การพูดคุยกับเหยื่่อเพื่อหลอกล่อให้มาหา เรียกว่า ชักชวน หรือ การล่อลวง แล้วแต่กรณี
ส่วนเมื่อมาแล้วมีการกระทำชำเรากันนั้น ต้องดูว่า เป็นการยินยอมหรือไม่
หากใช่ ก็เรียกว่า กระทำชำเรา
ซึ่่งต้องดูต่อด้วยว่า เหยื่ออายุเท่าใด
หากต่ำกว่า 13 ปี ไม่ว่าจะยินยอมหรือไม่ก็ผิดกฎหมายเกี่ยวกับเพศแล้ว ซึ่งเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้อีกด้วย
ส่วนการมาหาแล้วข่มขืนกระทำชำเรา คือ เหยื่อไม่ยินยอมให้มีเพศสัมพันธ์ แต่ผู้กระทำใช้กำลังประทุษร้ายไม่ว่าทายกายภาพ หรือทางจิตใจ ให้สามารถกระทำชำเราได้สำเร็จ ก็เรื่อกว่า เป็นการข่มขืนกระทำชำเราแล้ว
แนววินิจฉัยของศาลฎีกา “ใช้กำลังประทุษร้าย” ต้อง เป็นการกระทำแก่เนื้อตัวหรือกาย เช่น
1. คำพิพากษาฎีกาที่ 501/2503 จำเลย “จับมือ และกอด” เด็กหญิงอายุ 14 ปี เป็นการใช้แรงกายภาพ ซึ่งเป็นการใช้กำลังประทุษร้าย
2. คำพิพากษาฎีกาที่ 1620/2536 จำเลย “ถอดกางเกงผู้เสียหาย” แล้ว “จับอวัยวะเพศ” โดยผู้เสียหายพยายามต่อสู้ เป็นการใช้แรงกายกระทำต่อผู้เสียหาย อนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย
3. คำพิพากษาฎีกาที่ 3752/2540 จำเลยใช้มือดึงกางเกงของผู้เสียหายลงมาถึงหน้าแข้ง แล้วใช้นิ้วแหย่เข้าไปในช่องคลอดของผู้เสียหาย ขยับนิ้วไปมาโดย ผู้เสียหายไม่ยินยอม “แม้เป็นวิธีการกระทำอนาจาร แต่ก็เป็นการใช้แรงกายภาพต่อผู้เสียหาย” เป็นการใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ม 1 (6) จึงมีความผิดฐานกระทำอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย มาตรา 279 วรรค 2
แต่กรณีที่ 3 ปัจจุบันมีการแก้ไขกฎหมายตามบทบัญญัติใหม่ของมาตรา 276 ว่า
"ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่นต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำโดย การใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ส่วนวรรคอื่นๆ สามารถเข้าไปสืบค้นเพื่่อทำความเข้าใจได้ในโอกาสต่อไปจ้ะ
อ้างอิง https://pantip.com/topic/31730801
https://ilaw.or.th/node/1859
http://www.decha.com/article/section/criminal_case/6915