ใช่แล้ว คนเราต้องมีหลักคิด...
1. ก่อนอื่นต้องขอพูดก่อนว่า...เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อ เชื่อว่ามี ก็มี เชื่อว่าไม่มี ก็ไม่มี อยู่ที่ใครจะเลือกแบบไหน
แต่ต้องอยู่ภายใต้ความเป็นจริง ความเป็นไปได้ และการมองถึงความเป็นจริง ว่ามันจริงมั๊ย สามารถเป็นไปได้มั๊ย
ไม่ได้ว่าคนที่เชื่อนะ แต่เราก็ต้องเชื่ออย่างมีสติ ไม่ได้ฟังเขาว่ามา หรืออะไรก็ตาม ต้องมีเหตุ-มีผล
ส่วนเรื่องวิชา เรื่องนี้ต้องบอกว่า...ไม่รู้
แต่จะขอพูดถึงเรื่องคนมีวิชา คนเก่งจริง เขาไม่มาลองกันนะ (เท่าที่รู้มา) ไม่แน่.... เขาอาจไม่อยากยุ่ง อยู่เฉยๆดีกว่า
มีวิชาดีจริง ไม่จำเป็นต้องมาลองกับใคร
2. เรื่องดูดวง หรือหมอผี ผมก็ไม่เคยรู้มาเช่นกัน (เบื้องลึก) แต่ก็เคยเห็น เคยดู เคยฟัง มาพอสมควร พูดง่ายๆคือผมก็รู้มาบ้าง
เรื่องแบบนี้ผมจะไม่ตัดสินใคร เพราะผมไม่รู้จริง .... ทุกอย่างก็เป็นอย่างที่คุณว่ามา
การทำแบบนี้มีทั้งธุรกิจ มีทั้งหวังผลประโยชน์อะไรบางอย่าง ซึ่งคุณก็น่าจะเคยเห็น เพื่อเรียกเงินจากคนที่หลงเชื่อ บางคนก็เชื่อแบบไม่ลืมหูลืมตา
เชื่อแบบที่ขาดปัญญา เชื่อเพราะน่าเชื่อ เชื่อเพราะขาดการคิด พิจารณา อย่างถี่ถ้วน จนนำไปสู่การเสียทั้งทรัพย์สิน
เสียทั้งค่าโง่ (เสียตัว) แต่ไม่ว่าศาสตร์ไหนๆ เขาก็ต้องศึกษามาพอสมควร เพื่อจะได้มาทำในสิ่งที่เขาได้ศึกษามา
จนนำไปสู่ธุรกิจ
ส่วนเรื่องแม่นไม่แม่น ผมไม่รู้หรอก รู้แต่เพียงว่าจะมีถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่สำหรับคนที่เชื่ออะไรง่ายๆนี่ สบายเลย เข้าทางหมอดูแน่นอน
พูดเอาใจ ทักอะไรก็เชื่อไปหมด เพราะเขาต้องพูดให้ถูกใจคน รู้จักพูดในสิ่งที่คนคนนั้นอยากฟัง จะได้น่าเชื่อถือ (ยิ่งถ้ามีหน้าตาเป็นอาวุธ) สำหรับบางคนเท่านั้นที่หลงเชื่อ
หรือเชื่อไปเพราะเหตุนี้
ส่วนเรื่องกิเลสนี่ ใครๆก็มีนะ ไม่มีใครที่ไม่มี (เลย) อยู่ที่มากหรือน้อย ตราบที่ยังเป็นคนธรรมดา
คุณอาจเห็นแค่บางด้านของเขาเท่านั้น และมีอีกหลายด้านที่คุณยังไม่เคยเห็น ซึ่งเราก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าเขาเป็นยังไง
ไม่แน่เขาอาจกำลังทำในสิ่งที่คุณอยากเห็น+ความเชื่อที่คุณมีต่อเขา คุณก็เลยมองแต่ด้านดีของเขา และอาจมองข้ามบางอย่างไป
สรุป... ที่ผมพูดมาเยอะๆนี่ ไม่มีอะไรมากไปกว่า อยากให้คุณมองในหลายๆด้านก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจอะไร คุณมีสิทธิ์ที่จะเชื่ออะไรก็ได้
ตามใจต้องการ...
(พิมพ์เยอะจนไม่แสดง) เอาเป็นว่าตามนั้นค
