คำถาม
ถามคำถาม

เอายังไงกันแน่????

1. พระหลายท่าน หรือหลายคนบอกว่า การแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรเป็นการดี เขาจะได้ไม่มามุ่งร้ายต่อเรา เมื่อเขาได้รับบุญกุศลสูงสุด ก็จะปล่อยเราไป ไม่ทำกรรมทำเวรกับเราอีก

2. แต่มีพระหลายองค์ และหลายคนเช่นกันที่บอกว่า อย่าแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรเด็ดขาด โดยเฉพาะเรื่องคุณไสย์มนตร์ดำ ถ้าเราแผ่เมตตาให้เขา เขาจะมีกำลังบุญมากขึ้น มาทำร้ายเราได้เพิ่มขึ้น อันนี้เรื่องจริง คือ เคยอ่านเจอ มีพระหลายองค์บอกเหมือนกัน คือเจ้ากรรมนายเวรเมื่อมีกำลังบุญที่ได้จากเรา เขาอาจมีพลังทำร้ายเราเพิ่มขึ้น ถึงขั้นปางตาย เออ..อันนี้ก็นึกภาพออกนะ

สรุปแล้ว จะให้ทำยังไงเนี่ย? ตกลงจะให้แผ่ให้ หรือไม่แผ่ให้..?

บางท่านบอกว่า ถ้าแผ่ให้ เขาจะแพ้ภัยเราเอง

แต่..ด้วยความที่สับสน เราเลยต้องแผ่ว่า ข้าพเจ้าจะขอแผ่เมตตาให้แก่ท่านเจ้ากรรมนายเวรที่ปลดปล่อยเวรกรรมให้แก่ข้าพเจ้าเท่านั้น ท่านถึงจะได้รับบุญนั้น ถ้าท่่านใดได้รับบุญไป ถือเป็นคำสัญญาว่า ท่านปลดปล่อยเวรกรรมให้แก่ข้าพเจ้าเท่านั้น และข้าพเจ้าขอแผ่เมตตาให้เฉพาะท่านที่ช่วยเหลือข้าพเจ้าให้พ้นเวรพ้นกรรมเท่านั้น ..เออ..เราแผ่แบบนี้แหละ สบายใจดี 55

2 คำตอบ · +3 โหวต · 0 รายการโปรด · 48 อ่านแล้ว

สำหรับข้อ 2 นี้ มันทำให้ผมนึกถึงคำสอนของพระธัมมี่เลยนะครับ เพราะเจ๊แกเคยสอนเรื่องแบบนี้ ห้ามแผ่เมตตา อิอิ...

แต่สำหรับผม จะแผ่ทุกครั้งครับ หลังสวดมนต์ไหว้พระ

เพราะทำไปแล้วรู้สึกสบายใจ ถือว่าเป็นขั้นตอนการสวดมนต์ที่ถูกต้องตามหลักการ

ส่วนตัวเรา จะเจอเรื่องราวร้ายๆเข้ามาในเวลาข้างหน้าหรือไม่

ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม กรรมเก่า และคลื่นชีวิต ที่จะต้องเจอ และขอชดใช้กรรมให้มันจบสิ้นไป

สำหรับเรื่องของเจ้ากรรมนายเวรมีจริงหรือไม่ ผมไม่ทราบ ไม่กล้าเดาตอบ ไม่กล้าฟันธง

เพียงแต่เห็นจากบทสวดมนต์บทหนึ่ง ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า....

ให้พิจารณาบ่อย ๆ เนือง ๆ ว่าเรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน

มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นทายาท มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ จะทำดีหรือทำชั่วก็เป็นผู้รับผลแห่งกรรมนั้น

โดยที่มีแน่นอน คือ มีการกระทำเหตุไว้ ผลจึงได้มี

ชีวิตประจำวันก็เป็นอย่างนี้ตลอด คือ รับผล กับสะสมเหตุ สลับกันไป

นับตั้งแต่ปฏิสนธิ จนถึงขณะที่สิ้นสุดความเป็นอัตภาพหนึ่งๆ ในแต่ละชาติ

จะได้รับกุศลวิบาก หรือ อกุศลวิบาก

จะสะสมกุศลเหตุ หรือ อกุศลเหตุ

ก็แล้วแต่การได้กระทำหรือสะสมมา และการจะขัดเกลาหรือสะสมใหม่ต่อไป

( ซึ่งผมเชื่อตรงจุดนี้แน่นอน.......)

เท่านี้ล่ะครับ เหตุผลทั้งหมดของผม ว่าทำไมถึงต้องแผ่เมตตา.....

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

ไม่ทราบเลย แต่การแบ่งบุญแบบที่ว่ามาด๋้

ไม่ทราบเลย

แต่เราเชื่อว่าการแบ่งบุญให้ผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีนะ

การแผ่เมตตา เป็นการฝึกให้มีความเมตตาต่อผู้ที่ตกทุกข์ ให้หมดทุกข์ หมดเวร หมดกรรม มีความสุขกายสุขใจ ซึ่งเป็นหนทางให้หมดทุกข์อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนั้น แล้วก็บอกผู้ตกทุกข์ได้ยากนั้นให้รู้จักการปล่อยวางในความทุกข์ การจองเวรค่อผู้อื่น เพื่อให้เขาเป็นสุข เป็นสุขเถิด ตามความหมายในภาษาบาลี

+1 โหวต · 4 ตอบกลับ

พูดไม่จบใช่ป่าวน่ะ งงอยู่นะเตง อิอิ

+1 โหวต

โทษที เราคงหลับ

เดี๋ยวตอบใหม่ดีกว่า

+0 โหวต

อือ เราจะคอยบอกไปว่าให้เขาปล่อยกรรมเวรนะ ให้เชื่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าเขายิ่งจองเวรมันจะบาป เราอธิษฐานบอกแบบนี้แหละ

+0 โหวต

จ้ะดีแล้ว แล้วอธิญฐานให้อโหสิกรรมต่แกันด้วยนะ

+1 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ

ดูคำถามที่เกี่ยวกับ สังคมและวัฒนธรรม
ถามคำถาม