ในคำตอบ

หากย้อนไปนานๆ สมัย นักเรียน หรือ นศ. เป็นคนมีเพื่อนเยอะ เป็นคนรักเพื่อน จริงใจและเป็นมิตรกับทุกคน

แล้วก็มีความรู้สึกว่าตัวเองคงเป็นคนแบบนี้ไปจนตาย แต่เหมือนจะมีแค่ไม่กี่คนที่คิดแบบเดียวกันมั้ง..

เพื่อนเก่าๆ ก็ค่อยๆ ทยอยหาย แม้จะมีไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนก็ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่

จะครึกครื่นทีตอนมีงานแต่ง งานบวช หรืออะไรทำนองนี้ก็จะได้รวมตัวกันที

เพื่อนที่ดี มีความสำคัญต่อชีวิตมากเลยนะ แต่มีน้อยลงทุกวัน เรื่องนี้สำหรับตัวเองมันดูจะยากขึ้น

ส่วนเรื่องอื่นๆ ดูจะง่ายไปหมด เวลาผ่านไป คนเราก็ควรต้องเก่งขึ้นรึป่าว ควรต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ

ถ้าหากตัวเราเองไม่พัฒนา แต่โลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ

ดังนั้นคนเก่งคนเดิมในอดีต อนาคตจะเป็นคนที่ล้าหลัง และอยู่ในโลกนี้ลำบาก จริงๆ จะโทษโลกก็ไม่ได้ด้วย

ใครรู้สึกว่าโลกอยู่ยากขึ้น จริงๆ แล้วควรมองตัวเองว่าไม่ได้พัฒนาตัวเองให้อยู่ได้ดีกับโลกในอนาคตรึป่าว..

แต่พอถึงจุดนึงที่รู้สึกว่า เราดูแลตัวเองดีพอแล้ว จะยกระดับสิ่งที่ทำไปดูแลคนอื่นแล้ว

กลับรู้สึกโดดเดี่ยว เดียวดาย มองไปทางไหน ไม่ค่อยมีคนเข้าใจ ถึงไม่เคยคิดถอดใจที่จะทำ

แต่ก็รู้สึกท้อแปลกๆ เพราะถ้าไม่ทำ ก็สุขสบายดี แต่สุดท้ายก็ชอบพาตัวเองไปลำบาก เพราะมันสุขใจ กว่าอยู่สบายกาย

แต่ความรู้สึกท้อแปลกๆ ก็เพิ่งหายไปเมื่อวานนี้เอง เลยรู้สึกว่าตอนนี้โลกอยู่ง่ายขึ้นเยอะเลย แหะๆ

ปอลอ. ถ้าโลกอยู่ยากนัก เราก้ควรเข้มแข็งให้มากขึ้น เพื่อไปดูแลคนอื่นๆ ที่ดูแลตัวเองไม่ค่อยได้ ให้เค้าอยู่ร่วมกับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น เพราะเราไม่ใช่แค่ประชากรขององค์กรใด ไม่ใช่คนของตำบล หรือ อำเภอใด ไม่ใช่แค่จังหวัดหรือประเทศใด แต่เราเป็นประชากรโลกด้วย นั่นแปลว่าหน้าที่ดูแลโลกให้ดี ให้น่าอยู่ ถ้าทำได้ก็ควรทำ จะได้ไม่มีใครมาบ่นว่าโลกอยู่ยากจัง

ปอลอสอง. เราทุกคนมีศักยภาพเปลี่ยนโลกได้ #butterfly effect #pay it forward

+1 โหวต · 2 ตอบกลับ

อ่านวนหลายทีแล้วนะ แต่ ไม่เข้าใจ

เกิดไรขึ้นกับชีวิตเนี่ย T__T

เดี๊ยวพรุ่งนี้มาอ่านซ้ำอีกที

+1 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ