กลับไปยังคำถาม เอายังไงกันแน่????
ถามคำถาม

ในคำตอบ

สำหรับข้อ 2 นี้ มันทำให้ผมนึกถึงคำสอนของพระธัมมี่เลยนะครับ เพราะเจ๊แกเคยสอนเรื่องแบบนี้ ห้ามแผ่เมตตา อิอิ...

แต่สำหรับผม จะแผ่ทุกครั้งครับ หลังสวดมนต์ไหว้พระ

เพราะทำไปแล้วรู้สึกสบายใจ ถือว่าเป็นขั้นตอนการสวดมนต์ที่ถูกต้องตามหลักการ

ส่วนตัวเรา จะเจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามาในเวลาข้างหน้าหรือไม่

ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม กรรมเก่า และคลื่นชีวิต ที่จะต้องเจอ และขอชดใช้กรรมให้มันจบสิ้นไป

สำหรับเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรมีจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบ ไม่กล้าเดาตอบ ไม่กล้าฟันธง

เพียงแต่เห็นจากบทสวดมนต์บทหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า....

ให้พิจารณาบ่อย ๆ เนือง ๆ ว่าเรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน

มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ จะทำดีหรือทำชั่วก็เป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น

โดยที่มีแน่นอน คือ มีการกระทำเหตุไว้ ผลจึงได้มี

ชีวิตประจำวันก็เป็นอย่างนี้ตลอด คือ รับผล กับสะสมเหตุ สลับกันไป

นับตั้งแต่ปฏิสนธิ จนถึงขณะที่สิ้นสุดความเป็นอัตภาพหนึ่งๆ ในแต่ละชาติ

จะได้รับกุศลวิบาก หรือ อกุศลวิบาก

จะสะสมกุศลเหตุ หรือ อกุศลเหตุ

ก็แล้วแต่การได้กระทำหรือสะสมมา และการจะขัดเกลาหรือสะสมใหม่ต่อไป

( ซึ่งผมเชื่อตรงจุดนี้แน่นอน.......)

เท่านี้ล่ะครับ เหตุผลทั้งหมดของผม ว่าทำไมถึงต้องแผ่เมตตา.....

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ