งั้นลุงจะเพ้อต่อจากหลาน 555
ขอตอบว่า นรกร้อนนั้นเป็นกุศโลบาย ของคนสมัยก่อนที่ กล่าวถึงนรกในแบบต่างๆ เพื่อทำให้คนกลัวและไม่กล้าทำบาป ถ้าคนสมัยใหม่จะบอกว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
นรกในศาสนาพุทธไม่ได้ร้อนไปทุกสถานที่หรอกหลานลุงจะเล่าให้ฟัง
ตามหนังสือไตรภูมิพระร่วง เขาแต่แบ่งเป็น มหานรก หรือแบ่งนรกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 8 ขุม แต่มีอยู่ 3 ขุมที่มีไฟนรกร้อนๆ
ขุมที่หนึ่ง –ไม่มีไฟนรก ขุมนี้ชื่อว่า “สัญชีวนรก” (นรกที่ไม่มีวันตาย)
แต่เป็นนรกที่ทรมานวิญญาณให้เจ็บปวดไปเรื่อยๆ
ขุมที่สอง –ไม่มีไฟนรก ขุมนี้ชื่อว่า “กาฬสุตตนรก” (นรกเส้นด้ายดำ)
วิญญาณจะถูกด้ายดำมาพันตัวแล้วถูกขวานมาผ่าร่างกายออกตามรอยด้ายดำ
ขุมที่สาม –ไม่มีไฟนรก ขุมนี้ชื่อว่า “สังฆาฏนรก” (นรกบดขยี้สัตว์)
วิญญาณจะถูกภูเขาเหล็กบดขยี้ร่างกายให้ได้รับความเจ็บปวด
ขุมที่สี่ –ไม่มีไฟนรก ขุมนี้ชื่อว่า “โรรุวนรก” (นรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องไห้)
วิญญาณจะถูกทรมานมีแต่เสียงร้องไห้
ขุมที่ห้า –ไม่มีไฟนรก ขุมนี้ชื่อว่า “มหาโรรุวนรก” (นรกที่เต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางมากมาย)
คล้ายขุมที่สี่แต่วิญญาณถูกทรมานหนักกว่า
ขุมที่หก –มีไฟนรกแต่ไฟมาจากหลาวเหล็กที่ไฟลุกท่วม และเสียบสัตว์นรกอยู่ ขุมนี้ชื่อว่า “ตาปนรก
(นรกที่ทำให้สัตว์เร่าร้อน)
ขุมที่เจ็ด –มีไฟนรกแต่ไฟมาจากขวากเหล็กที่ใหญ่เท่าภูเขาและมีไฟลุกท่วม ปักเรียงรายอยู่เหนือพื้นนรก นรกขุมนี้ชื่อว่า “มหาตาปนรก” (นรกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนเหลือประมาณ)
ไฟนรกจริงๆ จะอยู่ที่นี่ นรกขุมที่แปด –ขุมนี้ชื่อว่า “ อเวจี “ นรกขุมนี้ เป็นนรกขุมใหญ่กว่าบรรดานรกทั้งหลาย ล้อมรอบด้วยกำแพงเหล็กที่มีเปลวไฟโชติช่วง เรียกว่า ไฟลุกท่วมทั้งขุมนั้นแระครับหลาน สัตว์ ที่ไปเกิดอยู่ในมหานรกอเวจีนี้มีมากกว่านรกขุมอื่น แออัดยัดเยียดเบียดเสียดกัน ได้รับทุกข์ทรมานด้วยการถูกเปลวไฟนรกอันร้อนระอุเผาไหม้อยู่อย่างนั้นตลอด เวลา จนกว่าจะสิ้นกรรม
ในศาสนาอื่นๆ มีไฟนรกบางศาสนาเช่น
ศาสนาคริสต์ ไฟนรก จะถูกพูดว่า “ ไฟนิรันดร์ ” คนทำบาปเพราะไม่เชื่อในพระเจ้าจะต้องเจอ
ศาสนาอิสลาม จะมีคำว่า อัน นารุ แปลว่า ไฟนรก ส่วนคำว่า อัล ญะฮึ่ม แปลว่า เปลวไฟนรก สอนให้คนทำความดีจะได้ไม่ตกนรก เช่น่กล่าวว่า ผู้ใดที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์ แน่นอนสำหรับเขานั้นคือไฟนรกญะฮันนัม โดยที่เขาจะอยู่ในนั้นตลอดกาลนั่นแหละคือความอัปยศอันใหญ่หลวง”
