กลับไปยังคำถาม รู้สึกโชคดีจริง ๆ.........
ถามคำถาม

ในคำตอบ

โหดมาก งั้นไม่ดูละ TV ไปดูฟรีทีวีก็ได้ ไม่ก็ ยูทูป ไม่เห็นเรียกเงินกับเราเลย

ถ้าบ้านเรามีก็ทำแบบที่ตอบไปค่ะ ดูอะไรที่มันฟรีๆ เพราะปกติ ชีวิตก็ไม่ค่อยว่างดูอะไร ไม่กระทบ

+2 โหวต · 4 ตอบกลับ

ใช่ครับ มันอาจฟังดูบ้าไปซักหน่อยสำหรับการเก็บค่า licence ของ bbc

แต่ช่องในสถานีนี้ แถบไม่มีโฆษณาให้เห็นเลยครับ (และตัวสินค้าที่ติดแบรนด์มาด้วย (ปท. เค้าเรียกว่า product placement) ก็ไม่ให้โผล่ขึ้นมาในรายการของสถานีนี้เหมือนกัน)

พูดง่าย ๆ เลยว่า แทบไม่มี sponsor เข้าสถานีนี้เลย ก็เลยต้องเก็บ licence เพื่อบำรุงสถานีครับ (ที่ไปหาข้อมูลมา ทางสถานีก็ได้ทุนจากรัฐมาเหมือนกัน แต่ไม่เยอะครับ ส่วนใหญ่จะมาจากการเก็บค่า licence และการขาย content ไปยังหลาย ๆ ประเทศ)

พูดถึงเรื่องนี้แล้ว พอเห็น content ปท. อื่น ผมอยากให้บ้านเรามี content ที่คุณภาพพอทัดเทียม ปท. เค้าได้ จริง ๆ นะ (แต่ผมไม่เอา licence นะ)

+0 โหวต

fact นิดนึงครับ

บ้านเราก็เคยมีแนวคิดที่จะเก็บค่า licence ด้วย (อย่างที่หลาย ๆ คนรู้ว่าบ้านเรามีช่องสาธารณะอยู่ช่องนึง นั่นคือ thai pbs ซึ่งช่องทีวีแบบนี้จะได้ทุนสนับสนุน 2 แบบ คือได้ทุนจากทางภาครัฐ (คือมาจากภาษีนั่นแหละครับ) หรือเก็บแยกต่างหาก เหมือนหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป) แต่ทำไปทำมา แนวคิดนี้ก็ถูกพับไป ก็เลยเอาภาษีเหล้าและบุหรี่ (ประมาณ 2 พันล้านบาท/ปี) มาสนับสนุนช่องนี้แทนการเก็บ licence ครับ

+0 โหวต

โห ทำไมมีความคิดงี้กันเนอะ

งั้นคนก็ไปดูอะไรๆในยูทูปแทนดีกว่า

+1 โหวต

นี่แค่ญี่ปุ่นนะครับ......

ที่ผมอ่าน ๆ มา uk โหดกว่าเยอะครับ ที่นั่นบังคับจ่ายเลยนะครับ แต่เหมือนญี่ปุ่นบางส่วนก็คือ ถ้าไม่ได้ใช้เพื่อรับสัญญาณของ bbc (หรือสถานีใด ๆ) คือดูหนังจากแผ่นหรือ on demand ก็ไม่ต้องจ่าย

แต่ถ้ารับและดูสด ๆ ต้องจ่ายครับ ไม่ว่ายังไง ถ้าไม่จ่าย โดนปรับเกือบ 10 เท่าของทีเก็บเป็นรายเดือน

นอกจากนี้แล้ว สถานีฯ ของบาง ปท. นี่ โหดกว่านี้อีก ถ้าบ้านไหนติดเน็ตไว้ (เน็ตบ้านนะครับ) จ่ายด้วย เพราะเค้าเห็นว่าสามารถดูผ่านเน็ตได้เหมือนกัน

+1 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ