👉 โชคร้ายของมนุษย์ คือไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี 👈

#บทความดีๆ จากท่านปิยโสภณ

โชคร้าย ของมนุษย์ คือไม่รู้ว่าตัวเองโชคดี บทความดีๆ จากท่านปิยโสภณ (พระราชญาณกวี)

เกิดมาสมองไม่พิการ มีแขนขา ตาหู อวัยวะทุกส่วนครบบริบูรณ์ ถือเป็นบุญยิ่งใหญ่ของชีวิต

โชคร้าย มนุษย์ส่วนใหญ่ชอบพูดว่าตนโชคร้ายและคิดตลอดเวลาว่า ตนเกิดมาไม่สมบูรณ์เหมือนคนอื่น แม้คนในครอบครัวเดียวกันเป็นญาติพี่น้องกันแท้ ๆ ก็ยังคิดว่าตนด้อยกว่าคนอื่น พ่อแม่รักไม่เท่ากัน แล้วก็ประชดประชัน ทำให้พ่อแม่เสียใจบ่อย ๆ ความคิดเรื่องตนมีปมด้อยกลายเป็นปัญหาใหญ่ของมนุษย์

ท่านผู้อ่านของข้าพเจ้าลองคิดดูให้ดี คิดให้ละเอียดถี่ถ้วนเถิดว่า ขณะนี้ท่านโชคดีหรือโชคร้าย ท่านมองเห็นชีวิตท่านเป็นอย่างไร ที่ว่าโชคร้ายนั้นท่านคิดไปเองหรือเปล่า คิดดูให้ดีว่าจะไม่มีอะไรน่าภูมิใจบ้างหรือกับคนรอบข้าง จะไม่มีอะไรน่ายกย่องเลยหรือกับการเกิดมามีชีวิต ทำจิตให้นิ่งแล้วถามตัวเองให้ได้คำตอบ

ทุกครั้งที่คิดว่าตนโชคร้าย โปรดมองไปรอบ ๆ ตัวเราดูบ้างว่า ยังมีใครอีกไหมที่ย่ำแย่ยิ่งกว่าเรา ยังมีใครบ้างไหมที่น่าสงสารยิ่งกว่าเรา ความคิดสงสารคนอื่น คือมองคนอื่นว่ามีทุกข์กว่าเรา เป็นการเพิ่มความมีโชคให้ชีวิต

ชีวิตเรา เราลิขิตได้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม เราไม่ได้เกิดมาเองทุกคนมีพ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร เพื่อนร่วมงาน เราไม่อาจอยู่บนโลกใบนี้ด้วยตัวคนเดียว เรายังมีเพื่อนที่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน วันนี้ยังไม่ได้พึ่ง พรุ่งนี้ก็อาจมีความหมาย อย่าด่วนตัดมิตรไมตรีกับใครง่าย ๆ ต้องรักษามิตรภาพเอาไว้ด้วยการสำรวมระวังวาจา

อย่าคิดว่าเราพูดอะไรก็ได้ ใครจะทำไม คงไม่มีใครทำอะไร แต่เสน่ห์ชีวิตจะหายไป เมื่อวาจาเป็นพิษ

คนชอบบ่นปนทุกข์เป็นคนขาดเสน่ห์เสน่ห์ แต่ละอย่างจึงควรทำให้เป็นนิสัยติดตัว ให้เป็นบุคลิกเฉพาะตัว ใครที่คิดถึงเรา ก็ให้รู้ว่าเรามีบุคลิกที่ดีเช่นนี้ มิใช่คิดถึงเราทีไร ทุกคนเบือนหน้าหนีไม่อยากเข้าใกล้

ภัยร้ายของชีวิตคือการเอาแต่จับผิดคนอื่น วิพากษ์วิจารณ์คนอื่นในทางเสียหาย สุดท้ายสิ่งไม่ดีเหล่านั้นก็วิ่งกลับมาอยู่ในตัวเรา การมองคนอื่นในทางเลวร้ายตลอดเวลา เป็นการทำลายพลังจิตของเราเอง จริงอยู่บางอย่างเราต้องการแก้ไขเขา ต้องการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างให้ดีขึ้น เพราะคิดว่าเขามีศักยภาพ แต่ก็ต้องค่อย ๆ พูดคุยกัน

บางคนคิดว่าตนมีอำนาจ จะพูดรุนแรงอย่างไรก็ได้ ลูกน้องเป็นเพียงลูกไก่ในกำมือ ลงท้ายก็ทำลายน้ำใจ ทำลายมิตรภาพในองค์กร

การคิดดี ทำดี พูดดี ต่อตนและคนอื่น คือการขับเคลื่อนชีวิตด้วยพลังบวก ซึ่งเป็นพลานุภาพอันแท้จริงของชีวิต แล้วทุกคนจะไม่คิดว่าตนเป็นคนโชคร้ายอีกต่อไป 

Cr. http://www.goodlifeupdate.com/5666/healthy-mind/dhamma/dhamma-daily/goodluck-2/

7 คำตอบ · +7 โหวต · 1 รายการโปรด · 279 อ่านแล้ว

เกิดมาครบ 32 มีพ่อแม่ แค่นี้ถือว่าโชคดีมากๆล้าว ~~~~~~

+7 โหวต · 1 ตอบกลับ

ใช่แล้วครับ 👍

โชคดีที่สุดเลย

+1 โหวต

ค่ะ แค่ขับรถแล้วไม่โดนคันอื่นปาดหน้า ไม่โดนจักรยานยนต์เบียดแทรกเฉี่ยวไปวันๆ ก็โชคดีกว่าใครแล้วค่ะ

+6 โหวต · 1 ตอบกลับ

ใช่แล้วครับ

ความโชคดีเกิดขึ้นแก่ทุกคน อยู่ที่มากหรือน้อยต่างกัน

แต่ก็ยังมีความโชคดีอยู่ อย่าไปคิดว่าเราโชคไม่ดี

การดีเราตื่นขึ้นมา การที่เรายังมีลมหายใจอยู่ นี่แหละคือความโชคดีอย่างแท้จริง

+0 โหวต

โชคดีแค่ไหนได้เกิดมา เพราะการเกิดยาก บางคนได้แค่อาศัยท้องมา แม่ก็มาฆ่า ยังไม่ทันลืมตาดูโลกเลย

ต้องไปต่อคิวใหม่รอเกิดกันอีก

คนคิดแบบนี้ได้ ดีต่อตัวเขาเองทั้งนั้น

+4 โหวต · 3 ตอบกลับ

ใช่แล้ว การเกิดเป็นคนนั้นยาก บางคนจะได้เกิดอยู่แล้ว แต่เป็นอย่างที่ว่า

ทำไมไม่คิดว่าตัวเองโชคดีที่ได้เกิดมา มีพ่อ มีแม่ และมีชีวิตจนถึงทุกวันนี้

คนบางคนอยากเกิด แต่ไม่ได้เกิด คนบางคนเกิดมาแล้ว กลับไม่รักชีวิต

ไปทำเรื่องที่ไม่ควรทำ ถ้าคิดให้มากๆ คิดให้รอบคอบ ไม่มีเหตุผลที่จะเลือกจบชีวิตเลย

พ่อแม่ ก็ยังอยู่ คนทีควรสนใจให้มาก คือพ่อแม่ ให้มากกว่าคนอื่น คนอื่นไม่รัก ยังมีพ่อแม่ที่รักเรา

คนเรามีลมหายใจเป็นของตัวเอง ไม่มีใครเป็นเจ้าของชีวิต อย่าไปคิดว่าไม่มีใครบางคนแล้ว

จะทำให้อยู่ต่อไปไม่ได้

ใช่แล้ว 😀

+1 โหวต

คนคิดได้ คนคิดไม่ได้ มีเยอะ

ใครถึงธรรมเร็วก็ดีไป

+1 โหวต

ใช่ ตามนั้นเลย 👍

+1 โหวต

ถ้าหลายๆคน คิดแบบนี้ได้ คงไม่สิ้นคิด และคิดสั้นกัน ตามที่เห็นในข่าว...

+4 โหวต · 1 ตอบกลับ

ครับ การคิดแบบนั้นจะไม่มีเด็ดขาด ถ้าคิดได้ว่า...เราโชคดีแค่ไหนแล้ว

ที่มีอวัยวะครบ 32 มีชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้

+1 โหวต

สาธุ เห็นด้วยอย่างยิ่ง ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันด้วยครับ

+2 โหวต · 1 ตอบกลับ

ยินดีครับ ที่ได้นำมาแชร์แก่ชาวมายฯ ทุกท่าน 😀

+1 โหวต

พระท่านว่า

"มองโลกให้มองต่ำ มองธรรมให้มองสูง"

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

ใช่ เห็นด้วย หลายคนมีจิตอกุศล คน อื่นทำสิ่งที่ไม่เสียหาย มีปย.มีความสุขและไม่เบียดเบียนใคร กลับชอบพูดทำลายบรรยากาศและความรู้สึกของผู้อื่นทั้งๆที่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย.แต่ความที่มีนิสัยปากร้ายและไร้จิตเมตตา ทำให้มักเอ่ยแต่คำแง่ลบเมื่อไม่ชอบบางคนแบบอคติ.ทั้งๆที่ไม่ใช่หน้าที่อะไรของตัวเองเลย แถมก็ไม่เคยช่วยอะไรคนที่ตนเองตำหนิด้วย.แต่หาเรื่องว่าได้แทบทุกเรื่อง

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

คนประเภทนี้มีเยอะครับ แม้อีกฝ่ายจะดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ไม่เคยทำเรื่องเสียหาย

คนที่จะพูด คนที่จะนินทา ก็หามาจนได้ นั่นก็เพราะตัวเขาเอง รับรู้ คิด ประมวลผล แต่ในเรื่องแบบนั้น

เพราะคำว่าอคติคำเดียว พอได้ยินมา ได้ฟังมา ก็เชื่อทันที ด้วยคำที่ได้ฟังมา มันตรงกับสิ่งที่เขามีอคติ

เหมือนได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งที่ยังไม่รู้ถึงความเป็นจริง ว่าเรื่องนั้น จริงหรือไม่จริง ว่าไว้ก่อน ด่าไว้ก่อน

อยู่เฉยๆ ก็โดนว่า ดีแค่ไหน ก็โดนว่า เป็นเรื่องธรรมดาของโลกใบนี้

คำพูด การกระทำ บ่งบอกถึงจิตใจของบุคคลนั้น ว่าเป็นคนแบบไหน

+0 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ