ผมทำงานเป็นช่างภาพครับ มีช่างหน้าใหม่เข้ามาในวงการ เอาว่าอุปกรณ์และฝีมือพอกันก็ได้ แต่ตัดราคาผมลงครึ่งนึงเลย

ถ้าฝีมือเท่ากันจริงๆ มันจะมี 2 แบบ

1. คนที่เก่งจริงๆ แต่รับราคาต่ำ เพราะพึ่งเข้าวงการมาใหม่ ต้องการลูกค้าและคอนเนคชั่น ถ้าเจ๋งจริงสักวัน คนพวกจะ อัพ ราคาขึ้นตามผลงาน เพราะงานมันจะเริ่มเยอะ และตั้งเรทสูงๆ เพื่อลดลูกค้าที่ รับราคาของผลงานไม่ไหว (แต่ก็คือมีลูกค้าที่ชอบงานในราคาสูงของเค้าได้)

2. คนที่ คิดว่าตัวเองแน่อยู่ แล้ววงการนี้มีมาตราฐานอยู่แล้ว แล้วรับราคาสูง แล้วไม่พัฒนาตัวเอง ให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อ ปรับ มาตราฐานให้ทิ้งห่างไปเรื่อยๆ และ หารู้ไม่ว่าการแข่งขันมันมีตลอด การโดนตัดราคา สำหรับ มุมมองทางธุรกิจไม่ใช่เรื่องไร้มารยาทเลย (ถึงแม้จะดูไม่มีมารยาท) แต่สุดท้าย ถ้าคนตัดราคา งานมันไม่ได้จริงๆ มันก็ล้มหายไปเอง

ส่วนตัว ผมก็ ทำงานในวงการ แนวๆนี้ละครับ ฟรีแลนซ์เจอเรื่อง ตัดราคา กันมาตลอด สุดท้าย แก้อะไรไม่ได้ครับ ถ้าฝีมือเท่ากันกับผมแล้วรับงานราคา ที่ต่ำกว่าผมได้จริง แปลว่า คุณภาพฝีมือผม มันลงไปอยู่ระดับนั้นแล้ว สุดท้ายต้อง พัฒนาตัวเอง ไปในจุดที่ การตัดราคา ก็ทำอะไรผมไม่ได้แล้ว

เนี่ยแหละ ฮะ โลก ความจริงปลาเล็กกินปลาใหญ่

เขาอาจจะอยู่ในช่วงเก็บพอร์ตเก็บผลงานก็ได้ครับ

ถ้าคุณรับงานชั่วโมงละ2,000 แสดงว่าคุณก็ตัดราคาคนที่รับงานชั่วโมงละ5,000อะสิ

ถึงจะไม่ชอบใจแต่โลกมันก็หมุนแบบนี้แหละครับ

พัฒนาฝีมือ คุณภาพงานให้ไปอีกระดับ ผลงานและราคา จะคัดกรองเกรดลูกค้าได้