สมมติ

ผมคงจะไม่ขอเป็นหนึ่เดียวในโลกนี้หรอกครับ

มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่คุณคิดอาจจะสวนทางกับความเป็นจริง..

คนอื่นเค้าอาจจะไม่ได้มองว่าคุณเป็นคนดีหรอกครับ..

จะมองว่าคุณประหลาด...หรือไม่ก็บร้าาา...

แล้วอีกอย่างถ้าเป็นอย่างที่คิดจริงว่าทุกคนชั่วไปหมด..

แสดงว่าคุณเกิดผิดยุคแล้วหล่ะ..ประมาณอารมณ์เดียวกะกาลิเอโอที่บอกว่าโลกกลม..

แต่คนอื่นบอกว่าเค้าบร้าาา...ใครจะไปเชื่อคุณครับ..ลองมาเกิดยุคนี้ซิ..เค้าก็ว่าคนปกติแหละ...

ทุกอย่างย่อมสองด้านเสมอ..แม้แต่ตัวเราเองก็เถอะ..ไม่มีดี 100% และไม่มีชั่ว100% หรอก..

คนเราทั้งหมดมีแต่สีเทาๆกันทั้งนั้น...มันขึ้นอยู่ว่าคุณสามารถควบคุมมมันได้มากแค่ไหนแค่นั้นเอง..

อาจารย์ผมบอกว่านั่นคือ Super Ego...แต่ตามความเข้าใจของผมก็คือศีลธรรมกับจิตสำนึก...

.........**............

ตอบคำถาม...ถ้าเป็นถึงขนาดนั้น..ก็กลั้นลมหายใจตายหรือว่ากัดลิ้น..

หรือไม่ก็คงเอาหัวชนเสาตายเหมือนหนังจีนดีกว่า..

ถ้าอยากจะใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้ ผมว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามครับ

สมมติ ว่า มันไม่มี แล้วกัน 5555

ตอบไม่ได้ ฆ่าตัวตาย มั้ง

เรื่องสมมุต มักไม่เคยเกิดขึ้นจริงบนโลก

แต่ถ้าให่สมมุติ ถ้าเค้าทำสิ่งผิด เราก็ขอไม่ไปยุ่งดีกว่า

คนฉลาดที่ไม่โง่ มักอยู่ได้นาน เราค่อยหาทาง เสี้ยมสอนคนชั่วให้เป็นพวก

หันมาเป็นคนดี แล้วค่อย ระดมพล ทลายแหล่งคนชั่ว

มือเดียว สุ้ไม่พอ กับคนเป็นล้านๆหรอก

เราต้อง สะสม กองกำลัง คนชั่ว สอนดีดี ก็เป็นคนดีที่ฉลาดทีเดียว

คนชั่วมักมีสัญชาติญาณเอาตัวรอดดีนะ ดูอย่างพวกโจรสิ งัดแงะประตูเก่งจะตาย

ไม่เห็นต้องจบ ปตรี เลย

สรุป ก็ใช้ชีวิต อย่างที่ว่ามาแหละ

การที่บอกคนชั่วสอนได้ แปลว่าเราให้โอกาสกับทุกคน ไม่ใช่ตัดเค้าออกไป เพียงเพราะเค้าชั่ว

ไม่งั้น คนที่ออกจากคุก ก็ต้องตายในคุก ทำไม เค้ายังเอามาทำประโยชน์ได้ เอามาเป็นโจรจับโจร เป็นสายให้ตำรวจได้ และพวกนี้ รู้ดีกว่า คนที่เรียนมาสูง ซะอีก

เพราะผี ย่อมเห็นผี

ของทุกอย่างมีด้านดี ด้านเสีย ในดีมีเสียเสมอ ในเสียก็มีดีเสมอเช่นกัน มองคนมองให้ทุกด้าน

คนชั่วบางทีก็ดี มันชั่วๆให้เห็น ดีกว่าพวกดีหน้าเป็น หน้าซื่อ ใจคดเสียอีก พวกนี้ ชั่วในคราบคนดี

แสดงว่า ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พี่ตอบไป ไม่เป็นไร ก็แค่มาแสดงความคิด ถูกผิดด คงขึ้นกับ คนถาม และไม่ได้คิดว่า ต้องมาเห็นด้วย ความคิดต่างดีมาก มันทำให้เรา มีอะไรคิดไปอีกสองสามก้าว ไม่ใช่ จบแหมะ แค่ตรงนั้น ขอบคุณ

ผมเห็นด้วยนะ แต่คนอย่างที่ว่ามีน้อย แต่ผมพร้อมให้โอกาสคนประเภทนี้ แต่จะมีสักกี่คนกันที่คิดได้ บางพวกออกมาแล้วยังมาทำความชั่วเหมือนเดิม เพราะสิ่งไม่ดีมันได้ฝังในส่วนลึกแล้ว คนชั่วในคราบคนดีก็เยอะแยะไปหมด ซึ่งคนประเภทนี้ผมไม่สนใจ

ไม่มีใครดี 100% ชั่ว 100% ทุกคนมีดี มีชั่ว การที่เขาออกมาสร้างประโยชน์ต่อสังคมแค่วันเสี้ยววินาที ยังมีประโยชน์กว่าพวกคนชั่วในคราบคนดีเสียอีก ซึ่งผมอยากสรรเสริญพวกเขา นอกจากจะต่อสู้กับความชั่วในตัวแล้ว ยังต้องมาต่อสู้กับคำครหาอีก ไม่มีที่ยืนในสังคม ซึ่งคนมักคิดว่าคนชั่วก็คือคนชั่ววันยังค่ำ เมื่อพวกเขาคิดได้ ก็คงให้โอกาสพวกเขา คนที่นำพวกเขามาสร้างประโยชน์นี่สุดยอด เพราะรู้จักใช้คนเหมาะกับสถานการณ์ ไม่มีใครรู้ไปมากกว่านี้แล้ว เพื่อนำไปสู่การลดความสูญเสีย แต่เรื่องนี้ก็มีคติบางอย่าง เมื่อใดที่เขาไม่มีสติ เขาย่อมกลับไปทำได้เหมือนเดิม เหมือนคนที่โกหกเป็นนิสัย เมื่อเขาเลิกโกหกแล้ว สิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้อีกเสมอ ตราบใดที่เขาขาดสติ เพราะสิ่งที่เคยผ่านมาแล้วมักทำได้ง่าย

การจะทำคนชั่วให้เป็นคนดีนั้นยาก ฝ่ายคนดีก็เช่นกัน คนชั่วมักไม่ฟังคำตักเตือนของใคร เช่น พวกอันธพาล(ทั้งบอด ทั้งโง่)เป็นต้น มีแต่เที่ยวก่อกวนคนอื่น

เรื่องนี้น่าคิด สงสัยมีเปิดหลักสูตร ฮ่าๆๆ