวิกลจริต ''..

'' เตือนด้วยความหวังดี '' ok.

+1 โหวต

การเห็นต่างไม่ผิด แต่ติที่พูดตำหนิความคิดผุ้อื่น ซึ่งพบเห็นการกระทำเช่นนี้เสมอ ในหลายคำถามที่ไปตอบร่วมกัน การตัดสินผู้อื่นที่คิดต่าง ด้วยถ้อยคำหยามเหยียด เป็นกิริยาที่ไม่สมควร ยิ่งต่อว่าผู้อื่นว่าตัดสินคนด้วยความคิดส่วนตัว และอคติ ที่มองคนในแง่ร้าย ทั้งที่ตนเองก็ทำไม่ต่างกัน เป็นภาพสะท้อนที่ไม่ต้องมีคำอธิบายเลยว่าผู้นั้นเป็นคนเช่นไร

แต่คนบางคนที่ไม่แคร์ ไม่ตายถ้าไม่ได้มาเล่นมาย ก็ขยันตอบจัง โลกออนไลน์ใช้ให้เป็นก็มีประโยชน์ ทำให้คนฉลาดขึ้นได้ แต่คนบางประเภทต่างหากที่ใช้สื่ออนไลน์ไม่เป็นจึงไม่ได้รับประโยชน์ ต่อให้อยุ่นานแค่ไหน ถ้ามองโลกแคบๆ ด้านเดียว ก็ไม่ต่างจากน้ำล้นแก้ว ทำยังไงก็มีแต่ล้นออก

ขอบคุณและยินดีที่แวะมาตอบ

อย่างน้อยก้ทำให้เราได้รื้อฟิ้นความรู้ ความเข้าใจวิชาด้านความแตกต่างระหว่างบุคคลอีกครั้ง

+1 โหวต

ประสาทสัมผัสไม่ผิดปกติ กลิ่นหอมก็รู้ว่าหอม กลิ่นเหม็นคงไม่ต้องรอใครมาบอกเช่นกัน

การพูดคุยระหว่างเดินทางเป็นเรื่องปกติ ไม่เคยคิดรังเกียจ แถมชอบ ที่เป็นโอกาสได้มุมมอง หรือรับรู้สิ่งใหม่ๆ อีกด้วย แต่บางกรณีที่พบเจอก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน

ผู้ตอบอาจไม่เคยพบเจอคนมีกลิ่นปากมากกว่า จึงแยกยากระหว่างหอม-เหม็น... เรื่องการมีกลิ่นปาก ไม่เกี่ยวกับเป็นคนดี-เลว ควรแยกจากกันให้ออก และแค่การมีกลิ่นปากก็ใช่ว่า ทำให้คนนั้น"ไม่มีดี" อย่างที่เข้าใจด้วยนะ ...ไม่ควรใช้อคติส่วนตัวมาตัดสิน และไม่ควรนำข้อบกพร่องของคนมาเป็นตัวตัดสินว่าเขาเลว หรือดี เช่นกัน

ถ้ากล่าวว่าแต่ละคนวินิจฉัย ด้วยความรู้ ด้วยประสบการณ์ที่ต่างกัน ทำให้จัดระดับมาก น้อยไม่เท่ากัน เรื่องนี้ไม่เถียง บางคนบอกเหม็นมาก บางคนบอกเหม็นน้อย แต่ถ้ากล่าวว่าผู้ถามมโมว่าเหม็นทั้งที่หอมคงเป็นการมองผู้อื่นด้วยอคติส่วนตัวเกินไป

การเห็นต่างไม่ผิด แต่ติที่พูดตำหนิความคิดผุ้อื่น ซึ่งพบเห็นการกระทำเช่นนี้เสมอ ในหลายคำถามที่ไปตอบร่วมกัน การตัดสินผู้อื่นที่คิดต่าง ด้วยถ้อยคำหยามเหยียด เป็นกิริยาที่ไม่สมควร ยิ่งต่อว่าผู้อื่นว่าตัดสินคนด้วยความ

+1 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ