คุณเคยเสียดายอดีตมั้ย

เลิกคิดเรื่องที่ผ่าน ๆ มา นานพอสมควรแล้ว มันไม่เกิดประโยขน์

อย่างมากก็แค่นึกถึงเฉย ๆ

อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด

อดีตไม่มีอะไร ไม่มีใคร ไม่มีพ่อไม่มีแม่ เลยไม่เสียดายค่ะ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด มีครอบครัวที่อบอุ่น แค่นี้ก็มีความสุขจนไม่อยากคิดถึงอดีตเลยค่ะ

เสียดายครับ โดยเฉพาะเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับความรัก ไม่ว่ามาจากแฟน หรือเพื่อน

คือ เสียดายที่ว่า ไปหลวมตัวคบได้ยังไง.???

ถ้ารู้ว่าต่อไปในภายหน้า จะมาทรยศหักหลังกันได้ลงคอ....

มันทำให้ผมได้รับบทเรียนราคาแพงแก่ชีวิต อย่างดีเลยทีเดียว....

อดีตยังคงคิดถึงเสมอเวลาว่างๆ แต่มันย้อนกลับมาไม่ได้ คงได้แต่คิด ว่าครั้งหนึ่งเคยได้มี ยังเคยได้รู้จัก ปัจจุบันเป็นได้แค่ความทรงจำ..... เพราะถ้าเรามัวแต่ไปยึดแต่อดีตก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมาครับ

เราเคยนึกถึงอดีต

และยังนึกถึงอดีตที่สดใสอยู่เรื่อยๆ

แต่ก็นึกเพื่อให้ได้ยิ้ม ได้สุขใจเท่านั้น

เพราะรู้ดีว่า....

อดีตที่สวยงามก็ไม่อาจกลับมาเป็นจริงได้อีก

.

ส่วนการคิดถึงอดีตจะทำให้เสียดายหรือไม่

เราไม่เสียดายนะ..!

เพราะอย่างน้อย ก็ไม่อาจย้อนอดีตให้เป็นปัจจุบันได้

แต่ที่เกิดขึ้นหากนึกถึงอดีตบ่อยๆ คือ..

การเสียน้ำตา ให้กับอดีตที่เคยหวานชื่น

แล้วจากความสุขก็กลายเป็นความเศร้า

ที่ไม่อาจทำให้ความสุขนั้น.. อยู่กับเราได้ตลอดไป

เสียดายหลายๆ อย่างในอดีต... แต่ช่างมันเถอะ มันแก้ไขไม่ได้แล้ว

อดีตแม้จะมีสุข แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ไม่หวนคืนมาได้ แต่ถ้าเสียดายหรือจ่อมจมกับอดีตอยู่เสมอๆ อาจจคลาดปัจจุบันที่แซ่บเว่อ ซี๊ดซีาดนะคะ

เคยเสียดายอดีตที่มีความสุข มีเสียงหัวเราะ มีรอยยิ้ม มีเงินทอง นั้นคืออดีตที่ผ่านมาแล้ว เมื่อเราได้กับไปฝันอีกครั้งที่คิดถึงอดีต แต่เมื่อมีคนในเน็ตคนหนึ่งกล่าวว่า

วันวานทำให้เราเป็นเราในวันนี้ เราที่เป็นเราในทุกวันนี้จะเป็นตัวเราในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเมื่อเรามีวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าแปลว่าเกิดจากความเหนื่อยยากในจากอดีตทั้งสิ้น

ปล.อันนี้เป็นความลับนะครับ ก่อนจะหลับตานอนให้คิดถึงอดีตสวยงามของเรา เมื่อเราหลับจะเกิดเป็นความฝัน ความฝันเป็นกระบวนการทบทวนตนเองของสมองเพื่อถ่ายโอนไปยังจิตใต้สำนึก ซึ่งจะเป็นข้อมูลให้เราต่อสู้ในวันพรุ่งงนี้ ข้อเสียอีกอย่างของสมองคือ แยกการเกิดซ้ำไม่ได้ การเกิดซ้ำที่ซีเรียลมากเท่ากับ ความจริง ใช่แล้วครับเมื่อเรื่องพวกนี้เขาไปยังจิตใต้นึก ในทุกวันจิตใต้สำนึกจะนำเรายังการซ้ำที่ซีเรียลนั้นได้ ตัวอย่างเช่น อดีตเคยมีสร้อยทองหนัก 50 สตางค์จากที่แม่ให้มา เมื่อเอาฝันก็ปรุงแต่งว่า ฉันมีสร้อยคำหนัก 1 บาทในเวลา 3 เดือน ซึ่งเกิดจากขยันทำงาน อีกทั้งมีงานพิเศษมาเสริมในตอนเย็น ซึ่งในเดือนที่ 2 ทะเลาะกับลูกค้าเรื่องงานหนักมาก แต่เพื่อนในอาชีพก็ช่วยงาน จนมีเงินไปซื้อทองจากร้านทองหน้าปากซอยในวันสุดท้ายของเดือนที่ 3 หลังจากที่ตื่นขึ้นมาจิตใต้สำนึกแยกไม่ออกว่าไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อเป็นเรื่องจริงที่เคยเกิดแล้วมันก็เกิดซ้ำได้อีกนี้ เรื่องพวกนี้จะเกิดไรตามนี้เรื่อยๆ จนคุณได้สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทจริง

เสียดายครับ

แค่คิดถึง แต่ไม่ได้เสียดาย

วันนี้สำคัญที่สุด