กลับไปยังคำถาม 3 คำ ง่ายๆ แต่ไม่ง่าย....
ถามคำถาม

ในคำตอบ

1.ลดละเลิกได้เยอะเช่น ไม่ถือทิฐิมานะ ไม่พยาบาท ไม่อาฆาตแค้นใคร ถือว่าเป็นเรื่องของกรรม ใครทำสิ่งใดไว้ ก็ต้องได้รับสิ่งนั้น คือพยายามมองทุกสิ่งเป็นอัตตาให้มากที่สุด

2. ลดละเลิก การพูดคิดทำในสิ่งที่ไร้ประโยชน์ พยายามพูดคิดทำในทุกสิ่งที่ได้ประโยชน์มากที่สุด

3. ลดละเลิก หัดปลงในกิเลส เช่น ถ้าเราเคยให้เงินน้อง ให้น้องมามาก แต่ตัวน้องกลับไม่ให้อะไรเราเลย มีแต่จะขี้เหนียว และไร้น้ำใจกับเรา เราก็พยายามคิดว่า หัดเป็นคนให้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน สิ่งที่เราให้ นั้นคือบุญ ถ้าเราไม่อยากเป็นอย่างน้อง ไม่อยากให้ใครไม่ช่วยเหลือเราในกรรมตอนต่อไป เราจะไม่ทำเหมือนน้อง ถ่้าเราอยากให้ใครช่วยเหลือเราในบั้นปลาย เราควรทำเสียตั้งแต่ตอนนี้ คือหัดคิดว่า ปลง ไม่คิดแค้นเคืองน้องว่า ทีเรายังให้ ทีมันทำไมมันไม่ให้ แบบนี้น่ะ คือปลงซะ ปล่อยวาง เขาทำไรไว้ เขาต้องได้รับกรรมของเขาในสักวัน ส่วนตัวเรา ปลงคือ ให้แล้วก็แล้วไป ถือว่าให้ทาน แบบนี้จะเป็นกุศลสำหรับตัวเรา ไม่ต้องไปคิดแค้นเคืองน้อง ไม่ต้องไปคิดอยากได้ของๆใคร ไม่ใช่ฉันให้เธอ แล้วฉันต้องได้ตอบกลับมา แบบนี้น่ะ คือเราลกิเลส ลดจิตใจที่หยาบเราลง ให้มองทุกสิ่งเป็นธรรมดา เราแก้ที่เขาไม่ได้ เราต้องแก้ที่ตัวเรา

4. ลดละเลิกในความโลภ เรามองความโลภเป็นสิ่งที่อันตราย เช่น สมมุติว่าพ่อแม่ให้ทรัพย์สมบัติพี่มากกว่า ให้น้องได้ที่ดินติดทางเดิน เวลาเราลำบาก เรากลับไม่มีใครช่วยเหลือ แต่ก่อนเคยนึกโกรธว่าทำไมคนนั้นคนนี้เขาได้มากกว่า ทำไมคนนี้ๆ เขาไม่ช่วยเราเลย เคยนึกอยากแก้แค้น ว่าถ้าถึงตอนเรามี เราจะไม่ให้ ไม่ช่วย เพราะเขาได้กันเยอะแล้ว ทีเราไม่ได้ ไม่มีใครให้ อะไรแบบนี้น่ะ แต่พอคิดอีกที ถ้าเราคิดอย่างนั้น เราก็ตั้งคำถามในใจตัวเองว่า อ้าว แล้วไม่รักพ่อแม่ตัวเองเหรอ ไม่รักพี่น้องตัวเองเหรอ ที่จะทำแบบนั้น ใจเรานึกถึงคนที่แบบพี่น้องแย่งชิงฆากันเพราะมรดก ลูกบางคนทรพีทำร้ายพ่อแม่ หรือฆ่าพ่อแม่ตนเอง เพราะเขาขาดสติยั้งคิด เราถึงได้คิดว่า ถ้าเราทำแบบนั้น มันไม่ต่างกับคนพวกนี้เลย คำถามที่อยู่ในใจเรา จึงสั่งสอนเราเสมอว่า "แล้วเราจะไม่รักพวกเขาเหรอ ถ้าเรามัวแต่อยากได้แบบนั้น" นี่จึงเป็นคำตอบว่า อะไรก็ตาม มันเหมือนเป็นภาพมายา สิ่งของ เงินทอง มันอยู่กับเราชั่วประเดี๋ยวประด๋าว เดี๋ยวมันก็ไป เหมือนเบื้องบนเอาคืนไปน่ะ เหมือนทุกสิ่งที่ได้มา เป็นแค่มายา เป็นแค่การให้เรามาดำรงชีวิต แต่เขาให้เรามาทำความดีมากกว่า คิดได้อย่างนี้แล้วเราจึงคิดว่า เอาเท่าที่มี เท่าที่ไม่เจ๋บ ไม่จน ไม่เดือดร้อน และที่เหลือก็ทำให้ถูกคือ บำรุงพ่อแม่พี่น้อง ญาติ มิตรสหาย และทำบุญ ไม่ทำบาป เพราะสิ่งที่เราคิด แม้แต่อยู่ในใจ สิ่งศักดิ์สิทธ์ก็รู้ การจะทำอะไร เราอยู่ในสายตาท่านตลอด ทุกวันนี้เราจึงพยายามคิดเสมอว่า สิ่งที่เราทำ จะต้องพยายามให้ถูกต้องที่สุด เป็นพอ จะหลุดบ้าง ขอให้น้อยที่สุด เพราะเรายังเป็นมนุษย์มีกิเลส เออ..ที่เราพูดมานี่งงมั้ยนะ?? 555

+4 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ