อยากประกาศดังๆ ให้ก้องหล้า

คนไทยรักในหลวงอย่างสุดจิตสุดใจจริงๆ

เห็นได้จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในท้องสนามหลวงและหลายๆ แห่งในประเทศ

เริ่มจากการแบ่งน้ำใจที่เราพบแห่งแรก คือ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ที่คณาจารย์และนักศึกษา ช่วยกันบริการน้ำดื่มฟรีให้แก่ประชาชนที่มายังพระบรมมหาราชวังอย่างเนืองแน่น

จากนั้น เราได้เห็นและได้ทราบว่า คนมากมายมาร่วมทำความดี ร่วมทำกิจกรรมดีๆ ให้ต่างชาติได้เห็น อีกมากมาย

เช่น เมื่อมีผู้คนมากมายมีขนม อาหาร น้ำ มาให้บริการแก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า

ก็จะมีขยะมากมาย ทำให้ท้องสนามหลวงเริ่มสกปรก หน้าบ้านพ่อ เริ่มมองไม่สวยงาม

ลูกๆ บางกลุ่มก็นำถุงดำมาเก็บขยะตามพื้น สอบถามคนที่นั่งหรือยืน ว่ามีของที่จะทิ้งหรือไม่

หากมี ใส่ถุงดำที่ถือมาได้เลย นั่นก็เป็นความดีเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่เพื่อพ่อหลวง

เมื่อประชาชนหลายคนที่มีรายได้น้อย ประสงค์จะถวายความอาลัยด้วยการแต่งกายสีดำ

แต่ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะจัดหา จัดซื้อ เครื่องแต่งกายหลายๆ ชุดมาไว้สวมใส่จนครบหนึ่งปีตามที่ตั้งใจได้

กลุ่มคนหลายกลุ่ม ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กศน.ทั่วประเทศ ดาราอย่างอารยา เอ ฮาร์เก็ต และประชาชนที่ขันอาสา

รับย้อมผ้าสีให้เป็นสีดำโดยไม่คิดค่าจ้าง หรือ บางคนนำเสื้อสีที่ไม่ใช้แล้วมาบริจาคให้

เมื่อย้อมแล้วจะได้นำไปแบ่งปันกัน เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

กลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งเป็นกลุ่มแรกที่ตั้งใจให้บริการรับส่งผู้มาร่วมไว้อาลัยฟรี ฟรี

แล้วขยายไปยังกลุ่มรถจักรยานยนต์ยี่ห้อต่างๆ ที่มีการรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมบางอย่างอยู่แล้ว

มาร่วมด้วยช่วยกัน ในการบริการรับส่งผู้คนจากที่จอดรถ ไปยังพระบรมมหาราชวัง และบริการรับกลับไปยังที่จอดรถ

อีกทั้งรถเมล์บริการฟรี เรือด่วน เรือข้ามฟาก และรถรับส่งฟรีจากบริษัทเอกชนอีกหลายแห่ง ..เห็นแล้วชื่นใจ...

นี่ยังไม่นับภาพการแสดงความจงรักภักดี ความอาลัย ของผู้คนนับแสนคนที่มาจุดเทียน วางดอกไม้

นอกรั้วพระบรมมหาราชวังอีก ที่แต่ละคนนอกจากกราบด้วยน้ำตานองหน้า

แล้วยังใช้ฝ่ามือแนบที่กำแพง เหมือนส่งความจงรักภักดีผสมความโศกเศร้า

ไปยังพระบรมศพที่ตั้งอยู่ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

แม้อยู่ห่างไกล แม้ไม่อาจเข้าไปนั่งในพระที่นั่งใกล้ๆ พระองค์ท่านได้

แต่การแนบฝ่ามือที่กำแพง เป็นภาพที่ให้ความรู้สึกได้มากจริงๆ

จนเราไม่อาจเก็บน้ำตาไว้ได้ทุกครั้งที่เห็น ...

เราชอบถ้อยคำที่บอย ปกรณ์ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า .....

" ...สิ่งที่เขาทำเพราะถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน และทำในฐานะลูกของพ่อหลวง

ที่ช่วยเหลือลูกพ่อหลวงด้วยกันทำความดี เมื่อต่างเป็นลูกของพ่อหลวงแล้ว ทุกคนก็เปรียบเสมือนเป็นพี่น้องกัน ..."

ทุกสิ่งที่เกิดเป็นปรากฏการณ์นี้ ถ้าไม่รักจนสุดหัวใจ คงไม่มีการทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความพร้อมเพรียงได้เช่นนี้

...

...

หากพระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดชจะรับทราบด้วยญาณใดๆ

พระองค์คงปลื้มพระทัยที่ได้ทรงทราบว่า "ลูกรักพ่อของแผ่นดิน" มากเพียงใด

พระองค์ท่านคงหายเหนื่อย เมื่อทรงทราบว่า ...

สิ่งที่พระองค์ทรงเหน็ดเหนี่อยพระวรกาย ตรากตรำ

และทรงงานหนักจนไม่ได้พักผ่อน เพื่อให้ผสกนิกรได้อยู่ดี กินดี

และเคยตรัสว่า เป็นการเดิมพันพระกรณียกิจนี้ด้วยชีวิต

เนื่องจาก เป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ

ทำให้ประชาชนทุกคนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

และรักพระองค์อย่างสุดหัวใจ ดั่งที่แสดงให้ชาวโลกได้เห็นแล้วในวันนี้

แล้วท่านหล่ะ .... มีสิ่งใดที่ได้เห็นจากการนี้บ้าง ...? ? ...

มาแบ่งปันเพื่อเป็น.. กำลังใจ.. ให้กันและกัน

ในยามที่น้ำตานองแผ่นดิน กันบ้างนะ ..

5 คำตอบ · +7 โหวต · 0 รายการโปรด · 52 อ่านแล้ว

ห็นข่าวออกมาแบบนี้ก็ชื่นใจนะมีแต่คนไทยตั้งใจทำเพื่อพ่อหลวงของเราดีมากๆๆๆๆขอให้คุณและครอบครัวของคุณและทุกๆคนทีร่วมกันทำความดีในครั้งนี้ มีแต่ความสุข และความเจริญตลอดไป ถึงเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่

แต่ก้อได้เห็นความสามัคคีอันใหญ่ยิ่งทำความดีไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายแค่ทำด้วยใจแต่ผลที่ได้มันยิ่งใหญ่มาก นี่แหละคนไทยตัวจริงอยากเห็นคนไทยรักกันแบบนี้ตลอดไป

+3 โหวต · 31 ตอบกลับ

ทำงานเยอะๆแบบนี้เหนื่อยแย่ สู้ๆจ้าาา

+0 โหวต

ขอบคุณจ้ะ ..

มีหลายคนบอกว่าเราใช้ร่างกายมากเกินไป ทำให้นึกถึงพ่อหลวงเลย

พระองค์ท่านใช้ร่างกายหักโหมมากจริงๆ

+0 โหวต

หูยยยย... เขียนยาว

ในยามนี้เราได้เห็นว่าคนไทยรักในหลวงมากแค่ไหน

แต่ ในความรักนี่บางคนก็รักจนสิ้นสติ ... ดังจะเห็นได้จากข่าว

เราชอบประโยคหนึ่ง ของ ม.ล. มิ่งมงคล โสณกุล

"รักที่สุดคือในหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักในหลวงจนเสียสติ"

+4 โหวต · 1 ตอบกลับ

นี่ล่ะ คือความมหัศจรรย์ของไทย ที่สามารถทำให้ทั้งโลกได้รับรู้ ว่าชาวไทยรักพระองค์มากมายขนาดไหน.???

และมันมีอยู่จริง มันคือเรื่องจริง ที่ยิ่งกว่านิยายจริงๆ.....

..........king of king............

+3 โหวต · 3 ตอบกลับ

เห็นด้วย คิง ออฟ คิง จริงๆ

และชื่นใจที่เห็นกษัตริย์แห่งภูฏาน เสด็จมาคารวะพระบรมศพด้วยพระองค์เอง

แสดงว่า ท่านยกย่องให้พระมหากษัตริย์ไทย เป็นต้นแบบในการครองราชย์

ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ราษฎร์ภูฏานจะได้รับการดูแล ราวกับพ่อดูแลลูก

เฉกเช่นเดียวกับ พ่อของแผ่นดินที่ดูแลผสกนิกรไทย

+1 โหวต

ผมเชื่อว่า ดินแดนภูฏานจะได้ความสุขร่มเย็น และราษฏรทั้งหลาย จะรักกษัตริย์ของประเทศเขา มากมายแน่นอน

เหมือนประเทศไทยนั่นล่ะ

เพราะกษัตริย์ภูฏาน ถือนำพ่อหลวงของเรา เป็นต้นแบบ เป็นตัวอย่างในการปกครองประเทศ

+2 โหวต

เห็นด้วย

ล่าสุดเราเห็นพระราชาธิบดีแห่งภูฏานไปเยี่ยมเยียนราษฎรเช่นเดียวกับองค์ภูมิพลด้วย

เห็นแล้วชื่นชม พระอัจฉริยภาพขององค์ภูมิพล

+1 โหวต

ไม่มีองค์ไหนที่มีบารมี และเป็นศูนย์รวมของจิตใจคนไทยได้เท่านี้แล้ว

+2 โหวต · 3 ตอบกลับ

อย่าลืมสมัย รัชกาลที่ ๕

+1 โหวต

อืมช่วงนี้มีแต่ ร.๙ แต่ละองค์ก็มีบุญคุณต่อประเทศเราจริงๆครับ

ขอบคุณมากครับ

+0 โหวต

ขออนุญาตเพิ่มเติม

" ตั้งแต่เราเกิดมา ไม่มีองค์ไหนที่เป็นศูนย์รวมของจิตใจคนไทยได้เท่าพระองค์นี้อีกแล้ว"

มั๊ยจ๊ะ

+1 โหวต

รักท่านก็มีมาก

ทำให้คนเกลียดท่านก็มี พวกสติแตก

ไปร่วมงานก็ทิ้งขยะ

ด่าคนที่ต่าง

นี่หล่ะคนไทย

แถม น่าเบื่อสื่อนอก ทำข่าวผิดๆ

คนไทยก็แชร์ผิดๆ

+2 โหวต · 1 ตอบกลับ

คนไทย ขาดการตรวจสอบ ตรวจทาน

ด้วยความรู้สึกเศร้าโศก จึงให้อารมณ์ความรู้สึก อยู่เหนือสติไปนิดนึง

เหมือนที่ใครบางคน บอกเราว่า รักจนเสียสติ ซึ่งฟังดูแรงมากนะ

แต่เราพยายามตีความให้เป็นแง่ดีว่า คงหมายถึง เศร้าจนขาดสติ

+1 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ