ในคำตอบ

ขอขอบคุณ คุณ Marius ที่ได้นำข้อความเกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสมาให้อ่านประดับความรู้กัน มีประโยชน์ดีในวโรกาสเช่นนี้

ของขวัญอันยิ่งใหญ่ที่สุดในเทศกาลนี้ คือของขวัญจากพระเจ้าที่ประทานให้แก่เราทุกคน คือที่พระองค์ทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ เป็นกุมารที่ต้องบังเกิดในคอกสัตว์ เพราะมนุษย์ไม่มีที่ว่างสำหรับพระองค์ ในเวลานั้นเป็นอย่างไร ในเวลานี้ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ทุกคนที่พอใจต้อนรับพระองค์ด้วยความศรัทธาอยู่ในใจ พระองค์ผู้ทรงชันสูตรจิตใจมนุษย์ ก็ทรงทราบว่าผู้นั้นคือใครบ้าง และจะทรงเตรียมสถานที่ให้เขาไปใช้ชีวิตร่วมกับพระองค์ได้เป็นนิจ และเขาไม่ต้องพินาศเพราะความบาปของตน แต่จะมีชีวิตนิรันดร์ เพราะพระองค์ทรงชำระค่าไถ่ให้แล้ว ด้วยโลหิตของพระองค์ที่หลั่งออกที่ไม้กางเขน นี่คือสิ่งที่ไม่มีมนุษย์คนใดทำได้ และไม่มีมนุษย์คนใดมีคำตอบ

ผู้ที่ปฏิเสธสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำให้ คือยอมรับการถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส ทนรับการลงแส้โบยตีจนเลือดโซมตัว ถูกประจานอย่างน่าอับอาย และต้องตายอย่างโจรชั่วร้ายที่ไม้กางเขนให้ทั้งโลกรับทราบไว้ เพื่อใคร? เพราะอะไร? หรือไร้ความหมายใดๆทั้งสิ้น?

พระองค์ตรัสโดยพระโอษฐ์ของพระองค์ว่า "เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้ เว้นไว้มาทางเราเท่านั้น" (พระธรรม ยอห์น 14:6) [1]

[1] http://www.thaipope.org/webbible/43_014.htm

ถ้าพระเจ้ามีจริง และพระองค์ได้ทรงส่งพระบุตรมาบังเกิดในโลกนี้จริงๆ มิใช่นิยายประโลมโลก การผุดการเกิดในชาติก่อนหรือชาติหน้าก็ไม่มี การนิพพานก็ไม่มี มีแต่การพิพากษาและความพินาศรอคอยอยู่ หลังจากเราตายจากโลกนี้เพราะความบาปของเราเอง และไม่มีทางอื่นนอกจากทางของพระองค์ ผมมิได้เป็นผู้กล่าว แต่พระองค์ตรัสเช่นนั้น สิ่งนี้เราทุกคนจำต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่า อะไรคือความจริง อะไรไม่จริง อะไรคือความยุติธรรม ความชอบธรรม อะไรคือความเมตตา อะไรคือพระคุณและความรักที่พระเจ้าทรงสำแดงให้เราเห็นแล้ว ในจุดนี้ ตนย่อมเป็นที่พี่งแก่ตน ก็ถูกต้องที่สุด เราจะพึ่งความคิดเห็นของผู้อื่นไม่ได้ แม้แต่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ของเราเอง เพราะเขาอาจไม่รู้จักความจริง ทุกคนต้องคิดเอง ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของตนเองก่อน ก่อนจะช่วยใครได้ ตัวใครตัวมันเกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของเราเอง เราจะรับ หรือจะปฏิเสธก็ได้ แต่ทางสายกลาง ไม่มีครับ (ความเห็นส่วนตัว)

ผมต้องขออภัยผู้อ่านทุกท่าน ที่ผมเขียนตรงๆ แต่ด้วยความรักและความปราถนาดีจากใจจริง ต่อเพื่อนมนุษย์ผู้เป็นร่วมทางแสวงหาความจริงร่วมกับผม สิ่งที่ผมได้พบเห็น สิ่งที่ผมครุ่นคิดอยู่เสมอ ผมจะแบ่งปันให้ ถ้าหากเราไม่มีทางรู้ความจริงที่สำคัญๆได้ ความคิดเห็นใดๆก็มีค่าเท่ากัน แต่ถ้าผมเขียนให้คิด และชี้ความจริงบางจุดให้พี่น้องได้พิจารณา ในตลาดเสรี และเวทีแห่งความคิดนี้ ผมก็ได้ทำพันธกิจที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงสำแดงให้ผมเห็น และทรงมอบหมายให้ผมทำแล้ว มิใช่หรือ? ครับผม

+3 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ