คนที่อยากมีลูกเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากแต่งงานหรือกลัวการแต่งงาน เป็นคนผิดปกติหรือเปล่า??

ถามทั้งบรรดาท่านหญิงและท่านชายเลยนะคะ

ใครเคยมีความรู้สึกแบบนี้บ้าง?

คนที่รู้สึกและเกิดอาการอย่างที่ถาม ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?

ผิดปกติมั้ย?

ต้องพบจิตแพทย์มั้ย?

7 คำตอบ · +1 โหวต · 1 รายการโปรด · 543 อ่านแล้ว

ก็ไม่ผิดหรอก การกลัวอะไรที่เราไม่แน่นอนใจ ลังเลก็ไม่แปลก

แต่ถ้าแปลก คงทำให้เด็กเกิดมาจากสิ่งผิดธรรมชาติ เราจะเติมเต็มให้เด็กที่เกิดได้จริงๆเหรอ

ต่อให้บอก ซิงเกิ้ลมัม เลี้ยงลูกได้ดี ก็จริง หนึ่งในร้อยที่จะได้เด็กที่เข้าใจโลกได้จริงๆ

เราก็มาจากแม่ที่ผิดหวังในรัก เลี้ยงเรามาคนเดียว มาหลายสิบปี มันทำให้เราไม่หวังความรักจากใคร

และไม่อยากยุ่งเกี่ยวผู้ชาย จนไม่อยากมีลูก ให้ต้องมามีชีวิตลำบาก

ฉะนั้น คนที่เป็นรู้ตัวดีว่าต้องพบ หรือไม่ต้องพบ เค้าต้องรู้เอง

การรู้จักตัวเองดีที่สุด

+4 โหวต · 5 ตอบกลับ

สาธุค่ะ

+0 โหวต

ผู้ชายที่พอจะยุ่งด้วยพอมีนะครับ

+0 โหวต

ก็คงมีจ้า แต่ไม่หา ไม่รอ ไม่ขอพบ

+1 โหวต

สำหรับผมแล้วไม่ได้กลัวการแต่งงานแต่ไม่ชอบการแต่งงาน...คิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับสุขภาพจิตนะ...

สำหรับ ญ แล้วมันเป็นความรู้สึกภูมิใจที่เป็นครั้งนึงในชีวิตลูกผู้ ญ ..ทุกอย่างต้องเฟอร์เฟคลงตัว..สวยงาม โรแมนติก อบอุ่น

แต่สำหรับผมแล้วกลับมองว่าเป็นการประกาศฐานะทางสังคมอย่างนึงมากกว่า..อาจจะมองว่าผมมองโลกในแง่ร้าย..

แต่เท่าที่เห็นหลายคน..ยอมไปกู้หนี้ยืมสิ้นมาเพื่อจัดงานแล้วก็มานั่งทำงานใช้หนี้กัน..เพื่อ??..ความสมบุรณ์แบบในชีวิต?

แต่ก็มีหลายคนก็แต่แบบสมฐานะ..ตามความสามารถที่ตัวเองสามารถทำได้..มีแค่งานเล็กๆมีแค่ญาติผู้ใหญ่กับเพื่อนสนิทเท่านั้น..น่ารักดีออก..แต่ส่วนใหญ่แล้วจะตามใจญาติผู้ใหญ่หรือพ่อแม่นั่นเอง..น้อยหน้ากว่าใครในตำบลไม่ได้นั่นเอง...

ผลที่ตามก็อาจจะตกอยู่กับตัวเจ้าป่าวหรือเจ้าสาวนั่นเอง...บางคู่อาจถึงขั้นทะเลาะกันเลยก็มี..แต่..ก็ส่วนน้อยอ่ะนะ..

ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ยังมีทางให้ได้เดินได้คิด..ได้ตัดสินใจร่วมกันอีกเยอะแยะ..

ไม่ว่าจะมีลูก..เลี้ยงลูก..อย่างไรให้เป็นคนดีในสังคม..ให้ได้รับการศึกษาทีดี..มีคุณธรรมและศีลธรรม..ไม่ทำชีวิตตัวเองให้เสีย

ผมเลยมองว่ามันก็แค่ส่วนประกอบเล็กๆ..ที่มีผลน้อยมากในการใช้ชีวิตคู่ให้มีความสุข...

ยังงัยมันก็เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องคุย..ต้องตกลงกัน..ไม่ใช่ให้คนอื่นมาบงการชีวิตเราได้.......

+3 โหวต · 1 ตอบกลับ

ประเด็นการจัดงานแต่งนี่เราเห็นด้วยค่ะ จัดแบบหรูหรา อลังการ เพียงเพื่อหน้าตาของครอบครัว เราไม่ชอบไม่เห็นด้วยเหมือนกัน คิดว่างานแต่งที่ออกมาดูสมบูรณ์แบบในสายตาคนในสังคมไม่ได้รับประกันว่าชีวิตคู่จะดำเนินไปได้ดีมากกว่างานแต่งเรียบๆง่ายๆ

การยอมกู้หนี้ยืมสินเพื่อจัดงาน เราก็คิดว่าเริ่มต้นชีวิตคู่ได้ไม่ดีแล้วนะ - -^

ปล. พี่ๆเราจัดงานแต่งเรียบๆง่ายๆ ชีวิตคู่ยังดีกันทุกคน แต่ญาติอีกคนจัดงานเลี้ยงที่คิดว่าสมหน้าตา..สุดท้ายก็จบด้วยการหย่าร้างอ่ะ งานแต่งที่ดูดีไม่ใช่บทสรุปที่ดีของชีวิตคู่เสมอไปเนอะ

+1 โหวต

ไม่ผิดปกติ หรอกค่ะ.. ไม่ได้กลัวการมีลูก แต่กลัวความผิดหวัง หลังจากแต่งงานแล้วมากกว่า

+2 โหวต · 2 ตอบกลับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะคุณคิคารุ :)

เห็นด้วยเรื่องกลัวผิดหวังหลังการแต่งงานค่ะ ^ ^'

+1 โหวต

ยินดีคร้า อาจจะไม่ใช่คำตอบที่ใช่ที่สุด ^^

+1 โหวต

ผมคิดว่า ไม่ผิดปกติหรอกครับ ผมเคยได้ยินบางคนที่ยังไม่แต่งงาน บางคนยังไม่มีแฟนด้วยซ้ำไป

แต่เขาก็อยากจะรับเด็กมาเลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรมน่ะครับ ผมว่า ดีเสียอีก ถ้าเขาสามารถรับเด็กกำพร้า

หรือเด็กที่พ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เอามาเลี้ยง และสอนให้เป็นคนดี ถ้าเขาสามารถรักเด็กคนนั้นได้

ตลอดชีวิตจริงๆ ไม่ทิ้งๆขว้างๆในภายหลังน่ะครับ

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

เราก็เคยรู้สึกแบบนั้นค่ะ เรากลัวการที่ลูกออกมาแล้วต้องมารับรู้เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน.. สงสารเด็ก เลยแค่อยากมีลูก แต่ไม่อยากแต่งงาน

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

ผมว่าตามสัญชาติญาณของสิ่งมีชีวิต เมื่อถึงวัยสืบทายาทครับ อันนี้คิดเองน่ะ ...อิอิ

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

ไม่ได้กลัวการแต่งงาน มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหากหาแฟนได้และตกลง

ปลงใจกันที่จะอยู่ร่วมกัน เราไม่คิดว่าคนที่เป็นอย่างนั้นผิดปกติอะไร เขาอาจมีปสก.

ที่ไม่ดีจากครอบครัวที่เขาโตขึ้นมาก็ได้ {เดาเอานะ} และการไปพบจิตแพทย์

ก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นโรคจิตทุกคน บางครั้งคนเราอาจมีปมบางอย่างที่คนทั่วไป

ไม่เข้าใจ แต่จิตแพทย์เขาศึกษามาด้านนี้ เขาอาจมีคำอธิบายที่เป็นจริง

มิใช่โทษเรื่องกรรม หรือเรื่องอาภัพอะไรแบบนั้น

+0 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ