กลับไปยังคำถาม ผู้ชาย และ ผู้หญิง ลองเข้าไปอ่านดูครับ ผมเห็นว่ามันน่าสนใจ ใน http://pantip.com/topic/32750459
ถามคำถาม

ในคำตอบ

เหมือนเธอคนนั้น มีหัวคิดไปในทางฟรีเซ็กส์

ที่มองว่าการมีเพศสัมพันธ์ คือ การมีกิจกรรมอย่างหนึ่งเท่านั้น

ไม่มีใครได้ ไม่มีใครเสีย มีแต่คำว่า ได้กัน

ก็แล้วแต่ความคิดนะ .. แต่เรามองว่า เมืองไทย มีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ที่ดีอยู่แล้ว

อยากให้เป็นเช่นนี้ตลอดไปมากกว่า

+1 โหวต · 9 ตอบกลับ

ใช่จ้ะ

ประเทศที่จะประกาศให้เป็นฟรีเซ็กส์

ผู้นำประเทศเองก็ต้องทำให้คนในประเทศรู้จักรับผิดชอบให้ได้มากด้วยเช่นกัน

ประเทศเรายังห่างไกล ด้านความรับผิดชอบต่อตัวเอง ผู้อื่น

ยังมีความเห็นแก่ตัว เอาเปรียบผู้อื่น และกอบโกยผลประโยชน์ใส่ตัว

มากเกินกว่าจะให้อิสระในการเปิดประเทศเป็นฟรีเซ็กส์ได้

แต่บางคนก็อ้างว่าสิ่งไหนยิ่งปิด ก็ยิ่งอยากรู้ อยากเปิดออกดู

แต่เราว่า เรื่องนี้ก็ถูกนะ เป็นธรรมชาติของคนทุกเพศ ทุกวัย และทุกคนด้วย

แต่ถ้าเปิดแบบไร้กฎเกณฑ์ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ขอบเขตอยู่ตรงไหน

และผู้คนในประเทศมีความรับผิดชอบเพียงพอหรือไม่ ซึ่งญี่ปุ่นเขาทำได้สำเร็จแล้ว

เขาจึงไม่มีปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แต่ประเทศเรา ... ขนาดห้าม ขนาดสอนให้ป้องกัน แต่การสอนกับการรับรู้ยังไม่สัมพันธ์กัน

จึงทำให้มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มากมวยอย่างที่เห็น

หากเปิดประเทศให้เป็นฟรีเซ็กส์ตอนนี้ ก็มีแต่พังกับพังเท่านั้นจ้ะ

+1 โหวต

ฟรีเซ็กซ์มันก็หนักไปจริงๆ ที่จะสร้างค่านิยมแบบนั้น

เพราะจะกลายเป็นการเพิ่มจำนวนผู้ติดเอดส์มากกว่า

ดูตัวอย่างได้จากประเทศเสรี ที่ไม่ควบคุมให้มีความเหมาะสม

แต่ก็ขึ้นอยู่ด้วยว่า คนในประเทศ มีความรับผิดชอบต่อตนเองแค่ไหน

อย่างในประเทศญี่ปุ่น ถึงจะเปิดเสรีเรื่องเพศ แต่กลับมีคนติดเอดส์น้อยมาก

เพราะโดยพื้นฐานแล้ว พวกเขามีความรับผิดชอบตัวเองสูง

+1 โหวต

(ต่อ)

เราเห็นด้วยอีกครั้ง ที่บอกว่าควรอยู่กับชายใด(รวมทั้งหญิงใด) แฟน หรือคนรัก

เพราะว่ารัก และต้องการอยู่ร่วมกันจริงๆ ไม่ใช่อยู่แบบคู่ขา หรือ ฟรีเซ็กส์

+1 โหวต

ใช่ เห็นด้วย

การกล่อมเกลาเด็กนักเรียน ให้เติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ

รู้จักแยกแยะ การใช้ชีวิตแต่ละห้วงเวลา และจัดการแต่ละเวลาอย่างเหมาะสม

เพื่อนเรามีหลานอยู่ประเทศนอร์เวย์ พอเขาอายุ ๑๘ ปี ซึ่งประเทศเขายอมรับว่าเป็นผู้ใหญ่พอควร

สามารถแยกไปอยู่ตามลำพังได้แล้ว และถ้าอยากจะมีแฟน หรือจะอยู่กับแฟนก็ได้

เนื่องจากเขาปลูกฝังเรื่องความรับผิดชอบ ด้วยการวางระบบว่า ...

หากต้องการอิสระในการดำเนินชีวิตต้องทำงาน เลี้ยงดูตัวเอง

ทั้งผู้ปกครอง ทั้งรัฐจะไม่ช่วยเหลืออีก

แต่หากอายุยังไม่ถึง ๑๘ ปี จะทำอะไรได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมของผุ้ปกครอง

และหากเด็กนั้นกระทำการใดที่ไม่สมควร รัฐจะเอาผิดกับผู้ปกครองด้วย

ส่วนคนที่บรรลุนิติภาวะ ดูแลตัวเองได้ เราก็เห็นด้วยกับนายนะ

ว่าเขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานที่ถูกต้อง เหมาะสม

ไม่ทำให้ตัวเอง ผุ้อื่น สังคมเสียหาย เดือดร้อน และมีความรับผิดชอบที่ดี

จะให้มีแฟน อยู่กับแฟน หรืออะไรก็ได้ทั้งนั้น

เราเห็นด้วยอีกครั้ง ที่บอกว่าควรอยู่กับชายใด(รวมทั้งหญิงใด) แฟน หรือคนรัก

เพราะว่ารัก และต้องการอยู่ร่วมกันจริงๆ ไม่ใช่อย

+1 โหวต

ก็ใช่ การเรียนการสอนถึงต้องพัฒนาเรื่องเพศศึกษา

รวมทั้งพ่อแม่ที่ต้องดูแลลูกที่ไม่บรรลุนิติภาวะ ให้ดีด้วย

มันขึ้นอยู่กับการสอนและสถาบันครอบครัว ที่สำคัญที่สุด

แต่คนที่บรรลุนิติภาวะ และดูแลตัวเองได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ถ้าเขาอยากมีแฟนและอยู่ด้วยกัน เพราะโตเป็นผู้ใหญ่ น่าจะรับผิดชอบตัวเองได้

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควรมีฟรีเซ็กซ์ แต่ควรให้ความยุติธรรมระหว่างเพศ

ที่เคยมีแฟนเพราะความเหงา และความรัก ว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ

+1 โหวต

นั่นแหละ ที่เราบอกไงว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

คำพูด ไม่ได้แสดงเจตนาทั้งหมดหรอก

คนนั้นอาจมองว่า การมีอะไรกับใคร ให้นึกถึงคนที่เป็นพ่อแม่

ซึ่งยึดติดกับวัฒนธรรมไทย ที่ไม่ควรมีอะไรกับใคร

ประมาณว่า สังคมไทย พูดเรื่องชิงสุกก่อนห่าม

นั่นไม่ได้หมายความว่าทำแบบนั้นไม่ได้

แต่หากยังไม่ถึงเวลา แล้วทำแบบข้ามขั้นตอนต่างหากที่ไม่สนับสนุน

เช่น วัยเรียน ต้องให้ความสำคัญกับการเรียน ไม่ใช่ไปอยู่เป็นคู่กับคนรัก

หรือมีอะไรกันแล้วพลาด เพราะการป้องกันไม่ได้ ๑๐๐%

ทำให้มีปัญหาสังคม การทำแท้ง เสียการเรียน

แทนที่ช่วงนั้่นจะได้เรียนให้สูง แล้วทำงาน มีเงินเป็นของตัวเอง เลี้ยงตัวเองได้

ก็กลายเป็นว่า อนาคตด้านการเรียน ชะงัก หรือ เสียไป

แล้วถ้าไม่ทำแท้ง หรือไม่สำเร็จ พ่อแม่ก็ต้องเลี้ยงทั้งลูก ทั้งหลาน

ดีไม่ดี เลี้ยงลูกเขยอีกต่างหาก ถ้าลูกเขยก็อยู่วัยเรียน ทำให้ไม่สามารถเรียนต่อได้

อย่างนั้นต่างหากหรือเปล่า ... การสื่อสารทางเดียว

มีข้อด้อยอย่างนี้แหละ .. คนเขียนอธิบายทั้งหมดของความคิดไม่ได้ เสมอไป

ผู้รับสารก็ตีความตัวอักษรต่างจากความคิด ความรู้สึกของผู้เขียนก็มากจ้ะ

+1 โหวต

เราไม่ได้หมายถึงฟรีเซ็กซ์นะ เข้าใจผิดแล้ว

เราหมายถึงการให้ความสำคัญ ในเรื่องของความยุติธรรม

เช่น ผู้ชายไม่ควรดูถูกผู้หญิงว่าง่าย เพราะเคยมีแฟนเก่า

ทั้งที่ผู้ชายส่วนมาก เคยมีแฟนมากกว่าผู้หญิงเสียอีก

แต่ควรให้คุณค่าความเป็นคนทางจิตใจ มากกว่าความสำคัญทางร่างกาย

จะได้ไม่เกิดความอยุติธรรม และความไม่เท่าเทียมกัน

+0 โหวต

เรื่องแบบนี้พูดยากนะ .. มันละเอียดอ่อนหน่ะ

พูดแล้วก็มักกระทบถึงคนที่คิดคนละอย่างกัน

เราไม่ได้ว่า หรือดูถูกคนที่มีอะไรกับคนที่เขารักนะ

แต่เราไม่ชอบพฤติกรรมของ ฟรีเซ็กส์ หน่ะ

เราเคยเห็นโพลสำรวจ เรื่องเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์

ผู้ชายส่วนใหญ่ เขาไม่ได้ให้ความสำคัญ ว่าต้องเป็นคนแรก

เขาไม่ถือที่แฟน หรือ คนที่เขารัก จะเคยมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นมาก่อน

แต่การมีเพศสัมพันธ์กับคนไปทั่ว ต่างหากที่เขาจะรับไม่ได้

+0 โหวต

ปัญหาที่เรามองเห็น คือ

ผู้ชายลดค่าผู้หญิงที่ไม่บริสุทธิ์ เพราะเคยมีกับแฟนเก่า

ทั้งที่ส่วนมากมีกับคนที่รักเพียงคนเดียว

แต่ต่างกันที่ผู้ชายที่เคยมี กลับไม่ถูกตำหนิ

เราเลยคิดว่ามันไม่ยุติธรรมกัน ระหว่างคนต่างเพศ

+1 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ