เหตุที่ยังไม่พบเนื้อคู่ในชาตินี้
อ้างอิง
https://torthammarak.wordpress.com/2012/02/24/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B9/
กรณีที่ไม่เจอเนื้อคู่เลยนั้น มีหลากหลายสาเหตุที่เกี่ยวข้องกัน อาจจะเป็นด้วยว่า เนื้อคู่ในลำดับต้นของตนเองนั้นยังไม่เกิด อาจเกิดแล้วแต่อยู่กันคนละภพคนละภูมิ อาจจะเป็นด้วยแรงแห่งวิบากกรรรมของแต่ละฝ่ายเป็นเหตุทำให้ต้องมีอันพลัดพรากกันไป แต่หญิงหรือชายนั้นก็อาจมีคู่ได้กับบุคคลใกล้ชิดที่ได้เกื้อหนุนกันในปัจจุบัน เป็นคู่ครองได้ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ในปัจจุบันนั้นผู้หญิงหรือผู้ชายนั้นอยู่ตัวคนเดียวมากขึ้น ถ้าเราดูดีๆ อาจจะเป็นเพราะข้อแม้ที่ตั้งไว้มันมากเกินไปหรือไม่ เพราะนอกจากที่จะหาคนที่มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกันแล้ว สมัยนี้ยังพ่วงรูปหล่อ พ่อรวย ความรู้ทางโลกสูงขึ้นไปด้วย เมื่อรสนิยมส่วนตัวหรือบันไดมันสูงมากเกินไป ใครที่ไหนเขาจะตะเกียกตะกายปีนขึ้นไปหา
ในบางคนที่ไม่แต่งงาน ไม่ใช่ว่าเขาหาเนื้อคู่ไม่ได้ไม่เจอ แต่เป็นเพราะเขาเบื่อเรื่องทางโลก ที่มันไม่หลุดพ้น จากวัฏสงสารกันเสียที จึงมุ่งสู่รสพระธรรม มุ่งสู่ชีวิตที่แท้จริง ทั้งเป็นนักบวชหรือถือศีลพรหมจรรย์ ซึ่งก็เป็นการสละสิทธิ์ในการที่จะมีเนื้อคู่แล้วในชาตินี้ เพราะไม่มีเรื่องของกามราคะมาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าเราอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีสามี ไม่มีภรรยา เราก็ไม่ต้องห่วงสามีไม่ต้องห่วงภรรยา และก็ยังมีความสุขได้ เพราะความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า จะต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ มีบุคคลนั้นบุคคลนี้ แต่ความสุขนั้นเกิดจากการไม่โลภ ไม่โกรธต่างหาก และการที่จะไม่โลภ ไม่โกรธได้ ก็ต้องมีความรู้คือปัญญา เพื่อที่จะเอาชนะความหลง
รวมถึงผู้ที่ในบั้นปลายชีวิต ถึงแม้ยังไม่ได้เลิกกันตามกฎหมาย เขาก็แยกเตียงนอนกันอยู่ พากันไปทำบุญ ทำทาน ถือศีล ภาวนา เป็นกัลยาณมิตรทางธรรม ซึ่งเป็นบุญกุศลมหาศาลต่อตัวเขาเอง ทำไมถึงต้องกลับมาเกลือกกลั้วกับเรื่องต่ำๆ อีกให้เปลืองตัวอีก
(ประเด็นที่ 1)
แรงปรารถนาและแรงอธิษฐานในชาติก่อน ในชาตินี้ถ้าเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ เราจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราไปอธิษฐานอะไรไว้มั่ง มาชาตินี้ถึงยังไม่ได้เจอเนื้อคู่แท้เลย เราอาจจะอธิษฐานหนักข้อไปหน่อยแบบทุกชาติไม่ต้องเจอเนื้อคู่ หรือมีข้อแม้พิเศษ ชาตินี้จึงมีแต่วูบๆ วาบๆ คบหาดูใจกัน ได้พักเดียวก็ต้องแยกจากกัน แต่เรารู้สึกลึกๆ ว่าเหมือนเรารอคอยใครอยู่สักคน ทำไมยังไม่มาตามนัดเสียที บางคนถึงขั้นมีนิมิตเห็นหน้าเห็นตากันเลยถ้าจิตนั้นมีฤทธิ์พอ
หรือเพราะเหตุอะไรก็ตามทำให้ต้องอยู่คนเดียว อย่างที่บอกไปแล้วว่า อาจจะเป็นที่เนื้อคู่ลำดับต้นยังไม่ได้มาเกิด หรือมีวิบากกรรมมาขวางเอาไว้ ต้องรอให้หมดวิบากกรรมเสียก่อน จึงจะพบกันได้ ก็คงจะเศร้าใจมาก ยิ่งเศร้าขึ้นไปอีกสิบเท่า ถ้าเห็นคู่อื่นเขาสวืทจนมดเรียกพี่
ถ้าเราไม่มั่นใจในเรื่องนี้ และยังอยากที่จะมีคู่อยู่ ก็ต้องไปอธิษฐานแก้ขออำนาจแห่งบุญที่เราทำตั้งแต่ในอดีตชาติ และบุญใหม่ที่เราทำทั้งหมดได้ชาตินี้ ขอแรงแหง่บุญกุศลช่วยยกเลิกเนื้อคู่เก่าที่ในวันนี้เรายังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร
และขออานิสงส์ผลบุญที่เราทำมาทั้งหมด จงเป็นพลวปัจจัยให้นำพาคู่ในลำดับต่อไปมาพบเจอะเจอกัน ได้ครองคู่กัน และที่สำคัญควรอธิษฐานสเปคที่เราอยากได้ด้วย แต่ขอแนะนำสักนิดว่า อย่าให้มันเกินไปนัก เอาแต่พอดีเดินสายกลางไว้ดีที่สุดและปลอดภัยกว่าเยอะ
(ประเด็นที่ 2)
เรื่องของกรรมในปัจจุบัน เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่จิตใจของเราเองด้วย เมื่อภายในดูใจได้คงที่แล้ว ภายนอกก็สำคัญ ทั้งกิริยา วาจา รูปร่างหน้าตา ก็หมั่นดูแลปรับปรุงให้ดูดี อย่าปล่อยตัวเองจนโทรม ขี้เกียจไม่ทำงานทำการ แล้วมาบอกว่าไม่เห็นจะเจอเนื้อคู่สักที
เขาหรือเธออาจจะมาเกิดแล้ว แต่เห็นสภาพเหมือนคนหลุดออกมาถ้ำอย่างนี้ เขาก็อาจจะถอยหนีเพราะกรรมปัจจุบันที่เราทำไม่ดีเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะเหตุในกรรมปัจจุบันเราไม่ทำให้ดีขึ้นเลย ปล่อยตัวขนาดนั้น ใครเขาจะมาอยู่กับเราได้ ดังนั้นอย่าไปโทษวิบากกรรมเก่าแต่ฝ่ายเดียว ต้องทำกรรมในปัจจุบันให้ดีด้วย