เมื่อตัวเราเริ่มตะโกน เมื่อตัวเราเริ่มทะเลาะ ......หู...ตา....และใจ...ของเราจะ.. "ปิด" ....รับฟังคนรอบๆ ข้าง
เมื่อตัวเรา....เริ่ม-ปิดปาก เริ่ม-ปิดโทสะ....... ....หู .. ตา...และใจ...ของเราจะ..."เปิด"...รับฟังคนรอบๆ ข้าง
ถ้าเรา ...."ไม่เก็บอารมณ์" ....คนบางคนที่แสนดี...จะไกลห่างเราออกไป...ก้าวหนึ่ง
ถ้าเรา ...."เก็บอารมณ์ได้" ....คนบางคนที่แสนดี..จะอยู่ใกล้ๆ เราเสมอ... อยู่เป็นเพื่อนทุกข์ เพื่อนยากกันตลอดไป
ทุกวันนี้ มนุษย์เราไม่ได้ประเมินค่าเพื่อน ๆ ด้วยคุณงามความดีที่เขาได้ทำมา
กรรมของใคร บุญของใครเราไม่มีเวลาสนใจกันหรอก เพราะต่างคนต่างเครียดด้วยกัน
เรามีเวลาแค่...ประเมินคุณค่าของเพื่อน ๆ ด้วยสายตา ด้วยหู ด้วยความรู้สึก ที่เพื่อน ๆ เเสดงออกมาให้เราเห็น
แค่ผิดครั้งเดียว หรือหากเราแผดเสียงแสดงอารมณ์อะไรออกไปเพราะเครียด หรือไม่เจตนา หรือเพราะโกรธเกรี้ยว
แค่ครั้งเดียวเอง....เพื่อน-แท้ เพื่อน-รัก เพื่อน-รุ่นอนุบาล เพื่อน-มหาวิทยาลัย เพื่อน-สนิท......ของคุณ
จะหายวับไปกับตา ..... เพราะเขาไม่กล้าเข้าใกล้...เพราะเค้าประเมินอุณหภูมิในอารมณ์ของเราไม่ได้ว่าจะขึ้นเมื่อใด
และสิ่งดีๆ ที่เพื่อนเคยบอก เคยให้ ก็จะหายไปด้วย
คำโบราณไม่บานบุรี มีไว้ว่า " นิ่งเสียตำลึงทอง " ยังใช้ได้เสมอ
รอนับในใจ หนึ่งไปร้อย ร้อยไปพัน .... แล้วค่อยใช้เหตุผลพูดกันใหม่
หากพูดคุยกันในขณะที่อุณภูมิความโกรธ มากกว่า 80 % แล้วละก็
ถ้าไม่พัง .... เราก็จะกลายเป็นตัวตลกให้คนอื่นเค้านินทา ว่าไม่รู้จักเก็บอารมณ์
นิ่งเสียตำลึงทอง - ไม่ใช่การเสแสร้ง แต่เป็นการ.."แปรรูปความร้อนของอารมณ์ ...ให้เย็นลง" แล้วค่อยพูดกันใหม่
ใครผิดใครถูกค่อยคุยกันเมื่อรู้สึก ใจเย็นลง สิ่งที่ได้กลับมาเมื่อเรารู้จักคำว่า "ใจเย็น" มีค่ามหาศาลนัก
หากเรารู้จักคำว่า ใจเย็น - เราจะได้มิตรกลับมา เราจะได้รับความนับถือจากคนรอบข้าง
หรือแม้กระทั่งศัตรูยังยอมรับเรา และอาจแปรเปลี่ยนมาเป็นมิตรในวันหน้าก็ได้
ท่องไว้ " นิ่งเสียตำลึงทอง "