กลับไปยังคำตอบ คนเราชอบทึกทักเอาเองว่าตัวเองเตือนได้ ตนเตือ... ถามคำถาม

ในตอบกลับ

พูดแบบนั้นก็ถูก...

เตือนในที่นี้คือ เตือนในฐานะพุทธบริษัท ๔ ด้วยกัน

เพราะพระก็คนมาบวช บวชแล้วไม่ใช่ว่าใครจะเตือน

จะบอกกล่าวไม่ได้เลย ตราบใดที่ยังมีความประพฤติไม่เหมาะสม

คนที่บวชเข้ามา คือคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ต้องประพฤติ ปฏิบัติให้ดี

ให้สมกับที่คนเคารพนับถือ จนกว่าจะเป็นพระจริงๆ (พระ คือ ผู้ประเสริฐ)

ถ้ายังไม่ประเสริฐ ก็ต้องพยายามให้มาก

คนทีบวช มีเหตุผลแตกต่างกันไป บางคนบวชเพราะขี้เกียจทำงาน ตกงาน

อกหัก ไม่มีที่ไป ต้องการลาภ ยศ สรรเสริญ อย่างที่เคยเห็นกัน

เหตุนี้เองจึงมีพระที่มีความประพฤติไม่เรียบร้อย ทำเสื่อมเสีย ไม่อายต่อสิ่งที่ทำลงไป

เช่น ดื่มเบียร์ คบกับผู้หญิง พระตุ๊ด เณรแต๋ว เป็นต้น ซึ่งหัวดื้อกันทั้งนั้น ไม่มีเหตุ-มีผล

ใครเตือนก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้บวชมาเพื่อบรรลุธรรมจริงๆ

จริงที่ว่าตนเตือนตน แต่เมื่อตนไม่เตือนตน ต้องมีคนอื่นมาเตือน

พูดง่ายๆคือถ้าเตือนตน คงไม่มีประเด็นนี้

ไม่งั้นศาสนาคงอยู่ยาก คนเสื่อมศรัทธา

เรากับพระต่างกันนะ...

เรานับถือศีล ๕ พระ ๒๒๗

เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า เราดีเท่าที่ดีได้

ตามประสาคนธรรมดาที่มีกิเลสอยู่ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง

เตือนในฐานะโยมเตือนพระ ไม่น่าผิดนะ เตือนให้ได้สติ

เป็นการหวังดี จึงเตือน แต่ถ้าเตือนกันเอง ค่อยว่าไปอย่าง (โยม-โยม)

คนที่เตือนได้คือคนที่รู้ผิด-ชอบ ชัว-ดี นอกจากนี้ยากที่จะฟัง

ฉะนั้นต้องเลือก

ก็จริง แต่พระผู้ใหญ่ที่ว่า มีไม่มากนะ ท่านคงไปเตือนไม่ได้ทั้งหมดหรอก (เหมือนตำรวจจับโจร)

เราต้องเลือกแล้วว่ารูปไหน เตือนได้ รูปไหน เตือนไม่ได้ แล้วจึงตัดสินใจว่าควรทำแบบไหน

เพื่อให้มีพระดีดี ที่ออกข่าวส่วนมากเลย ก็มีชาวบ้านนะแจ้งมา เพราะทนเห็นพฤติกรรมไม่ได้

จึงแจ้งพระผู้ใหญ่บ้าง ตำรวจบ้าง

+1 โหวต