ทักทายยามเช้า ชาว My ฝนตกแต่เช้า หวังว่าคะจะไม่ร้อนมากนะวันนี้
ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่าเมื่อคนเราอยู่ใกล้ๆ กันสนิทกันจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นฐานะอะไรก็ตามพ่อ แม่ ลูก แฟน เพื่อน ฯลฯ
มันจะต้องมีความเห็นไม่ลงรอยกันบ้างเป็นบางเวลา
และบางครั้งความเห็นหรือทัศนคติที่ไม่ตรงกันก็ทำให้เกิดการทะเลาะกันขึ้นมา
ดังนั้นในความรู้สึกผมการทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติมากๆ
คนที่บอกว่าสนิทกันมากแล้วแต่ยังไม่เคยทะเลาะกัน
ผมว่า…เขาสองคนยังไม่รู้จักกันทุกด้าน
เพราะเวลาทะเลาะกันเราจะเห็นด้านที่ดีน้อยหน่อย
(ก็คือร้ายนั่นแหละ) ของอีกคนเมื่อทะเลาะกันเสร็จแล้ว
เราก็จะรู้จักกันมากขึ้น
แต่…ความสำคัญของการทะเลาะกันไม่ได้อยู่ที่เวลาทะเลาะกันสำหรับผม
มันอยู่ที่หลังทะเลาะกันมากกว่า
เราสองคนสามารถทำให้การทะเลาะกันครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราสองคนรู้จักกันมากขึ้น
“และไม่บั่นทอนความรู้สึกดีๆ ของทั้งคู่”ได้หรือไม่
สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ตรงนั้นถ้าเราสามารถทำให้การทะเลาะกันนั้น
“เป็นโมฆะทางความรู้สึก”คือไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกของเราทั้งคู่
ความรู้สึกดีๆ ของเราทั้งคู่ก็ยังคงเดิม
แต่…“ไม่เป็นโมฆะทางความเข้าใจ”คือทั้งสองคนกลับได้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นมา
การทะเลาะกันครั้งนั้นก็คุ้มแล้วที่เกิดขึ้นผมพูดอย่างนี้ ผมไม่ได้ชอบการทะเลาะหรอกครับ
แต่อยากให้ทุกๆ คนมองการทะเลาะเสียใหม่
เมื่อไรก็ตามที่คุณทะเลาะกับคนที่สำคัญของคุณจงจำไว้ว่า
1. ถ้าแคร์เขา และกลัวเสียเขาไปอย่าปากหนักที่จะเอ่ยคำว่าขอโทษ
2. แม้เขาจะเป็นฝ่ายขอโทษเราก่อนเราก็ควรขอโทษเขาเช่นกัน
อย่างน้อยเราก็พูดไม่ดีกับเขาด้วย
3. หลังการทะเลาะ ลองคิดดูหน่อยว่าความรู้สึกของคุณทั้งคู่ แย่ลงหรือเปล่า
ถ้าแย่ลง หาวิธีการง้อต่อไป ถึงแม้ว่าเรื่องที่ทะเลาะนั้นจบแล้วก็ตาม
4. การลงท้ายตอนหลังด้วยการแสดงออกถึงความแคร์และความรักกับคนๆ นั้นก็สำคัญ
ทำให้เขารู้เถอะว่า…เรารักเขาแค่ไหน
5. ถ้าคุณทั้งสองคนทะเลาะกันอย่าทิ้งเอาไว้นานข้ามคืน หรือข้ามวัน
คุณไม่รู้ว่า หลังจากนั้นคุณจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า จริงไหม?
ถ้าต้องจากกันด้วยความรู้สึกแย่ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
คนที่จะเสียใจไปตลอดชีวิต ก็คือคุณเอง
เครดิต กระดาษสีครีม


