รำลึกความหลัง ... จากข่าวรอบวัน

แม่น้ำยมบริเวณหน้าจวนผู้ว่าฯ เริ่มสู่ภาวะวิกฤต

ผนังกั้นน้ำ เริ่มปริแตก น้ำเริ่มล้นสะพาน ท่อระบายน้ำ

ไหลข้ามถนนบางสาย ชาวบ้านอาจต้องทิ้งบ้าน มานอนริมถนน บ้านญาติ

เราเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นปีเศษ สมัยนั้นยังไม่มีผนังกั้นน้ำ

มีเพียงขอบกั้นสูงประมาณเมตรเดียว มองเห็นแม่น้ำเป็นแนวแคบๆ ยาวๆ ย่านจวนผู้ว่าฯ

ถ้ามองเข้าไปในจวนจะเห็นเรือยนต์จอดอยู่ในจวน

เพราะต้องใช้เป็นพาหนะเข้าออกจวนของท่านผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาด ทุกฤดูน้ำหลาก

ห้องเช่าที่เราอยู่รั้วติดกำแพงที่ว่านี่เลย

ช่วงฤดูฝนตลอดแนวกำแพง จะมีกระสอบทรายไปวางทับกันหน้าชั้น

ตอนกลางคืนจะได้ยินเสียงน้ำในแม่น้ำชัดเจน ต้องเงี่ยะหูฟังเสียงน้ำ หากมีเสียงน้ำไหลแรงแบบทะลัก

ชาวบ้านย่านนั้นจะต้องออกมาช่วยกันซ่อมกระสอบทราย

ไม่งั้นถนนหน้าห้องพักระดับเข่าครับท่าน ... ห้องเราสูงนะ บันไดสามขั้น ยังเกือบเข้าห้องเลย

ต้องย่ำน้ำหิ้วรองเท้าออกจากห้อง และไปใส่ข้างนอก เวลาจะข้ามไปอีกฝั่งแม่น้ำ(ซึ่งต่ำกว่า)

ต้องนั่งรถใหญ่ๆ (คล้ายสิบล้อ) ของหน่วยงานอะไรสักอย่าง

ข้ามไปอีกฟากเพราะรถธรรมดาลุยน้ำระดับสูงอย่างนั้นไม่ได้

ลุยน้ำซื้อกับข้าวในตลาด ที่ต้องยกออกมาตั้งริมฟุตบาธ แทนแผงในตลาด

ขายกันอย่างนี้หลายเดือนกว่าน้ำจะลด ผู้คนก็ต้องออกมากางเต้นท์นอนริมถนนเพราะไม่กล้าทิ้งบ้านไปไกล

ส่วนบ้านตัวเองก็จมไปครึ่งหลัง บ้านที่นั่นเป็นบ้านยกพื้นสูง แต่ทางเข้าบ้านต่ำก็ต้องปิดบ้านไว้

เห็นแต่ละครั้ง ... ทั้งสงสาร ทั้งทรมาน และเห็นใจ ระคนกัน

เล่ามานานมาก ยาวมาก เพียงแค่อยากบอกว่าเห็นใจคนเหล่านั้นมากๆ

หลังจากทำผนังกั้นน้ำด้วยปูนก็ไม่มีเหตุการณ์นี้อีกเป็นสิบปี

ไม่นับตอนน้ำท่วมใหญ่ปี ๕๕ นะ ซึ่งเหตุการณ์นี้พี่ชายเราประสบด้วยตัวเองเลย

มีโอกาสจะเล่าให้ฟังนะ ....

แล้วมาวันนี้ ก็กลับมาสู่บรรยากาศเดิมๆ ภาพเดิมๆ จึงผุดขึ้นมาอีกครั้ง

อย่าให้วิกฤตินี้ย้อนกลับไปเช่นนั้นอีกเลย ..

ใครมีประสบการณ์ด้านต่อสู้กับน้ำท่วม

หรือ ใครเคยผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่มาบ้าง

แชร์ประสบการณ์ที่นี่ให้เราที ... ขอบคุณมากๆ จ้ะ

เรือผู้ว่าฯ หน้าตาแบบนี้เลย

3 คำตอบ · +2 โหวต · 0 รายการโปรด · 31 อ่านแล้ว

เรียนรู้ซิ..มันไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรก..ไม่ใช่เหรอ...???..

อย่ามัวแต่โทษดินฟ้าอากาศ..คนที่ไม่เตรียมพร้อม = คนรอความตาย...

รู้กันทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ..อย่าบอกดีกว่าว่าไม่ได้เตรียมตัว..โซเซี่ยลมันมีมากกว่าเมื่อก่อนเยอะแยะ..

นอนอยู่บ้านยังรู้เลยว่าเมฆฝนเคลื่อนที่ไปแค่ไหน..

อย่าบอกเลยว่าไม่รู้อะไร..นอกจาก..สวัสดีวันพฤหัส....

+2 โหวต · 1 ตอบกลับ

๕ ๕ ๕ ๕ ๕

ปากจัดตามเคย ป๋าเรา!

แต่ก็ชอบนะ ตรงดี เจ็บแต่รักษาหายขาดได้

+1 โหวต

ปี 54 ปทุมน้ำท่วม 1.50 เมตร บ้่านมี 3 ชั้น

ชั้นหนึ่งต้องเก็บข้าวของที่จำเป็นไปชั้นสอง สวิตซ์ไฟปิดให้หมด พวกข้าวของที่ไม่สามารถนำไปชั้นบนได้ก็ต้องยอมให้โดนน้ำขังไว้

ผมจำได้ว่า ปีนั้นน้ำนิ่งมาก แทบไม่ไหล บ้านติดคลองซะด้วย เลยหนักมาก

สุดท้ายอยู่ไม่ไหว ต้องย้ายไปที่อื่นหลังน้ำเข้าไป 2 วันเพราะมีผู้สูงอายุที่มีปัญหาสุขภาพ เลยหนีไปต่างจังหวัดครับ

+2 โหวต · 7 ตอบกลับ

หนักมากครับ จำได้ว่าโต๊ะกินข้าว โต๊ะวางของ ตู้เย็น พังหมด สวนหลังบ้าน ต้นไม้ ดอกไม้ที่ปลูกไม่เหลือ สุดท้ายต้องทำใหม่หมด

+0 โหวต

วันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

ว่าแต่ว่าปีนี้จะมีแววน้ำท่วมมั๊ย....??

+0 โหวต

น้ำเริ่มเต็มคลองละครับ

+0 โหวต

นั่นสิ คงต้องระวัง ตามข่าวสารให้ใกล้ชิดนะ

+0 โหวต

สำหรับผม ทางหมู่บ้านที่ผมอยู่ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำท่วมครับ

เพราะพื่นที่ในหมู่บ้าน เป็นเนินสูงขึ้นไป น้ำเลยท่วมไม่ถึง

ต้องขอบคุณบรรพบุรุษผู้สร้างหมู่บ้านจริงๆ

เพราะด้วยเหตุผล ที่ว่าน้ำท่วมไม่ถึง ทำให้มีคนต่างถิ่นเข้าอยู่ในหมู่บ้านที่ผมอยู่ เยอะมากๆ

แถมมีการสร้างบ้านจัดสรรค์เพิ่มขึ้นมามากมาย ทำให้รถลาเยอะมากกว่าปกติ ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว

แต่......เคยมีปัญหาน้ำท่วมที่มหาวิทยาลัย ที่ผมเคยเรียนครับ ระดับน้ำท่วมถึงเอวเลยล่ะ

จำได้ว่า ถึงขั้นต้องหยุดการเรียนการสอน เป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆ เลยล่ะครับ

แถมจะมีการสอบ final อีกต่างหาก

แต่....การสอบ final ก็ต้องเลื่อนออกไปนานพอสมควร.....( ทำให้มีเวลาอ่านหนังสือ เยอะๆ )

+2 โหวต · 7 ตอบกลับ

ใช่ครับ

แต่มันผ่านไปแล้ว เอากลับคืนมาไม่ได้ คงต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียว จริงมั้ยฮะ.???

+0 โหวต

จริงฮะ

+1 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามในป้ายกำกับ
ถามคำถาม