ปัจจุบันลุงมีข้อจำกัด เหลืออยู่ไม่กี่ข้อแล้ว ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ เรื่องเวลา ที่ต้องให้ครอบครัว
ถึงแม้บางครั้งอาจต้องเสียโอกาสในตำแหน่งที่ก้าวหน้ากว่าไปก็จริง
ตำแหน่งนั้นต้องเดินทางบ่อย หรือเสียเพื่อนในบางครั้ง เพราะต้องทิ้งปาร์ตี้ตอนเย็นกับเพื่อน ๆ ไป
เพราะลุงต้องมีภาระรับ และส่งลูกไปเรียน ส่งเมียไปทำงาน
ถ้าลุงมัวแต่เดินทางไปสถานที่อื่นๆ ก็ห่วงความปลอดภัยของลูกเมียด้วย
หลานเห็นไหม ข้อจำกัดอันนี้ของลุง มีทั้งส่วนดี และส่วนเสีย
ส่วนเสียก็เรื่องงาน และอาจเสียเพื่อนบ้าง แต่ดีในเรื่องครอบครัวของลุง ยิ่งลูกลุงเป็นผู้หญิงด้วยนี่ต้องดูแลดีๆ
สมัยลุงเป็นหนุ่ม ลุงก็มีข้อจำกัด หรือข้ออ้างเยอะแยะ
และก็บอกกับตัวเองหรือคนอื่นๆ ในวงเพื่อน หรือแม้แต่ในครอบครัวพี่ น้อง
แต่พอเริ่มแก่ตัว ข้อจำกัด ก็น้อยลงไป ตามวัย หรือลุงรู้ตัวว่า หากยังมีข้อจำกัดที่เยอะแยะน่าเบื่อเหมือนเดิม
ลุงอาจจะกลายเป็น “มนุษย์ลุง” ถ้าหากยังมีข้อจำกัดเยอะแยะอยู่
หากหลาน ๆ ไม่เชื่อว่า ข้อจำกัดมันจะน้อยลงไปจริงๆ ตามวัย ต้อง “ ลองแก่ดู”
ลุงคิดว่า คำว่า “ ขี้เกียจ” นั้นเป็น "ข้อจำกัดทางกายภาพ" รวมไปถึงการเจ็บป่วย ง่วงเหงาไม่อยากทำงานด้วย
ส่วนคำว่า “ผลัดวันประกันพรุ่ง” นั้นเป็น "ข้อจำกัดทางเวลา"
ยกตัวอย่างเช่นปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ เมื่องานใกล้ถึงกำหนดส่งหรือใกล้สอบก็มานั่งรีบเร่งทำ
หรืออ่านหนังสือถึงเช้า เข้าห้องสอบก็ง่วง ทำให้เสียงาน หรือ เสียเวลาเรียนไปอีก
อย่างนี้ไม่ดีต้องรีบๆ ปรับปรุง ด้าน “สภาพนิสัยจำเพาะและบุคลิกภาพ” ของแต่ละบุคคลเสียใหม่
หลานลุงทุกๆ คนยังมีอนาคตอีกไกล อย่าปล่อยให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความเคยชิน
วิธีแก้ง่าย ๆ คือ หมั่นการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 3 วัน น่าจะช่วยได้มาก
การออกกำลังกาย เล่นกีฬา จะทำให้ร่างกายสดชื่น พร้อมที่จะทำงานได้
จะได้เลิก “ เช้ามาทำงานนั่งหาว –คึกคักตอนใกล้เที่ยง - บ่ายท้องอิ่มง่วงหกลับ – กระชุ่มกระชวยตอนใกล้เลิกงาน”
คนส่วนใหญ่ก็เลยมองว่า” ข้อจำกัดในชีวิตนั้นไม่ดี และเป็นสาเหตุที่ทำให้ทำอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง”
จริงๆ แล้วข้อจำกัดในชีวิตไม่ใช่เรื่องของการทำให้ชีวิตเราต้องหมดโอกาสความสำเร็จ
ข้อจำกัดในชีวิตเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่มีกันทุกคนแระครับ มากบ้าง น้อยบ้าง
แต่ "ข้อจำกัดที่ดี" น่าจะเป็นไปในทางบวก หรือมีทัศนคติเชิงบวกมากกว่า ถึงจะทำให้เกิดผลไปทางที่ดีกับชีวิต