บททดสอบความตั้งใจ

คุณๆ คิดว่า ...

คนเราหากตั้งใจทำอะไรดีๆ แล้วจะต้องผ่านบททดสอบจิตใจทุกครั้งหรือไม่

.

เรากินเจ และตั้งใจว่าจะเพื่ออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศล

ให้เจ้ากรรมนายเวร และอโหสิกรรมคนบางคน

ที่มักมากวนความสงบในใจ

คนที่คุยกันทีไร ทำให้เราหงุดหงิด และหลุดความโกรธ

แม้เขาจะเป็นแบบนี้กับทุกคน

และทุกคนไม่คิดจะอโหสิกรรมให้เขา

แต่เราคิด ... และตั้งใจจะทำให้

แต่ก็ไม่วายมีเรื่องเถียงกับเขาอีกจนได้

คุณคิดว่า.. นี่คือ บททดสอบเราหรือเปล่า

ว่าเราจะสามารถก้าวผ่านการให้อโหสิกรรมต่อเขา

ได้หรือไม่

ช่วยแนะนำ หรือแสดงความคิดหน่อยจ้ะ

.

ขอบคุณล่วงหน้านะจ๊ะ

5 คำตอบ · +2 โหวต · 0 รายการโปรด · 77 อ่านแล้ว

คิดว่าเป็นแบบทดสอบ มันก็เป็นแบบทดสอบ

คิดว่าเขาเป็นเจ้ากรรมนายเวรก็ควรละเว้นที่จะเถียงเขาให้มาก จะได้ไม่ผูกเวรในวาระโอกาสต่อไปในครั้งหน้า

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

ขอบคุณจ้ะ

เราก็พยายามเลี่ยงมาตลอด

นับแต่คิดว่าเขาคืดเจ้ากรรมนายเวร

เดี๋ยวนี้เราสบายใจแล้ว

เพราะเขาย้ายไปที่อื่นแล้ว

คงหมดเวรหมดกรรมกันเสียที

+0 โหวต

ก่อนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบรรลุ นิพพาน ท่านก็เจอพญามาร ขันธมาร

เกดก็เคยนะ พอคิดตะทำอะไร ขนาดเรื่องง่ายๆ ยังโดนทดสอบว่าจะเอาแน่หรือเปล่า

ยิ่งถ้าไซคีจะทำดี ก็โดนวัดใจได้

แต่ถ้าผ่านได้ ก็เกิดผลดีงาม

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

จ้ะ ตอนนี้นู้สึกเฉยๆ วางเฉยได้ระดับหนึ่งแล้ว

และคาดว่าจะทำได้มากขึ้นเป็นลำดับ

เพราะต่างก็เลี่ยงการปะทะ

ก็ดีนะลดการก่อกรรมต่อกัน

+1 โหวต

รู้ป่ะ ว่าการทดสอบนั้น มันเป็นการทดสอบความเข้มแข็งของจิตใจ และปณิธานที่ตั้งไว้นะ ว่าจะเข้มแข็งเพียงใด ไม่ใช่ว่า แค่ทำได้หนึ่งครั้ง แล้วคิดว่าตนเองทำผ่านนั้น มันคงไม่ใช่ เพราะว่า ถ้าคิดว่าทำผ่าน ถ้าอีกครั้งมีมาอีก แล้วทำไม่ได้ล่ะ นั่นไง ดังนั้น จึงต้องเกิดการทดสอบสภาพจิตใจของคนเราให้เข้มแข็งขึ้น เพือสร้างภูมิต้านทานทางด้านจิตใจ กำลังใจให้มนุษย์ผู้นั้นได้เป็นอย่างดี ว่าคราวต่อไป หากเจอผลกระทบแบบนี้อีก ถ้าเราทำได้ ทนได้ต่อไปเรื่อยๆ ต่อไป เมื่อพลังใจของเราเข้มแข็ง เจออะไรมากระทบ เราก็จะได้เฉยๆ ไม่หวั่นไหวไปกับมันไงล่ะ ขอยกตัวอย่าง เช่น เรื่องพระเวสสันดรไง พระเวสสันดรท่านให้ทาน ทานคนมากๆ ชูชกจึงเป็นตัวทดสอบว่า ถ้าขอแม้กระทั่ง พระราชบุตร พระราชธิดาจะได้หรือไม่? ขอในสิ่งที่คนธรรมดาเรานั้น ถ้าเคยให้มาแล้ว คงจะให้ครั้งนี้ได้ยากยิ่ง แต่พระเวสสันดรท่านทรงกระทำได้ ทรงประทานพระราชบุตร พระราชธิดาได้ เพราะพระองค์ท่านมีปณิธานที่แน่วแน่ในการให้ เพื่อสร้างบุญกุศล ยึดถือยึดมั่นในการทำความดี ในการสร้างบุญกุศล จึงไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด หรือ อย่างเช่นเรา ถ้าให้เพือนยืมเงิน ตั้งใจช่วยเหลือเพือน เพื่อให้พ้นจากความยากจน แต่เพื่อนก็ยังแวะมารบกวนยืมเงินอยู่บ่อยๆ ยืมเป็น 40-50 ครั้ง คือ เพื่อนจนจริงๆ เดือดร้อนจริงๆ ครั้งแรกๆ ที่ให้เพืือนยืมน่ะ คราวต่อไป พลังใจของเรา จะให้เพื่อนได้อีกหรือไม่ ในเมื่อเพืือนรบกวนไม่หยุดหย่อน เป็นต้น

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

เราพยายามอยู่นะ พยายามที่จะไม่มีความรู้สึกบวกหรือลบต่อเขา ต่อชื่อของเขา ต่อไปวันกน้าพบเจอก็จะพูดเรื่องงาน และหากเขากระตุ้นให้เรากงุดหงิดก็พยายามบอกตัวเองว่าให้หยุดโดยเร็วที่สุด

.

ช่วงนี้เรากับเขาก็ไม่ค่อยได้พบเจอกันหรอก เราไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกัน การพบแล้วมีจิตหงุดหงิดต่อเขาเหมือนแรงกรรมดึงให้มาใกล้กัน คิดดีต่อกันกรรมดีก็ดึงมาใกล้ คิดลบต่อกันกรรมร้ายก็ดึงมาใกล้

ถ้าร้ายกันไปร้ายกันมากรรมไม่ดีก็ไม่หยุด เราคิดว่าถ้าเขาทำให้เรารู้สึกบวกต่อกันไม่ได้ เราจะเป็นฝ่ายทำให้ไม่มีความรู้สึกต่อเขา ทั้งบวกและลบดีกว่า ประมาณว่าทำใจให้นิ่ง ให้เป็นกลาง มัชฌิมาไปเลย

.

คุณคิดว่ายังไง??

+0 โหวต

เราคิดว่าทุกๆคนทีพอเริ่มต้นที่เรียนรู้อะไรได้บ้างแล้วต่อจากนั้นความนึกคิดและความตั่งใจก็จะตามมา(บางคน iQ RQ )มันต่างกัน ฉนั้นอย่างคิดว่าการถือศิล กินเจ มันจะทำใ้ห้ใจของคนบางคนเปลี่ยนได้ มันไม่ได้อยู่ที่การกินเจ ต่อให้กินอาหารหรูแพงดีอย่างไรถ้าจิตใจยังไม่สงบก็ไม่มีอะไรดีขึ้น (บางคน),วันๆดื่มแต่น้ำเปล่าข้าวสักเม็ดยังไม่ตกลงในท้องเลยเพราะจนไม่มีจะกินก็ต้อง ตั้งใจสู้(จิตใต้สำนึกดี) ถ้าเราคิดว่า ถ้าพูดคุยกับใครทำให้. หงุดหงิด ทำให้โกรธ(กวนประสาทส่วนล่าง 55)ต้องคิดว่า ตัวเราไม่บ้าคนที่บ้าก็คือคนที่กำลังกวน(โอ้ย?)เราอยู่ฉนั้นเราก็คิดว่า กรรม(กำ)ของกู(ภาษาพ่อขุน)กูเรียกเอง กูทำเองพูดซ้ำๆกันหลายๆครั้งจะทำให้จิตใจเราสงบลง ได้ บางเรื่องการอโหสิกรรมให้มันก็เป็นเรื่องที่ดีถ้าคนบางคนไม่ยอมรับมันก็ไม่เกิดผลดี ทั้งผู้รับและผู้ให้ บางเรื่องถ้าคิดว่ามันเป็นบททดสอบ สติ ปัญญามันก็ไม่เป็นเรื่องแปลก แต่ละคนความคิดความอ่านมันต่างกัน เพราะ สมองไม่เท่ากันดูสมองคนกับช้างมันต่างกันมากขนาดไหน สิ่งไหนเรื่องใดที่มันหนักหนาต่อจิตใจ ก็อย่าเก็บมาคิดให้มันหนักสมอง บางเรื่องที่จิตใจเราตั้งมั่นไม่ท้อความสำเร็จมันก็เกิดผล จะช้าหรือเร็วก็ต้องเกิดขึ้นแน่ถ้าจิตใจเราไม่วิตกกันวนมากมันจะต้องมีเรื่องดีๆสิ่งดีเข้าถึงจิตใจเราแน่(หาขนมฝอยทองมากิน.เงินทองจะไหลมาหาเรา (ฮ่าๆๆๆ)

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

ขอบคุณมากกกกกก....^_^....

อ่านคำตอบแล้วมีกำลังใจขึ้นมากเลย

คนเหมือนกัน แต่ไม่เท่ากัน

ประมาณนี้เนอะ...!

เพราะฉะนั้น เราตั้งใจมั่นแล้วว่าจะทำดี

ไม่ยึดติดในอารมณ์ ที่ถูกกระตุ้นให้เป็น

มุ่งหน้ากระทำกรรมดีตามที่มุ่งหวัง

วันวานอาจหลุด อารมณ์ขึ้นจนขุ่นมัว

วันนี้ประคองจิตให้ดี พรุ่งนี้ย่อมหนักแน่นมั่งคง

ตามกาลเวลาที่ขยายเพิ่มขึ้น

สักวันฉัน(เป็ดน้อย) จะบินได้

สักวันฉัน จะเปลี่ยนจากกอหญ้าเป็นกอไผ่

และจากกอไผ่เป็นต้นไทรที่ใหญ่โต

...love u...love your answer...

+0 โหวต

สิ่งที่หนักหนาต่อหัวใจที่สุดเรื่องหนึ่ง

เรายังก้าวผ่านไปจนได้มาแล้ว

นับประสาอะไร..กับเรื่องนี้..!!

.

“..เมื่อจิตตั้งมั่นอย่างไม่ย่อท้อ....

....วันนั้นก็ย่อมอยู่ไม่ไกล..”

+0 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ