ในคำตอบ

เท่าที่ทราบมาเขาจะทำความสะอาดบ้านต้อนรับตรุษจีนเพื่อจะได้พบแต่

สิ่งดี ๆ ในปีใหม่ที่จะผ่านมา ผมว่าคนจีนสมัยนี้เป็นคนจีนสมัยใหม่ซึ่งไม่

ค่อยเคร่งครัดต่อประเพณีเก่า ๆ ที่บรรพบุรุษถือปฏิบัติสืบต่อ ๆ กันมาครับ

+1 โหวต · 27 ตอบกลับ

ใช่จ้ะ ทำความสะอาดบ้านต้อนรับตรุษจีน ล้างบ้าน ล้างประตู เก็บกวาดของที่ไม่ใช้แล้ว ก่อนถึงวันจ่ายทุกปี

และเมื่อถึงวันไหว้เขาก็ทำของไหว้ สมัยก่อนพอวันถือหรือวันเที่ยวเขาก็เที่ยว ไม่ทำความสะอาดกัน

แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปหมดแล้ว

+0 โหวต

ผมว่าควรทำความสะอาดบ้านไม่ต้องทำมากให้เหนื่อยทำพอเป็นพิธีเพื่อ

เปิดบ้านให้ความมั่งมีศรีสุขไหลเข้ามา แต่ถึงตอนวันเที่ยวอย่าลืมปิดประตู

บ้านให้ดีเดี๋ยวโจรเข้ามาขนของไม่รู้ด้วยนะครับ

+0 โหวต

คือ อย่างนี้ คนจีนส่วนมากขะขยันและประกอบอาชีพค้าขายกัน ไม่ค่อยหยุดเพราะเสียรายได้

การเก็บกวาดร้าน หรือ สังคายนาบ้านแทบไม่มี พอตรุษจีน คือ วันปีใหม่จีน จึงเป็นโอกาสเหมาะ

ที่จะปิดร้าน ทำความสะอาดบ้านอย่างเต็มที่ บ้านเราทั้งล้างประตู(ไม้) ล้างพื้น ทาสีใหม่

วันเที่ยวไม่กลัวนะ เรากลัววันไหว้ เพราะเขาต้องไหว้แต่เช้ามืด(ตามความเขื่อ) และต้องเปิดประตูรับเจ้าด้วย

สมัยก่อนขโมยน้อยกว่าเดี๋ยวนี้มาก อย่าว่าแต่ตรุษจีนเลย แถวบ้านเราเดี๋ยวนี้ ไปตลาดตอเช้ามืด คนแก่ยังถูกปล้นเงินที่เตรียมไปซื้อกับข้าวเลย เมื่อก่อนอาม่าคนนี้ก็ไปตลาดตอนตีห้าครึ่ง หกโมงกันทั้งนั้น เดี๋ยวนี้ต้องให้ฟ้าสวางมากๆ ถ้าจะไปเช้าก็ต้องขับรถไปเองทั้งที่ตลาดห่างจากบ้านแค่ ๓๐๐ เมตรเท่านั้น

+0 โหวต

โลกเจริญขึ้นมากส่วนคนเลวที่เป็นภัยต่อสังคมก็มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นเช่นกัน

เวลาไปตลาดตอนเช้ามืดผมอยากให้อาม่าคนนั้นพกปืนไปด้วย แต่อย่าพก

มือถือไปนะ โดนคนร้ายฉกเอาไปขายแน่เลยครับ

+0 โหวต

ตอนนี้ลูกหลานขอร้องแกมบังคับไม่ให้ไปตลาดเช้ามืดอีกแล้ว

แม้อาม่าจะอ้างว่าได้ผักสวยกว่าตอนสายแค่ไหนก็ตาม

เพราะผักสวยก็เท่ากับการให้อาม่ามีอายุยืนยาวไม่ได้หรอกจ้ะ

เราเองยังห่วงแม่เลย ไม่อยากให้ออกไปเดินตลาดตอนเช้าๆ เหมือนกัน

+0 โหวต

ผมว่าดีแล้วทีอาม่าไม่ต้องไปตลาดตอนเช้ามืดเพื่อให้ได้ผักสดเพราะลูกหลาน

ขอร้อง ถ้าจำเป็นต้องไปตลาดเพื่อซื้อผักผลไม้ ออกจากบ้านสายหน่อยก็ยังได้

ของสดเพราะตลาดยังไม่วาย ที่ไม่อยากให้คุณแม่ไปตลาดตอนเช้านั้นผมว่าเป็น

ความคิดที่ถูกต้องแล้วเพราะถ้าออกสายหน่อยถนนมีคนออกมาเดินมากความเสี่ยง

เรื่องพบปะโจรผู้ร้ายคงหมดไป การระวังไว้ก่อนเป็นเรื่องที่ควรทำครับ

+0 โหวต

จ้ะ ขอบคุณนะ เราก็พูดประจำแม่ก็ชอบไปตลาดไวเพราะบอกว่าจะได้กลับมาทำโน่น นี่ นั่น เป็นอาหารเช้า ทั้งที่เราบอกแล้วบอกอีกว่าให้ใช้วิธีซื้อของสดมาใส่ตู้เย็นไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็จะมีของจากเมื่อวานมาทำเป็นอาหารเช้า แต่แม่ชอบบอกว่าพอวันนี้ก็อยากกินของที่ไม่มีในตู้เย็น แม่บ้านเขาเป็นอย่างนี้ทุกคนมั๊ยน้อ แต่ละวันชอบคิดแต่เมนูอาหาร ^^

+0 โหวต

แม่ชอบทำอาหารให้ลูกทานเป็นความผูกพันดี ๆ กับคนในครอบครัวทุกคน

ที่อยากให้ทานอาหารทำเองซึ่งทานแล้วสบายใจไม่เหมือนซื้อสำเร็จรูปมา

จากนอกบ้านที่ผลิตมาเพื่อขายเท่านั้น เกิดเป็นแม่ก็อย่างนี้แหละ ผมว่าน่า

จะภูมิใจเสียอีกนะครับ

+0 โหวต

จ้ะ เรารักแม่เรามากๆ เลยนะ อดทนกับลูกสูงมากๆ เลยหล่ะ ไม่เคยตวาดลูก ไม่เคยใช้ถ้อยคำรุนแรงกับลูกเลย ไม่เคยพูดคำหยาบ ด่าคำ บ่นคำด้วย แล้วก็ชอบทำโน่น นี่ นั่นให้ลูกตลอด

แม่ทุกคนตงไม่ต่างก้นเลย จริงมั๊ย ....

แม่คุณเป็นซุปเปอร์วูเมน เหมือนแม่เราหรือเปล่า ... ทำได้ทุกอย่างให้ลูกให้ครอบครัว

+0 โหวต

แม่ผมทำได้ทุกอย่างถ้าโดนลูกสั่งการ ความจริงแม่ผมตายจากไปหลายปีแล้ว

ไม่อยากเอามาล้อเล่น ว่ากันจริง ๆ แล้วเวลามีชีวิตอยู่แม่ทำให้ทุกอย่างเท่า

ที่จะทำให้ได้โดยเฉพาะเรื่องตามใจ ทำให้ลูก ๆ ของแม่หลายคน (เว้นผม)

กลายเป็นลูกบังเกิดเกล้าไปหมดครับ

+0 โหวต

เพราะความรักอันยื่งใหญ่ที่แม่มีให้ลูกๆ ทุกคนแหละ ถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกมีความสุข

ความสุขของแม่ คือ ได้เห็นลูกๆ ยิ้ม มีความสุข แม้ต้องยอม จนลูก(ที่คิดไม่ถึงว่านั่นเป็นการแสดงความรักจากแม่)

มักไม่เห็นความสำคัญของแม่ และมองข้ามหัวใจของแม่ไปเสียหมดสิ้น

ในวันนี้ ท่านไม่ได้อยู่กับเราแล้ว คงไม่มีอะไรที่ต้องวิพากษ์ วิจารย์ หรือแสดงความเห็นได้อีก

เนื่องจากพูดไป บอกไปก็ไม่ทำให้ลูกมีโอกาสแก้ไขสิ่งที่เป็นลูกบังเกิดเกล้าในอดีตได้อีกแล้ว

บอกได้อย่างเดียวว่า สิ่งที่ได้ยิน ทำให้รู้สึกได้ว่า " บูชาผู้เป็นแม่ " ทุกท่านด้วยใจจริง

+0 โหวต

ผู้คนสมัยนี้ไม่ค่อยคิดถึงความรู้สึกดี ๆ ของแม่ อาจเป็นเพราะโลกาภิวัฒน์

บางคนวันดีคืนดีมาหาแม่เอาหลานมาให้เลี้ยงก็ยังมีด้วยเห็นแม่อยู่ว่าง ๆ

ซ้ำยังมีประสบการณ์เลี้ยงลูกมาก่อนเลยเอาลูกมาให้แม่เลี้ยงเพราะกลัวว่า

แม่จะเหงาเฉามือครับ

+0 โหวต

เราว่าคนไทยลึกๆ รักแม่ แต่แสดงออกไม่เป็น เพราะไม่เคยได้รับการแสดงความรักมาก่อน

หรือไม่ก็ได้รับน้อยมาก จนตะขิดตะขวงใจที่จะกระทำเช่นนั้น

ส่วนที่พาลูกมาให้แม่เลี้ยง เพราะสังคมสมัยใหม่ ที่ต้องทำงานแบบปากกัด ตีนถีบ ทำงานคนเดียวให้เมียเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านเหมือนอดีตก็ทำได้ยากขึ้น จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมองหาผู้ช่วยที่ไม่ต้องให้ค่าแรง มากกว่าจ้ะ

+0 โหวต

เรื่องที่ว่าคนไทยลึก ๆ รักแม่ แล้วแสดงออกไม่เป็น ผมเองก็อยู่ในคนประเภทนั้น

บอกตรง ๆ ว่า ไม่เคยพูดกับแม่ว่า แม่จ๋า แม่จ๋าเลย มันเขิน ๆ อย่างไรไม่ทราบ

ไม่ใช่ว่าผมจะไม่มีความรู้สึกรักแม่ แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้แล้ว นึกเสียดายเวลา

ที่ผ่านไปเรียกกลับคืนมาไม่ได้แล้ว ผมไม่อยากคิดมากเดี๋ยวหายตัวไปอีกเพราะ

ป่วยครับ

+0 โหวต

จ้ะ เราไม่ได้ต้องการให้รำลึก หรือ คิดจนเครียดเลยจ้ะ ขอโทษด้วย

การแสดงความรักไม่จำเป็นต้องแม่จ๋า หรอก เพราะเราก็ไม่เคยทำเหมือนกัน

ไม่มี คุณแม่ มีแต่แม่ กับ เค้า การพูดไม่ได้มีหางเสียงที่ไพเราะเสนาะหู แต่ทุกคำที่พูดก็อ่อนโยน

แค่นี้เราว่าให้ความรู้สึกไม่ต่างจากเรียกคุณแม่คะ คุณแม่ขา คุณแม่ครับ หรอก

อย่าคิดมากๆ นะ อย่าเครียด เดี๋ยวเราจะไม่ได้ฟังเรื่องราวดีๆ เพราะผู้เล่าปวยไปอีกหลายวัน

+0 โหวต

ผมไม่ได้เครียดเรื่องแม่จ๋าหรอก เกิดชาติหน้าอยากกลับมาเป็นลูกอีก

จะได้เรียกแม่จ๋าทุกวัน แล้วจะเรียกดัง ๆ ให้พ่อจ๋ามองค้อนเลยครับ

+0 โหวต

แล้วก็ต้องมานั้งคิดว่า ต่อไปเราจะเรียกพ่อจ๋า พ่อจ๋า ให้ลั่นบ้านอีกหนหรอก

สัปดาห์ก่อนเราเครียดมาก จนอยากมีที่ปรึกษาเลย ว่าเราทำผิดพลาดเช่นนี้

ผู้เป็นที่ปรึกษาจะช่วยให่เราคลายความรู้สึกอยากลงโทษตัวเองด้วยวิธีใด

^ ^

+0 โหวต

เรื่องเรียกแม่จ๋าดัง ๆ ให้พ่อจ๋าได้ยินนั้น พ่อจ๋าคงไม่ว่าอะไรหรอก

เพราะพ่อจ๋าเป็นคนอารมณ์ดี ผมคงได้นิสัยของพ่อจ๋ามาใช้ใน

ชีวิตประจำวันทำให้ชีวิตไม่เครียด พ่อจ๋าเคยสอนผมให้มองโลก

ในแง่ดีแล้วอย่าเก็บเรื่องไร้สาระมาคิดให้เปลืองสมองครับ

+0 โหวต

จ้ะ เป็นการสอนในวิธีที่ดีไม่ใช่น้อย การมองมุมบวก ทำให้สบายใจ

เลือกเก็บ เลือกมองในสิ่งที่ควร ไม่ทำให้ รกสมอง ..

และมีพื้นที่เก็บสิ่งที่คู่ควรกับการจำ มีความสำคัญ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

+0 โหวต

คิดในสิ่งที่ดีอย่างนี้ ผมควรเก็บเอาไปจดจำและปฏิบัติ ครับผม !

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ