==========================================.
ครอบครัวของเก่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง...ที่แทบจะดูไม่ออกเลยว่าเป็นบ้าน
เพราะเป็นเพียงเพิงหมาแหงน ที่นำไม้เก่าๆมาปะต่อๆกัน เพื่อให้สมาชิกในครอบครัวได้อาศัยพอกันแดดกันฝน
เก่งเป็นลูกคนเดียวของพ่อ ซึ่งมีอาชีพกรรมกรก่อสร้าง และแม่ที่เป็นคนกวาดถนน
แต่ท่านทั้งสองก็มุมานะให้ลูกได้เข้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัดมีชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ลูกผู้ลากมากดีแห่กันมาเล่าเรียนกัน
เก่งมีเพื่อนที่เรียนเก่งเพียบพร้อม และอยู่ในสังคมที่แตกต่างจากพ่อกับแม่ลิบลับ
" พ่อกับแม่ไม่มีเงินทองเป็นมรดกให้ ก็ได้แต่พยายามส่งเสียให้ลูกได้เรียนสูง ๆ
จะได้ไม่ลำบากเหมือนเราสองคนน่ะลูก "
พ่อบอกเก่งในวันหนึ่ง ซึ่งเก่งเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มรับความที่เป็นเด็กที่เรียนดีและตั้งใจเรียนมาก
พ่อกับแม่จึงภูมิใจนักหนา และไม่เคยเกี่ยงงอนให้เก่งทำงานใดๆเลย เก่งเสียอีกที่ถึงแม้จะละอายใจอยู่ลึกๆ
แต่ก็นั่งมองพ่อแม่ทำงานหนักอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เท่านั้นยังไม่พอในยามที่ครอบครัวของเขาลำบาก
พ่อกับแม่จะเสียสละให้ลูกเสมอ
" ไปอ่านหนังสือเถอะเก่ง เดี๋ยวแม่ล้างจานเอง "
แม่จะไล่ให้เก่งไปอ่านหนังสือทุกครั้งเมื่อเห็นลูกทำงานบ้าน
" แม่เหลือเงินแค่ 40 บาทเก่งเอาไปโรงเรียนเถอะลูก "
" แล้วแม่ล่ะ "
เก่งเองก็ห่วงแม่ไม่น้อยไปกว่ากัน
" แม่เก็บผักบุ้งริมคลองมาผัดกินได้ เก่งเอาไปเถอะ ไม่ต้องห่วงแม่ "
เก่งรักและซาบซึ้งในพระคุณของพ่อและแม่มาก แต่ก็ไม่อาจบอกใครได้
นอกจากเก็บเอาไว้ในใจคนเดียว เพราะอายเพื่อนๆที่จะรู้ว่าพ่อกับแม่มีอาชีพอะไร
" เก่งได้แสดงละครของโรงเรียนในวันแม่เหรอลูก? "
แม่ถามเก่งในวันหนึ่ง
" ใครบอกแม่เนี่ย? "
เก่งถามด้วยน้ำเสียงตกใจ
" หนูพิมเขาเพิ่งบอกแม่เมื่อเช้านี้เอง ทำให้เต็มที่นะลูกแม่จะไปดู "
แม่ยิ้มอ่อนโยน เก่งขมวดคิ้วด้วยความหนักใจและตัดสินใจเปิดอก
บอกความรู้สึกที่เก็บไว้กับแม่ไปตามตรง
" อย่าไปนะแม่ ถ้าเพื่อนผมรู้ว่าแม่เป็นคนกวาดขยะจะต้องเลิกคบผมแน่
ในกลุ่มผมมีแต่ลูกคนรวยทั้งนั้นเลย "
เก่งพูดเสียงแข็งใส่แม่ แม่หน้าเสียมองหน้าลูก หยดน้ำใสๆกำลังเอ่อท่วมดวงตาของแม่ แต่ก็ครู่เดียวเท่านั้น แม่ผู้แข็งแกร่งก็สลัดมันออกไปได้
" เก่ง .. เราต้องพอใจในสิ่งที่เรามีสิลูก เราต้องยอมรับว่าเรามาจากดิน "
" ไม่นะ ผมไม่อยากให้ใครมาดูถูกผม"
เก่งตอบกลับเสียงดัง เห็นแม่เงียบก้มหน้าร้องไห้ แต่เก่งก็พยายามหาเหตุผลให้ตัวเองว่า
ถ้าแม่ไม่ไปจะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย เพราะแม่เองก็จะได้ไม่ลำบากและเสียเวลาทำงาน!!
แล้ววันงานก็มาถึง ในงานวันแม่เก่งร่วมแสดงละครกับเพื่อนๆโดยปราศจากสายตาของแม่
ในขณะที่ได้เห็นแม่ของคนอื่นมาร่วมงานกันพร้อมหน้า ทุกคนได้กราบได้กอดและบอกรักแม่
เก่งได้แต่บอกในใจ...แม่ครับ..ผมรักแม่ที่สุด
“ แม่คือปูชนียบุคคลที่ควรเคารพบูชา ความรักของแม่ที่ให้ลูกไม่เคยมีข้อแม้ใดๆ
แม้ลูกจะไม่สมประกอบหรือมีปัญหาด้านสติปัญญา แม่ก็ยังรัก และไม่มีวันทอดทิ้ง
วันที่ลูกล้ม ลูกแพ้ อ้อมกอดแม่ยังคอยประคองและซับน้ำตาอยู่เสมอ
อภัย..แม้ว่าลูกได้ทำสิ่งเลวร้ายสักปานใดก็ตาม หากมีภัยใดๆมากล้ำกลายลูกแม่ก็ขอปกป้องลูกแม้จะต้องแลกด้วยชีวิต...แม่ก็ยอม "
คำกล่าวของแม่ตัวอย่างในงานทำให้เก่งคิดได้ แม่รักและเสียสละให้มาโดยตลอด
แต่ตนเองกลับอกตัญญู ทำผิดต่อแม่...ผู้ที่รักเราด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ทำไมไม่นึกบ้างนะว่า
แม่ต้องลำบากแค่ไหนกับการทำงานหนักเพื่อส่งเรียนโรงเรียนดีๆแพงๆ แม่อดเพื่อให้ลูกอิ่ม
แม่ให้อภัยลูกอกตัญญูคนนี้เสมอ แม้ลูกจะเคยพูดว่า อาย...ที่มีแม่เป็นคนกวาดถนนก็ตาม
" แม่ครับ...เย็นนี้ผมจะเข้าไปกราบแม่ และจะบอกกับทุกคนว่า ผมภาคภูมิใจในแม่ของผมที่สุดในโลก
ผมสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่สบายกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้"
เก่งคิดในใจ
เย็นวันนั้นเก่งรีบกลับบ้านทันทีที่โรงเรียนเลิก ในมือกำดอกมะลิเอาไว้แน่น
แม่ยังไม่กลับบ้านทั้งบ้านจึงดูเงียบเหงา มีเพียงกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆเสียบอยู่ตรงประตู
“ เก่ง พ่อกับแม่อยู่โรงพยาบาล รีบมาด่วน ”
เก่งใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอก ใครเป็นอะไรไป? ทำไมพ่อกับแม่จึงต้องไปที่โรงพยาบาล
ในมือกำดอกมะลิไว้แน่น รีบวิ่งออกจากบ้านเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
ให้พาไปยังโรงพยาบาลตามที่พ่อบอกทันทีที่ก้าวไปถึงโรงพยาบาล
ป้านีผู้เป็นพี่สาวของแม่ก็เดินออกมารับด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย เก่งไม่กล้าซักถามกับป้า
แต่ก็แอบคิดในใจว่าลุงอาจสามีของป้านีคงจะไม่สบายอย่างแน่นอน แล้วก็ได้รู้ว่าตนเองนั้นเดาผิด
เมื่อได้พบพ่อที่ยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินเพียงลำพัง ทันทีที่เห็นเก่ง พ่อก็โผเข้ามากอดในทันที
พลางพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
" แม่จากเราไปแล้วนะเก่ง "
เก่งหัวใจแทบหยุดเต้น แทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เงยหน้าขึ้นมองพ่อ หยดน้ำตาของลูกผู้ชายเริ่มไหลริน
พ่อเล่าไปพลางเช็ดน้ำตาไปพลาง
" เมื่อกลางวันตอนที่แม่กำลังกวาดถนน อยู่ๆคนขับรถบรรทุกมันก็หลับในพุ่งเข้าชนร่างของแม่
มีคนพามาส่งที่โรงพยาบาล พ่อรู้ข่าวเพราะมีคนโทรไปบอก จึงรีบกลับบ้านติดกระดาษโน๊ตหน้าบ้าน
เพื่อบอกลูกให้รีบตามมา"
"พ่อมาดูใจแม่ได้ไม่นาน และสุดท้ายก่อนแม่ของลูกสิ้นลม แม่เพ้อถึงเก่ง สั่งพ่อให้ดูแลเก่งดีๆ ให้ลูกมีอนาคต "
ดอกมะลิในมือเก่งร่วงลงพื้น เช่นเดียวกับร่างที่ทรุดลง คุกเข่าพลางร้องไห้....
ไม่มีโอกาสได้กราบแม่อีกแล้ว ไม่เหลือโอกาส
ใดๆให้แก้ตัวอีก แม่...จากไปแล้ว........."แม่ครับ เก่งขอโทษ..เก่งรักแม่ครับ"
หลังจากนั้นในวันแม่ของทุกๆปี เก่งก็ได้แต่ไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน
หลายๆคนคงคิดว่า ทำไมไม่ทำเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่
หากย้อนเวลาได้ เก่งจะทำ..จะรัก และดูแลแม่ให้ดีที่สุด
หากย้อนเวลาได้ ...เก่งจะไม่มีวันทำให้แม่ต้องเสียน้ำตา
แต่เก่งไม่เหลือโอกาสนั้นอีกแล้ว
==========================================
ขอบคุณภาพจาก : สุริยเทพจุติ ตินานพ
#นิทานก่อนนอน