กลับไปยังคำถาม กฏเกณฑ์สำคัญต่างๆต้องยืดหยุ่นได้
ถามคำถาม

ในคำตอบ

บอกตรงๆนะครับ

ผมเองก็มีความคิดและความรู้สึก ตามแบบคำถามของคุณไปนานแล้วล่ะครับ มันเป็นมานานแล้วจริงๆ

ซึ่งคือความคิดแบบ '' เป็นกลาง '' ตามสาระคำถามของคุณนั่นล่ะ เพราะอ่านดูแล้ว จะออกลักษณะเป็นกลางจริงๆครับ

บทเรียนที่เคยได้รับในอดีต ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม มันทำให้ผมได้คิดเช่นนี้ออกมา

ในใจลึกๆ........ก็ไม่ได้หมายความว่า.....จะปิดใจเรื่องคู่ครองเสมอไป หากถึงเวลาเจอจริงๆ ก็คงต้องยอมรับมัน

แต่ถ้าหาก....ยังพบเจอกับความผิดหวังในชีวิตความรักและคู่ครอง แบบไม่จบสิ้น ผมจะถือว่าไม่ได้เกิดมาเพืิ่อสิ่งนี้

และถือว่าเป็น '' บุญ '' ซะด้วยซ้ำ...............

ยังไงก็คงต้องได้ '' ตัด '' และขอหยุดเรื่องนี้ '' ชีวิตคู่ '' ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผล..........ที่จะใช้ชีวิต ตามแบบพระพุทธองค์

และการใช้ชีวิตแบบพระพุทธองค์ ถือว่า ดีเลิศที่สุดแล้ว หยุดซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เป็นความทุกข์

จนไปสู่ความสงบของชีวิตและดวงจิต ซึ่งก็คือ นิพพาน ไม่ต้องมาเวียนว่าย ตายเกิด หรืออะไรอีก.........

พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามแบบพระพุทธองค์ หลายๆท่าน ก็มักจะตัดจากเรื่องนี้ และไปสู่ความสงบของชีวิต หลายท่านแล้ว บางรูปถึงขั้นบรรลุอรหันต์ และไปสู่นิพพานตามพะพุทธองค์ ก็มีมากมายหลายท่านแล้ว

ผมคิดว่า.....เราทุกคนในฐานะเป็นมนุษย์ธรรมดา คนหนึ่งที่เกิดมามีกรรม ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่พระอรหันต์

ก็ถือว่า ยังมีรัก โลภ โกรธ หลง อยู่ ยังคงต้องเจอเรื่องราวแบบนี้ไปจนวันตาย

แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ตนเอง จะตัด หรือ จะยังรับเรื่องแบบนี้ ให้เข้ามาวนเวียนในชีวิตของเรา หรือไม่...????

พระพุทธองค์ท่านเคยตรัสว่า.........ทำสิ่งไหน เลือกชีวิตแบบไหน ก็ย่อมได้รับผลของสิ่งนั้น มันคือสัจธรรมที่แท้จริง

ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองทั้งสิ้น...................

แต่ตามสันดานแท้ๆ ของมนุษย์ ซึ่งรู้ก็อยู่อยู่แล้วว่า คู่ครอง ความรัก ลูก หลาน มันก็คือห่วงดีดีนี่เอง

แต่ก็ยังจะไปค้นคว้าหามันมาจนได้ คนที่เขามีห่วงคล้องคอแล้ว สุดท้าย........ก็อยากจะสลัดให้ออกในภายหลัง

ไม่แปลกหรอกครับ.........ที่เขาเรียกกันว่า '' คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ''

ขอบคุณสำหรับสาระดีดี ที่นำมาฝาก

สุดท้าย.........ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองจริงๆครับ..........

+1 โหวต · 13 ตอบกลับ

ปกติ มีแต่สาระแน 5555

+0 โหวต

จัดไป เลย สาระนะเว้ย ขอบอก สาระที่สุดแล้ว 5555

+0 โหวต

555

ตอบไม่ได้จริงๆ ก็อย่าว่ากันล่ะครับ คุณปลาร้า เอ้ย.!! ไม่ใช่....ปลาค้าบ

+0 โหวต

รอแป๊บ เดียวไปหามาโพส แล้วตอบด้วยนะ 5555

+0 โหวต

แน่นอน

มันถึงเป็นที่มาของคำว่า ปรัชญาไง ผลคือ ยังต้องค้นหาคำตอบ และการเรียนรู้ต่อไป แบบไม่มีที่สิ้นสุด

อืม..........วันนี้คุณกับผม มาพูดกันแบบวิชาการนะครับ มีหลักการดี 555

+0 โหวต

ใช่ แต่บางปรัชญา อ่านแล้วไม่ตรง ตีความไม่ออกก็มี

+0 โหวต

แต่ก็ไม่เสมอไปนะครับปลา

ถึงแม้จะดูเข้าใจง่าย สั้นๆ แต่บางครั้งไม่ละเอียดพอ บางครั้งมันก็ชวนให้คนอ่านเกิดความสงสัยตามมาก็เป็นได้

ตามความหมายของคำว่า ปรัชญา คือ ความสงสัย ในสิ่งที่เป็นความรู้มาจากที่ต่างๆ หรือที่ใดที่หนึ่ง....

+1 โหวต

จริงปรัชญาที่ชอบอ่าน ค่อยข้างยาวนะ แต่ก็ชอบเอามาโพส จริงชอบอ่านปรัชญาของนักเขียน

เขียนเตือนใจสั้นๆ จะดีกว่าเพราะ ไม่ต้องอะไรมาก และที่สำคัญคือจำได้ง่าย ไม่ซับซ้อน

+0 โหวต

555 ใช่เลย

แต่สำหรับผม ผมอ่านนะ ที่แน่ๆ ผมว่ามันมีสาระดีนะครับ และให้ข้อคิดดีดีมากเลยล่ะ ถึงแม้จะยาวก็ตาม

สั้นๆ แต่ไม่ได้เนื้อ มีแต่น้ำ ไร้สาระก็มากมาย

+0 โหวต

พิมพ์มายาวก็อ่าน แต่ตั้งตั่งสมาธินิดนึงนะ แต่ยอมรับฟัง เป็นผู้ฟังที่ดีได้เสมอ

เราชอบเอาปรัชญายาวๆๆ มาโพส ก็จะโดน แซวตลอด ยาวไม่อ่าน แต่ทุกคนก็อ่านแหละ

แบบจำใจอ่าน 555

+0 โหวต

ยาวหรือสั้นไม่สำคัญหรอกครับ

หากความคิดของคนเรา มันเกิดขึ้นมา แต่มันคือสาระ ถึงยังไง คนอื่นที่เขาชอบอ่านเยอะ ก็มีครับ

ขนาดคำถามของปลาเอง ยังยาวเลย 555 +++

เลยจัดให้ตามเนื้อผ้าครับ

+1 โหวต

ขอบคุณในคำตอบคะ ยาววววววววววววมาก

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ