ตอบเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา
กล้าเล่าค่ะ
แรกเริ่มเป็นคนทั่วๆไป เด็กน้อยวัยประถมครอบครัวช่วงนั้นปกติ แค่อาจไม่เข้าใจที่ตายายรักหลานชายมากกว่าหลานสาว
จนวันนึง เริ่มช่วยครอบครัวหาเงินใช้ เล็กๆน้อยๆ ในร้านขนม พ่อแม่ ญาติพี่น้องจบปริญญาทั้งหมด แต่ไหงมีหนี้สิน ด้วยวัยดพียงน้อยนิด จึงไม่สามารถเตือนครอบครัวได้ว่า อย่าเอาหนี้มาโปะหนี้
เวลาผ่านไป กิจการล้มละลาย เจ้าหนี้มีทั้งในระบบ นอกระบบ มาเฟีย 555
อย่างกับในนิยายเนอะ แต่เรื่องจริงค่ะ ดีที่ไม่ได้เป็นข่าวแบบใครๆ
ไปเรียนลำบาก เพื่อนๆไม่เข้าใจ แต่ฉันแคร์มั้ย no noway
เลือกที่จะหาเงินส่งเสียตัวเอง ตั้งแต่ตอนนั้น แต่ครอบครัวก็ช่วยนะ
เจออะไรมาเยอะ แต่ก็น้อย ยังไม่ลืมวันวาน แต่ก็ไม่จมปลัก เดินหน้าต่อ
เรื่องราวนี้ คนใกล้ตัวเท่านั้นที่รู้ว่าทำไม ฉันถึงไม่ไปเรียน ทำไมมาสาย
ทำไม ไม่ร่วมกิจกรรม เพื่อนไม่มีค่ะ เพราะไม่เล่า และไม่คิดจะเล่าให้เสียเวลาทำมาหากิน ยังดี มีเพื่อนแท้สองคน ทุกข์นะคะช่วงนั้น ดีที่ได้ปฏิบัติธรรม เข้าใจกรรม อ๋อ เรามีกรรมแบบนี้ เราโดนคนว่าประนาม ดูหมิ่น เหยียดหยาม ก็เพราะเราเคยทำไว้ อาจภพไหนไม่รู้ พอโทษกรรม ใจมันสบายดีค่ะ ไม่โทษมคร ไม่โทษตัวเอง และเอาความล้มเหลว ตอนนั้น มาปฏิวัติตัวใหม่ ตอนมีเงิน ก็ไม่รู้จักเก็บ จักใช้ แถมโง่ด้วย ใครขอยืมก็ให้ ใครขอให้ค้ำก็ค้ำ เราเป็นใคร ใครเป็นเรา พูดเป็นเดือนก็ไม่จบ เอาแค่นี้ดีกว่า
รู้สึกเรื่องของเรามันเล้กมากๆ ค่ะ แค่คนที่เคยไม่มีกิน แต่ตอนนี้มีกินแล้ว แม้หนี้จะไม่หมด มีใช้หาความสุข แบ่งปันสบาย แล้วก็ไม่คิดหาทางเพิ่มหนี้ มีแต่จะเก็บเงินมากๆ
เคยมีคนบอกว่า ถ้าเรารู้ว่าเราคือใคร มาจากไหน มาทำอะไรบนโลกนี้ จะไปไหน ไปอย่างไร ชีวิตจะง่าย ดิฉันรุ้แล้วค่ะว่าดิฉันคือใคร มาทำไม จะไปไหน หนทางไปอย่างไร แค่เดินไปตามทาง และฉันเชื่อว่า อายุไม่มีผลนะคะ
คน 60 กว่า ถ้าใจบอกว่าแก่ มันก็แก่ ไม่พัฒนา แต่ถ้าคิดว่า แข็งแรง
มันก็แข็งแรงค่ะ ใจเป็นใหญ่เสมอ แค่อย่าไปฝากใจในที่ผิดๆ
ยาวไปมั้ยคะ โทษที อยากพิมพ์เยอะๆ กว่านี้ แต่กลัวจะอ่านกันไม่ไหว
ถือว่าแชร์ประสบการณ์ละกันเนอะ
+4 โหวต · 17 ตอบกลับ