ในคำตอบ

บอกตามตรงนะ....'' เคยครับ '' กับอดีตคนรักไงครับ

สมัยนั้นตอนที่ยังรักกัน บอกเลยว่า.....หวาน ซึ้ง มดแทบขึ้นมือถือ ขึ้นที่นอนเลยล่ะ หึหึ

แต่คุยกันไม่เชิงถึงเช้าหรอกครับ ไม่ไหว

ประมาณเกือบเช้า คือตอนตี 4 ก็นอนแล้ว

+1 โหวต · 102 ตอบกลับ

จ้ะ เรายอมใช้เฉพาะหน้าร้อน ส่วนหนึ่งลดโลกร้อน อีกส่วนหนึ่งประหยัด

+0 โหวต

กำลังพยายามหักดิบอยู่ตลอดเวลา

แต่คุณคงไม่รู้หรอกครับว่า ผมเองก็ป่วยไปนานแล้ว ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่

การทำใจ การรักษาเยียวยา ก็คงจะลำบากพอสมควร

+0 โหวต

ป่วยเพราะอกหัก เหรอ....แสดงว่ามีผลต่อจิตใจอย่างรุนแรง

จนถึงขั้นจิตใจอยากหนี ทำให้เกิดการแสดงอาการออกมาทางจิต

เน็ตเราเริ่มมีปัญหาไม่ค่อยเสถียรแล้วหล่ะคุณ

เปลี่ยนหน้าเริมช้าแล้วก็หลุด ถ้าเราหายไปบอกเลยนะ เพราะเน็ต

+0 โหวต

มีส่วนอย่างยิ่งเลยครับ

มันเจ็บจนไม่เข้าใครออกใครเลยล่ะคุณ

น่าสงสารมั้ยล่ะครับ อยากหนีก็มีนะ จะบอกให้

+0 โหวต

เรายังไม่รู้จะแนะนำแบบไหน เพราะต้องคุยให้เข้าใจให้มากกว่านี้

ตอนนี้เลยได้แต่ มาให้กำลังใจ ให้ผ่านความรู้สึกนั้นไปได้ในเร็ววัน

คุณจะได้ พบคนใหม่ที่น่าจะเหมาะสมกับคุณ ได้สักที

ขอให้โชคดี พบเธอที่ใช่เร็วๆ นะ

+0 โหวต

ยังไงก็ขอบใจ สำหรับกำลังใจ

แต่ผมป่วยนะครับ ผมเป็นไบโพลา หรือ โรคอารมย์ 2 ขั้ว คุณคงรู้จักดี

และป่วยเป็นโรคหัวใจครับ

แต่หากโชะตา ต้องมาผิดหวัง ไม่ได้คนที่ดีดี คงต้องยอมอยู่โสดต่อไป เพราะมันคือ เหตุผลอันสมควรแล้วล่ะครับ

ปล. ถ้าหากคนที่ใช่ คือคุณล่ะ..???...สมมุติถามนะ อย่าตกใจ 555

+0 โหวต

ถึงป่วยถ้าดูแลตัวเองดี แม้โรคนั้นไม่หายขาด ก็ควบคุมอาการได้ดี ก็สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนไม่ป่วย

รักษาสุขภาพ ทานยา และทำจิตใจเบิกบานอยู่เสมอ ก็มีความสุข ได้จ้ะ

ถ้าใช่ ก็คงใช่ แต่กว่าจะรู้คำตอบจริงๆ คงต้องผ่านกระบวนการเยอะและใช้เวลานานพอสมควร

ก่อนที่จะเกิดความมั่นใจจนสามารถตัดสินใจได้นั่นแหละจ้ะ

+0 โหวต

ผมทราบดีครับ แต่ถึงยังไง มันก็ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป

เพราะดีไม่ดี ถ้าหากเจออะไรเข้ามาทำร้ายกายและจิตใจอีก มันอาจจะกลับมากำเริบอีกครั้งก็เป็นได้

หมอบอกว่า มันสามารถกำเริบได้ทุกเวลา หากเจออะไรเข้ามากระทบแบบแรงๆ

คุณพูดมามันถูกแล้วล่ะครับ ต้องผ่านกระบวนการใช้เวลาอันสมควร เพราะมันกล่าวถึง ชีวิตคู่ ตลอดทั้งชีวิต

แต่คนไม่ค่อยปกติอย่างผมน่ะ ผมเชืื่อว่า ถึงยังไง ไม่มีใครกล้ามารักผมหรอก และคงรับไม่ได้กับตัวตนที่ผมเป็น

เพราะไม่อยากมาเป็นภาระไงล่ะ...............

+0 โหวต

ไม่นะ เราว่าอยู่ที่คน ถ้าคู่กันแล้ว เขามองที่จิตใจ คนตาบอดยังมีคู่ครองตาดีเยอะแยะ อ.ที่ม.เราตาบอด มีสุนัขนำทางย้งมีภรรยาตาดีเลย เขายินดีที่จะมาดูแล ไม่ใช่เพราะมองเป็นภาระ แต่มองว่าเป็นตาให้

เรามีเพื่อนรุ่นพี่เป็นจิตเภท ตอนนี้มีภรรยาไปแล้ว ทั้งที่ต้องกินยาไปตลอดชีวิต

+0 โหวต

(ต่อ)

สรุปว่า เราก็มีแผล แต่เก็บมันไว้ในลิ้นชักที่ลึกที่สุดแล้ว

คุณก็ทำได้ หากเข้มแข็งและใจแข็งพอที่จะหักดิบความรู้สึกนี้ ... สู้ สู้

+0 โหวต

เราว่าคนที่เจอก็คงมีอาการเศร้าเป็นธรรมดา แหละ แต่อยู่ที่ว่าจะจมกับความเศร้านานแค่ไหน

แต่สำหรับคนรักจริง จริงจังกับความรัก คงเจ็บนานกว่าคนท่ัวไปแหละ

ตอนเราอกหักครั้งแรก เราเปลี่ยนไปเลยโดยไม่รู้ตัวนะ

จากคนร่าเริงเป็นคนนิ่งๆ เส้นลึก ขำยาก

กินอะไรก็ไม่อร่อย มันแปลกๆ ไม่อยากทำอะไร เศร้าลึกๆ

ค่อนข้างแยกตัว เหมือนโลกเป็นสีเทาๆ หม่นๆ

น้ำหนักลดโดยไม่รู้ตัว จนเพื่อนส่งส.ค.ส. รูปเด็กแก้มกลมๆ ยิ้มน่ารักๆ มาให้

แล้วพูดสั้นๆ ว่า "อยากเห็น ... คนเก่าจัง" เราอึ้งเลยนะ

แล้วกลับมาทบทวนว่าเราให้ความสำคัญกับความเศร้ามากเกินไปหรือเปล่า

มามองตัวเอง ผอมหลายโล เราเลยคิดว่า เราให้เวลากับความเศร้ามากเกินไปแล้ว

จากนั้นเราก็ตัดใจ แล้วดึงตัวเองกลับมาเป็นคนเดิมทันที

แต่ลึกๆ เราก็ยังเจ็บ ยังมีแผลเป็นอยู่นะ เราเรียกตาปลา สะกิดทีไรก็แปล็บในใจทุกที

แรกๆ น้ำตาไหลทุกครั้งที่พูด หรือนึกถึง แต่ไม่เคยให้ใครเห็นเท่านั้นเอง

เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นนะ แปล็บๆ แต่ไม่มีน้ำตาบ่อย นอกจากเห็นอะไรมาเท่านั้น

ชักยาว สรุปว่า เราก็มีแผล แต่เก็บมันไว้ในลิ้นชักที่ลึกที่สุดแล้ว

+0 โหวต

ขอบคุณมากสำหรับคำแนะนำ

แต่ก็ขอให้รู้ไว้ว่า ไม่ว่าใครก็ตาม หากไม่มาเจอกับตัวเอง ก็ไม่มีวันรู้และเข้าใจ เป็นแน่แท้

+0 โหวต

เพียงพอสำหรับความรัก

แต่..........ไม่เพียงพอสำหรับสุขภาพร่างกายของตนเองครับ

แย่เลยล่ะ ช่วงนั้น ตาเป็นหมีแพนด้า เพราะนอนไม่อิ่ม..........=_=''..........

ช่างเถอะ มันกลายเป็นฝุ่นไปแล้ว........

+0 โหวต

อย่างน้อย ก็ยังได้เคยมีความรักเกิดขึ้นในใจ

ความสุขมากล้น แลกกับ ตาคล้ำไปบ้าง

แต่ก็เป็นช่วงหนึ่งในความทรงจำที่ทำให้ยิ้มได้บ้างหรอกน่า... เนอะ

+0 โหวต

ใช่ครับ อกหัก ดีกว่ารักไม่เป็น

ที่ผ่านมา ตอนยังรักกัน คือ ความทรงจำที่ดี แต่ตอนเลิกรา คือความทรงจำที่แย่

+0 โหวต

ก็เลือกจำแต่สิ่งที่ดีสิจ๊ะ

รู้ว่ายาก แต่ต้องฝึก การมองโลกในด้านดี จะทำให้มีกำลังใจ มีรอยยิ้มได้แม้จะไม่สุขสบาย

แต่การมองโลกในด้านลบ จะเห็นแต่สิ่งไม่บันเทิงเริงใจ มีแต่เศร้ากับเศร้า นร้าา..

+0 โหวต

คงต้องใช้เวลา มันคือ ความธรรมดา ของคนที่เคยเจ็บมาก่อนมานับครั้งไม่ถ้วน ที่เรียกว่า บาดแผลเรื้อรัง

น่าสมเพชมั้ยล่ะ..???..

+0 โหวต

อย่าพูดอย่างนั้นสิ คำว่าน่าสมเพช คล้ายกับว่า ทั้งน่าสงสารแล้วก็น่าหมั่นไส้

เราไม่ชอบการมองคนด้วยสายตาแบบนั้นเลย เหมือนเป็นการดูถูกกัน

ถ้ามองตัวเองก็คล้ายกำลังดูถูกตัวเองอยู่ ... ไม่เอานะ อย่ามองตัวเองด้วยสายตาอย่างนั้นเลย

+0 โหวต

อดมองไม่ได้จริงๆครับ มันเจ็บปวดทุกครั้ง ที่เผลอคิดออกมา

+0 โหวต

พอรู้ว่าเริ่มเศร้า เริ่มเจ็บปวด ก็หยุด แล้วมองไปทางอื่นทันทีนะ

ค่อยๆ ทำเรื่อยๆ หากเวลาผ่านไปนานๆ คุณก็ไม่ทรมานอย่างนี้อีก

เป็นกำลังใจให้นะ ... คิดว่า มันผ่านไปแล้ว ก็ให้ผ่านไป

การคิดถึงความเศร้า เรื่องเศร้าที่ผ่านมาบ่อยๆ จะทำให้จิตใจมีแต่ความเศร้าหมองนะ

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ