ความอายสามารถเป็นได้ทุกสิ่งที่เกิดจากความคิดที่ทำให้คุณเกิดอาการประหม่าและขัดขวางการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันของคุณ แล้วประสบการณ์ความอายในชีวิตของคุณนั้นเป็นอย่างไร คุณอยากทราบว่าคุณเป็นคนเป็นขี้อายหรือไม่ ความอายมีผลกระทบกับชีวิตของคุณมากแค่ไหน เพื่อหาคำตอบ ตอบคำถาม 10 ข้อต่อไปนี้
คุณกำลังไปรับประทานอาหารเย็นที่บ้านของเพื่อนคุณ เมื่อคุณไปถึง เพื่อนของคุณบอกคุณว่าจะมีแขกพิเศษมาสองคนที่คุณไม่รู้จัก คุณจะมีอาการอย่างไร
1. คุณรู้สึกสนุกและตื่นเต้น
2. คุณคิดว่าเป็นเป็นเรื่องโกหก ดังนั้นคุณจึงพยายามไม่คิดถึงมัน
3. คุณรู้สึกอยากจะเป็นบ้า และไม่อยากกินอาหารเย็นแล้ว
เพื่อนจากที่ทำงานของคุณเชิญชวนให้คุณไปร่วมรับประทานอาหารเย็นในวันนี้ คุณคิดว่า
1. มันเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความรู้จักกับพวกเขามากขึ้น
2. คุณไปเพื่อไม่อยากจะทำให้ตัวเองอึดอัดใจ
3. รู้สึกเหมือนภัยพิบัติมาถึง คุณไม่สามารถคิดคำพูดที่จะตอบพวกเขาได้
คุณกำลังเข้าแถวเพื่อรอจ่ายเงินที่ห้างสรรพสินค้า คุณ
1. ใช้เวลาตรวจสอบรายการสิ้นค้าทุกอย่างว่าครบถ้วนหรือปล่าว
2. หลีกเหลี่ยงการสบตากับคนอื่นๆ
3. เริ่มรู้สึกว่าหายใจเร็วขึ้น
ความอายของคุณคือ
1. หมายถึงการปฏิเสธคำเชิญชวนจำนวนมาก
2. หมายถึงการว่างแผนทำอย่างอื่นล่วงหน้า
3. ถูกเลือกให้เป็นตัวแทนในยามที่จำเป็น
คุณกำลังอยู่ที่สัมภาษณ์งาน เมื่อผู้สัมภาษณ์มาถึง คุณรู้สึก
1. เหมือนว่าชีวิตนี้ล่มสลาย
2. หัวใจเต้นเร็วขึ้น
3. เหมือนว่าไม่สามารถหายใจได้
ในคืนนี้เพื่อนของคุณชวนคุณไปร้องคาราโอเกะ คุณ
1. จับไมโครโฟนอย่างมั่นใจแล้วร้องเพลงโดยไม่สนใจใคร
2. ตกลงว่าจะร้องเพลง 5 นาทีสุดท้ายก่อนเพลงจบ ถ้ามีใครร้องกับคุณด้วย
3. ใช้สายตาอันชั่วร้ายมองเพื่อคนอื่นๆ ที่กำลังอ่านรายชื่อเพลง
คนอื่นคิดว่าคุณเป็นคนอย่างไร
1. เปิดเผย
2. แปลกประหลาด
3. รอบคอบ
แม่ของคุณกำลังยกย่องคุณต่อหน้าเพื่อนของเธอ คุณรู้สึกเหมือน
1. เป็นดาราในชั่วขณะ
2. นักศึกษาที่หันหน้าไปทางคณะกรรมการคุมสอบ
3. รู้สึกเหมือนเป็นหนูที่อยู่ในกรงเล็บของเงือมมือคู่ใหญ่
ถ้าคุณซุ่มซ่ามทำกาแฟหกใส่เจ้านายของคุณ คุณ
1. ใช้อารมณ์ขันเพื่อทำให้เจ้านายไม่โกรธ
2. ทำอะไรไม่ถูก และยืนพูดข้อแก้ตัวติดอ่าง
3. ยืนตัวเข็งที่จุดนั้น
คุณกำลังออกเดทครั้งแรก เมื่อเขา/เธอ กำลังเอาหน้าและจะจูบคุณ คุณ
1. รู้สึกว่าร่างกายตอบสนอง
2. จะหน้าแดงมาก เพราะคุณอาย
3. ความหวาดกลัว
ู.
.
.
.
.
.
.
หลังจากคุณตอบคำถามเสร็จแล้วนำหมายเลขหน้าคำตอบที่คุณตอบทั้ง 10 ข้อมาบวกกัน
.
.
.
.
.
.
.
คุณเห็นได้ชัดว่าคุณเป็นคนที่ไม่ขี้อาย (10-16)
คุณเคลื่อนผ่านสังคมได้เหมือนมีดที่ตัดเนยและคุณเป็นคนตรงไปตรงมาและเข้ากับคนอื่นได้อย่างเป็นกันเอง คุณขับเคลื่อนไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความกระตือรือร้น คุณไม่เคยมีปัญหาในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันและคุณจะเปิดตัวเองให้พบกับประสบการณ์ใหม่ ๆ เมื่อคุณกำลังตกอยู่ช่วงเวลาที่เครียดและคุณรู้สึกหดหู่ (ยกตัวอย่างเช่นการสัมภาษณ์งาน) คุณจะไม่ปล่อยให้ความคิดของคุณสบายๆ ตรงข้ามกับในความเป็นจริง อะดรีนาลินที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยนั้นจะช่วยให้คุณมีแรงผักความกระตุ้นของคุณเพื่อที่จะทำมันให้สำเร็จ คุณสามารถข้ามผ่านความกลัวครั้งแรกได้อย่างง่ายดาย และคุณมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ให้เป็นไปในทัศนคติทางบวกได้ คุณเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองค่อนข้างสูง มันหมายความว่าคุณไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่ไม่จำเป็นเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร คุณมีมาตรฐานของคุณเองว่าจะมีชีวิตอยู่อย่างไรและปฎิเสธสิ่งจะทำให้เสียเวลาและคุณไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะคิดกับคุณยังไง ดำเนินต่อไปเหมือนที่คุณกำลังเป็น และยื่นมือช่วยเหลือคนอื่น ถ้ามันจำเป็น
ความขี้อายของคุณดึงคุณไว้ (17-23)
ถ้วยกาแฟที่ว่างที่กลางสปอร์ตไลท์ที่สว่างจ้านั้นไม่ใช่ของคุณ มันมักจะถอยตัวออกจากสังคม เลือกที่จะเป็นในฐานะผู้สังเกตการณ์ด้านหลังดีกว่า คุณเป็นคนเงียบๆ และถ้ามีคนที่คุณไม่รู้จักมาพบคุณคุณจะหน้าแดงในทันที แต่ว่าในลึกๆ คุณดีใจเป็นอย่างมากที่คนคนนี้อยากจะรู้จักคุณ แต่ว่าหลังจากคุณรู้สึกว่าคุณเคยแล้ว คุณจะลืมความอายของคุณและเข้าสังคมได้อย่างดีมาก คุณแค่ต้องการเวลาเพื่อให้มั่นใจก่อนที่คุณจะแสดงมันออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ปัญหาคือคุณมักจะได้รับความประทับใจเมื่อคนอื่นๆ เห็นว่าคุณเป็นคนแปลก คุณมักจะคิดว่าผู้คนคาดหวังกับคุณเป็นอย่างมากเพราะว่าคุณรู้ว่าคุณไม่ดีเหมือนพวกเขา คุณไม่ได้เป็นคนฉลาด ตลก หรือเก่งเรื่องเข้าสังคม คำหนึ่งที่จะแนะนำ หยุดที่จะกลัวว่าคนอื่นจะมาตัดสินคุณ เพราะคุณอยู่ในความเป็นจริงกับความกล้าที่ซ่อนอยู่ของคุณ เตือนตัวเองว่าคุณไม่ต้องรู้สึกเสียเวลาการถูกข่มขู่และคุณจะเห็นสิ่งต่างๆ ในมุมมองของคุณ
คุณกำลังประสบความอาย (24-30)
คุณอาศัยอยู่ด้วยความหวาดกลัวจากที่ที่ไม่คุ้นและพูดคุยกับคนที่คุณไม่รู้จัก ดังนั้นคุณไม่รู้ว่าจะมุ่งหน้าต่อไปอย่างไร คุณพยายามวางแผนทุกอย่างไว้ล่วงหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้เพื่อไม่ให้เผชิญกับความกังวลที่คุณรู้สึก คุณพยามยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าใครอยู่ที่นั่นบ้างเมื่อคุณไปสถานที่นั้นเพื่อที่จะเตรียมการสำหรับสถานะการณ์นั้น เป็นเป็นทางที่ง่ายที่จะทำให้คุณรับมือได้ และกลัวน้อยลง แต่คุณไม่สามารถที่จะวางแผนสำหรับทุกอย่างได้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณปฎิเสธคำชักชวนหรือโอกาศต่างมากกว่าการที่จะไปพบกับสถานะการณ์ที่คุณกลัว มันเสามารถเป็นได้หลายเหตุผลข้างในความกลัวของคุณจากโลกภายนอก มันส่วนหนึ่งของความเครียด ในขณะที่อย่างอื่นอาจจะเกิดจากความผิดหวังที่ไม่สมปรารถนากับสิ่งทีเผชิญ คุณพยายามออกจากผู้คนแทนที่จะเข้าหาพวกเขาเพราะว่าคุณเชื่อว่าคุณไม่สามารถทำความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ การไปพบนักบำบัดโรคจะช่วยให้คุณผ่านสิ่งที่ยกเหล่านี้ นั่นหมายความว่าคุณจะไม่กลัวเมื่อคุณอยู่กับคนอื่นๆ
source: https://psychologies.co.uk/tests/does-shyness-affect-your-life.html