ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่า เรื่องนี้ยาวมาก เพราะมันคือเหตุการณ์จริง ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวผมเอง เมื่อเดือนที่แล้ว
ซึ่งผมจะขอเล่าประสบการณ์ในครั้งนั้นเอาไว้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับทางเลือกในการดูแลสุขภาพของทุกคน
ด้วยครับ
๒๓ ก.พ. ๕๘
ผมรู้สึกไม่สบาย มีอาการหิวน้ำมาก ดื่มน้ำมากแค่ไหนก็ไม่หายหิว ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ น้ำหนักลดมากผิดปกติ
และ รู้สึกอ่อนเพลียมาก ผมจึงลองค้นหาข้อมูลดู ก็พบว่า อาการดังกล่าว เหมือนคนที่เริ่มป่วยด้วยโรคเบาหวาน
๒๔ ก.พ. ๕๘
ผมไปหาหมอที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งผมได้เลือกทำประกันสังคมเอาไว้ แล้วหมอก็ได้นัดให้ผมไปตรวจเลือด
ในวันุร่งขึ้น โดยสั่งให้งดน้ำ และ อาหาร ตั้งแต่เวลา ๒ ทุ่มของคืนนั้น ไปจนถึง ๘ โมงเช้า
๒๕ ก.พ. ๕๘
ผมไปโรงพยาบาลเดิมตั้งแต่เช้า หลังจากเจาะเลือดไปตรวจ จนได้ผลตรวจออกมา ผมก็ได้พบหมออีกคนหนึ่ง
หมอได้บอกกับผมว่า ผลตรวจเลือดออกมาดีทุกตัว ผมไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน แถมยังมีสุขภาพแข็งแรงมาก
หมอขอตบมือให้ แปะๆๆ (เสียงหมอตบมือ) แล้วก็บอกว่า ผมกังวลไปเอง จึงสั่งยานอนหลับให้กลับไปกินที่บ้าน
และ ออกใบนัดให้ไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เพื่อติดตามดูอาการ ในวันที่ ๗ มี.ค. ๕๘
.
หลังจากนั้น พอถึงเดือนเมษายน ผมก็ต้องอดทนเดินทางไกล ไปทำงานอยู่ ๑ สัปดาห์ ทั้งที่อาการแย่ลงเรื่อยๆ
ทุกวันที่กลับจากที่ทำงานมาถึงบ้าน ก็ไม่อยากพูดจาอะไรกับใครเลย เพราะรู้สึกเพลียมากๆ แถมยังต้องตื่นนอน
ทุกๆชั่วโมง เพื่อไปปัสสาวะ (ปวดมากๆจนแทบอั้นไม่ไหว)
.
๗ มี.ค. ๕๘
ผมไปโรงพยาบาลเดิมตามนัด ได้พบหมออีกคนหนึ่ง แม้ผมจะบอกว่า อาการป่วยของผม มันแย่ลงมาก หมอก็ยัง
ยืนยันว่า ผมไม่ได้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน แต่อาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับไทรอยด์ จึงเจาะเลือดผมไปตรวจอีกครั้ง แต่
ต้องรอผลตรวจอีกหลายวัน จึงได้นัดให้ไปฟังผลตรวจในอีก ๑ สัปดาห์ ผมจึงต้องกลับบ้านไปด้วยสภาพที่โทรม
มากๆ แทบจะเดินไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ก็ต้องฝีนใจ อดทนต่อไป
๘ มี.ค. ๕๘
อาการป่วยของผมยังแย่ลงเรื่อยๆ แค่นั่งหายใจเฉยๆก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว พ่อแม่ของผมจึงบอกให้น้องชายติดต่อ
กับน้องสาวที่อยู่คนละบ้าน ให้ขับรถไปรับผม แล้วรีบพาไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชนอีกแห่งหนึ่ง พอหมอที่นั่นได้
ฟังผมเล่าอาการเสร็จ หมอก็สรุปได้ทันทีว่า ผมต้องป่วยเป็นโรคเบาหวานแน่นอน จึงบอกให้ผม Admit เพื่อจะได้
ตรวจอย่างละเอียด หลังจากนั้นไม่นาน หมอก็บอกกับผมว่า ผลตรวจเลือดค่าน้ำตาลสูงเกิน 1000 mg/dl ต้องรีบ
ส่งตัวเข้าห้อง ICU โดยด่วน (ปกติไม่ควรเกิน 200 mg/dl) ผมจึงต้องเข้าไปนอนในห้อง ICU เป็นครั้งแรกในชีวิต
ในคืนนั้นเองครับ
