วันเมษาหน้าโง่ April Fools' Day

วันเมษาหน้าโง่ หรือ วันเอพริลฟูล (อังกฤษ: April Fool's Day) เฉลิมฉลองในหลายประเทศในวันที่ 1 เมษายนของทุกปี โดยผู้คนจะเล่นมุชตลกและเรื่องหลอกลวงต่อกัน มุขตลกและคนที่ถูกหลอกจะเรียกว่าเป็น "คนโง่เดือนเมษา" ตามสำนักพิมพ์หรือสื่อต่าง ๆ อาจรายงานเรื่องหลอกลวงในวันนี้ และออกมาเฉลยในวันต่อมา วันนี้ไม่ใช่วันหยุดราชการ เริ่มเป็นที่นิยมตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะในแคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย บราซิล และสหรัฐอเมริกา

การเชื่อมโยงระหว่างวันที่ 1 เมษายนกับความเขลาที่เก่าแก่ที่สุดที่มีบันทึกสามารถพบได้ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ (ค.ศ. 1392) นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า การฟื้นฟูวันที่ 1 มกราคมให้เป็นวันขึ้นปีใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีผลต่อการสร้างสรรค์วันดังกล่าว แต่ทฤษฎีนี้มิได้อธิบายการอ้างถึงก่อนหน้านั้น

กำเนิด

ต้นเค้าของวันเมษาหน้าโง่มีเทศกาลฮิลาเรียของโรมัน ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 25 มีนาคมและเทศกาลคนโง่ในสมัยกลาง จัดขึ้นวันที่ 28 ธันวาคม และยังคงเป็นวันซึ่งมีการเล่นตลกอยู่ในประเทศที่พูดภาษาสเปน

ใน ตำนานแคนเตอร์บรี ของชอเซอร์ "ตำนานของแม่ชีของพระ" (Nun's Priest's Tale) ซึ่งเรื่องมีขึ้น "Syn March bigan thritty dayes and two" นักวิชาการสมัยใหม่เชื่อว่ามีความผิดพลาดในการทำสำเนาในเอกสารเขียนต้นฉบับเท่าที่มีอยู่ และชอเซอร์แท้จริงแล้วเขียนว่า "Syn March was gon" ดังนั้น วลีนี้เดิมจึงหมายถึง 32 วันหลังเดือนเมษายน คือ 2 พฤษภาคม วันครบรอบการหมั้นระหว่างสมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษกับแอนน์แห่งโบฮีเมีย ซึ่งเกิดขึ้นใน ค.ศ. 1381 ผู้อ่านกลับเข้าใจผิดว่าวลีนี้หมายถึง "32 มีนาคม" หรือ 1 เมษายน ในตำนานของชอเซอร์ ไก่ตัวผู้ที่หลงตัวเองถูกสุนัขจิ้งจอกตบตา

ในสมัยกลาง วันขึ้นปีใหม่เฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 มีนาคมในเมืองยุโรปส่วนมาก ในบางพื้นที่ของฝรั่งเศสเป็นวันหยุดนานหนึ่งสัปดาห์ที่สิ้นสุดลงในวันที่ 1 เมษายน นักเขียนจำนวนมากเสนอว่า วันเมษาหน้าโง่ถือกำเนิดขึ้นเพราะผู้ที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม ล้อคนที่เฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่วันอื่น การใช้วันที่ 1 มกราคมเป็นวันขึ้นปีใหม่นั้นพบทั่วไปในฝรั่งเศสเมื่อถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 และวันนี้ได้รับมาอย่างเป็นทางการใน ค.ศ. 1564 โดยกฤษฎีการูสิยอง (Edict of Roussillon)

ที่มา: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%87%E0%B9%88

2 คำตอบ · +1 โหวต · 0 รายการโปรด · 19 อ่านแล้ว

มิน่าละวันนี้คุณหล่อๆน่ารักจัง

อิอิ เมษาหน้าโง่มีที่มาแบบนี้ นี่เอง

+1 โหวต · 2 ตอบกลับ

ขอบคุณครับ 555 ^_^

+0 โหวต

จ้าาา อะคึๆ

+0 โหวต

ไม่ค่อยเข้าใจเทศกาลนี้เท่าไหร่...

คงเพราะสังคมและวัฒนธรรมเราสอนไม่ให้แกล้งคนหรือสร้างความเดือดร้อนให้ใคร..

อาจจะฟังดูซีเรียสหน่อยนึงนะครับ..แต่ถ้าไม่เจอกับตัวคงไม่รู้..ถ้าเอาแค่ฮาๆขำก็อดอมยิ้มไม่ได้เหมือนกัน..

แต่เคยเปิดบางรายการ..ไม่ว่าจะเป็นเมืองนอกหรือเมืองไทยก็ตามแต่..มันก็ตลกไม่ออกเหมือนกัน..

ถ้าโดนกับตัว...หัวเราะบนความอับอายผสมกับ..การแกล้งบางเรื่องนี่ถึงขั้นอาจจะหัวใจวายตายได้เลยก็มี...

แค่อยากรู้ว่า..พอโดนเค้าแกล้งคืน..โดนเค้าแกล้งหัวใจวายตายมั่งนี่..หน้าเจื่อนกันเป็นแถวๆ...

สำหรับผู้ใหญ่ดูมันก็พิจารณากันได้หรอกว่าเรื่องไหนแกล้งเรื่องไหนจริง...

ผมกลัวแต่เด็กๆหน่ะซิครับ...โดยเฉพาะถ้าเกิดมีผู้ใหญ่ที่อยู่ด้วยโดยโตแต่ตัว..

เด็กจะจดจำในสิ่งที่ผิดๆไปใช้ในอนาคตโดยไม่รู้ตัว..คราวนี้หล่ะ..ยาวเลย...เด็กๆรุ่นต่อๆไป...

ผมคงทำได้แค่วิจารณ์ตามความรู้สึก...ผู้ใหญ่ที่มีเด็กอยู่ในความดูแลต่างหากที่ต้องพิจารณาเอาเอง...ตึ๋งตึ่งงงง..!!!...

+0 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ