กลับไปยังคำถาม ผมอยากบอกกับทุกคนในนี้ไว้อย่างนึง ช่วยมาแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ?
ถามคำถาม

ในคำตอบ

นายเหมือนคนที่เรารู้จักในกูรูคนหนึ่งเลยหล่ะ

เขาเป็นแบบนายหลายอย่างมากๆ อ่านแล้วคิดถีงจังเลย

ตั้งแต่กูรูเลิกไป เราก็ไม่ได้พบเจอกับเขาอีก ... อยากรู้ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง

เวลามีอะไรอึดอัดใจ เขาค่อนข้างแรง บางครั้งควบคุมตัวเองยากสักหน่อย

เป็นคนตรงๆ เหมือนแรง เหมือนเกรียนๆ ในบางเวลา แต่เป็นคนดี คิดดีและต้องการปรับปรุงตนเอง ... อย่างนายนี่แหละ

เราว่า ด้วยความที่นายเป็นคนฉลาด และมั่นใจในตนเอง(ค่อนข้างสูง) เลยทำให้เกิดการโต้เถียงได้ง่าย

เพราะนายก็มั่นใจในทาง และความคิดของตนเอง ส่วนคนอื่นเขาก็มองอย่างผู้มีประสบการณ์มากกว่า

แต่ประสบการณ์ชีวิต การมองโลกจึงอาจไม่รอบคอบพอ เมื่อเทียบกับผู้ที่ผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน

เหมือนคนที่ยืนอยู่คนละมุม โดยต่างมีข้อดีในตัวเอง จึงทำให้มั่นใจว่ามุมที่ตัวเองยืนทำให้มองเห็นอะไรๆ ได้ชัดเจนแล้ว

การโต้เถียงอย่างไม่เข้าใจ หรือไม่ยอมรับมุมมองของอีกฝ่ายจึงเกิดขึ้น และอาจเกิดขึ้นเสมอๆ

เราว่านายยังมีสิ่งที่มาประคองให้นายทำอย่างที่นายต้องการและใฝ่ฝันได้นะ ... แม่นายไง

คนเราทุกคนไม่มีใครเกิดมาสมบูรณ์พร้อม ล้วนมีข้อดี ข้อบกพร่องในตัวเอง

คนที่เยี่ยมยอด คือ คนที่รู้และพยายามแก้ไข ส่วนคนที่ปิดหู ปิดตา ไม่สนใจเสียงสะท้อนจากคนอื่น เป็นคนที่ต้องพิจารณา

ความสมบูรณ์พร้อม เกิดขึ้นได้ หากเราแก้ไขตนเองทีละเรื่อง ทีละเรื่อง สักวัน ข้อบกพร่องก็จะเหลือน้อยลงๆ

เป็นกำลังใจให้ ในสิ่งที่นายตั้งใจ ... เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ ...

ใช้ผู้พิทักษ์ให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด

ฟัง และ คิดตาม สิ่งที่ผุ้พิทักษ์แนะนำ หรือ สะท้อนออกมา

แล้วนำไปปรับเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นๆ หากำลังใจให้ตัวเองบ้าง

และอย่าลืมให้รางวัลแก่ตัวเองเมื่อทำสิ่งใด สิ่งหนึ่งสำเร็จ

แม้เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม

สู้ สุ้ นะ เราเชื่อว่า .... นายทำได้ !!

+1 โหวต · 9 ตอบกลับ

จ้าาาา.....

+0 โหวต

เช็คที่ Facebook ชื่อ Nontvaris Lertamornsathien ด้วยนะครับ แอดเป็นเพื่อนได้เลย

+0 โหวต

จ้าาา....

ตามสบาย มีไรค่อยพูดคุยกันใหม่ก็ได้

เมื่อพร้อม เวลาไหนก็เวลานั้น

+0 โหวต

ผมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะไปฝึกตอนนี้หรอก

ขอบคุณครับ สำหรับบทความนี้แค่นี้ก่อน

+0 โหวต

ศิลปะ ไม่ต้องเรียนก็ได้ โดยเฉพาะศิลปะที่แสดงอารมณ์

แต่ถ้าอยากมีความรู้เชิงศาสตร์แห่งศิลป์บ้างก็ฝึกฝน เรียนรู้ได้

จ้ะ ช่างคิดแต่ไม่ใช่คิดมาก ดีแล้ว

โอเค

จ้าาา... ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา เป็นสิ่งที่ดี

ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ... ดีๆ จ้ะ

+0 โหวต

เรื่องการวาดภาพศิลปะน่าจะดี

ความจริงผมไม่มีหัวด้านศิลเหมือนกัน แต่คงฝึกได้

ส่วนเรื่องความคิดผมก็คิดตลอดเวลาอยู่แล้ว

คือผมเป็นคนช่างคิด คิดเยอะ แต่ไม่คิดมาก

และผมรู้สึกมีความสุขกับการคิด

ขอบคุณครับ ผมเข้าใจมากขึ้นแล้ว บทความนี้จึงขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ก่อนครับ

ความจริงตอนที่ผมตั้งใจจดจ่อกับการเรียน ก็ทำความเข้าใจได้ดีนะครับ

เพราะผมเป็นคนที่ใช้ความคิดได้ดีพอสมควร

+0 โหวต

(ต่อ)

ลองพิจารณาดู ... อีกอย่าง คนสมาธิสั้นฝึกฝนเพื่อสร้างสมาธิได้นะ บางรายอาจต้องใช้ยาช่วยในระยะแรกๆ

เมื่อสามารถควบคุมตนเองได้มากขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งความเป็นผู้ใหญ่ทำให้เกิดการควบคุมตนเอง

ทำตามกฎระเบียบ กฎเกณฑ์ได้ดีขึ้น ก็ช่วยให้ทำอะไรได้นานขึ้น มีสมาธิขึ้น

การวาดภาพ ก็เป็นการฝึกสมาธิที่ดีอย่างหนึ่งเหมือนกันจ้ะ

+0 โหวต

มาไม่หมดนะ... ตะเอง

คนสมาธิสั้นไม่ใช่คำไอคิวต่ำนะ

แต่ถ้าเข้าใจและปฏิบัติอย่างถูกวิธี จะพบเห็นอัจฉริยะในตัวตนของคนนั้น

เพราะคุณเป็นคนช่างคิด การคิดเยอะเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้แตกฉาน

การคิดเยอะต่างจากการคิดมาก เพราะการคิดมาก มักย่ำเท้าอยู่กับที่ มีแต่ความรู้สึกที่สึกหรอไปเรื่อยๆ

แต่การคิดเยอะ จะทำให้หาความรู้ หาข้อยุติ หาที่สุดของคำตอบ และนั่นคือ สั่งที่จะทำให้คนเกิดการพัฒนา

รักษาสิ่งนี้ไว้ เรียนรู้ให้มาก แล้วจะเกิดความเข้าใจ เมื่อเข้าใจมาก ก็จะเกิดความแตกฉาน และต่อยอดไปเรื่อยๆ

ดีใจนะทีคุณค้นพบพื้นที่ที่ทำให้คุณมีความสุข เกิดความพอดี และสมดุลในใจ

หวังว่าคุณจะชอบที่นี่ในลักษณะเดียวกับกูรู และอยู่ที่นี่ไปนานๆ

เพราะพอที่จะตอบสนางความต้องการของคุณได้อีกแห่งหนี่ง ที่นำมาใช้ทดแทนกูรู

เรื่องเรียน เราว่าหาให้เจอ การเรียนทางวิชาการอาจไม่เหมาะ สำหรับผู้มีสมาธิสั้น

การเรียนเชิงวิชาชีพ ที่ต้องใช้ความเข้าใจ มากกว่าการท่องบ่น อาจเหมาะสมกับคุณมากกว่าก็ได้

ลองพิจารณาดู ... อีกอย่าง คนสมาธิสั้นฝึกฝนเพื่อสร้างสมาธิได้นะ บางรายอาจต้องใช้

+0 โหวต

ขอบคุณมากๆครับ ที่เข้าใจผม

ความจริงแล้วผมเป็นคนสมาธิสั้นตั้งแต่เด็ก

เรียนได้ที่โหล่ เคยเกือบจะซ้ำชั้นตอน ป.2

เหมือนกับว่าผมไม่มีความสามารถอะไรเลย

ส่วนเพื่อนในโรงเรียน ผมก็เข้ากับพวกเขาไม่ได้ เพราะดูเหมือน EQ ผมจะต่ำด้วย

พอถึงมัธยม ผมก็ยังเรียนแย่เหมือนเดิม

เพื่อนก็ไม่มี ไม่ได้คุยกับใคร ผมเลยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับความคิดของตัวเอง

โดยหาคำตอบของชีวิต เพราะตอนนั้นผมเป็นคนช่างคิดมากกว่าพูด

เหมือนกับว่าผมจะหาคำตอบของชีวิตได้ ตอน อายุ 17 ปี และผมก็คิดถึงมันตลอดเวลา

ความเข้าใจในชีวิตของผมพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ถึงกระนั้นผมก็ยังเรียนแย่เหมือนเดิม

มีอยู่วันหนึ่ง ตอนที่ผมรู้สึกมีความทุกข์ในจิตใจ เพราะต่อยอดของความคิดไม่ได้

ก็ถามในกูเกิ้ลอยู่หลายครั้ง แล้วเห็นว่า กูรู ให้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับผม

ผมจึงสมัครเข้าไปเล่นใน กูรู ตั้งแต่นั้นมา ทำให้ผมได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่

นั่นคือจุดเริ่มต้นของ "การคิดต่าง" สำหรับผม

เพราะผมรูสึกว่าตนเองสามารถมองเห็น คำถาม ที่ซับซ้อน ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

เกิดเป็นความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ทำให้คำตอบของ

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ