กลับไปยังคำถาม รุ้บ้างใหม ในท้องฟ้าวันนี้มีตำนานอะไรบ้างในเดือนแห่งความรัก
ถามคำถาม

ในคำตอบ

ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับดาวสาวทอผ้าของชาวญี่ปุ่น

สำหรับเทศกาลทานาบาตะ มีต้นกำเนิดมาจากเทศกาล “ราตรีแห่งเลขเจ็ด” หรือ “เทศกาลชีซี” ที่มีการเฉลิมฉลองกันในประเทศจีน ซึ่งเผยแพร่เข้ามาในราชสำนักญี่ปุ่นในสมัยเฮอัน (พ.ศ. 1337 – 1728) ซึ่งขณะนั้นเมืองศูนย์กลางเมืองเกียวโต (ก่อนจะร่วมเป็นประเทศญี่ปุ่น)

สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วดาวเวก้า เป็นตัวแทนของ “เจ้าหญิงโอริฮิเมะ” หรือเจ้าหญิงทอผ้า และดาวอัลแทร์เป็นตัวแทนของ “ฮิโกะโบชิ” ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นโบราณที่เล่าต่อๆ กันมาว่า ดาวสองดวงนี้ต้องพลัดพรากจากกันโดยมี “แม่น้ำแห่งสวรรค์” (ทางช้างเผือก) ขวางกั้นอยู่ ตามจินตนาการของคนสมัยโบราณซึ่งมองเห็นทางช้างเผือกที่มีดาวหลายล้านดวงเรียงรายคล้ายกับว่าเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่บนสวรรค์ (บนท้องฟ้า) และตำนานที่ถูกเหล่าต่อกันมานานนับพันปีนี่ย่อมถูกปรับเปลี่ยนไปตามการเวลาเหลือแต่โครงสร้างของเรื่องแต่รายละเอียดปลีกย่อยส่วนใหญ่ถูกดัดแปลงไป จึงกลายเป็น “ตำนานหนุ่มเลี้ยงวัวกับดาวสาวทอผ้า” ในฉบับของชาวญี่ปุ่น

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ฝั่งแม่น้ำด้านเหนือของแม่น้ำแห่งสวรรค์ (ทางช้างเผือกที่พาดผ่านทางซีกฟ้าเหนือที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์) บนสวรรค์เทพผู้ครองสวรรค์ที่มีธิดาผู้เลอโฉมและขยันขันแข็งอยู่องค์หนึ่งที่ชื่อว่า “เจ้าหญิงโอริฮิเมะ” ซึ่งเวลาของเจ้าหญิงใช้ไปกับการทอผ้าให้กับพระบิดา กับเหล่าเทพทั้งหลาย จึงไม่มีเวลาออกไปเที่ยวและพบปะกับเทพองค์อื่น ดังนั้นพระบิดาจึงได้ตระหนักดีว่ายิ่งนานวันไปเจ้าหญิงก็ถึงเวลาที่จะมีคู่ครองได้แล้ว แต่เจ้าหญิงก็ได้แต่ทอผ้าอย่างเดียว ต่อมาพระบิดาได้ข่าวว่ามีชายหนุ่มที่กล้าหาญและหล่อเหลาที่ชื่อว่า “ฮิโกโบชิ” จึงอยากให้ธิดาได้แต่งงานกับชายหนุ่มผู้นี้ พระบิดาของเจ้าหญิงโอริฮิเมะจึงได้แนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน เมื่อทั้งสองได้พบกัน ก็เกิดการชอบพอกัน และก่อเกิดเป็นความรัก เมื่อเทพผู้ครองสวรรค์เห็นว่าทั้งสองถูกตาต้องใจกันจึงได้จัดให้มีพิธีอภิเษกสมรสระหว่างทั้งสองขึ้น แต่เมื่อหลังจากพิธีอภิเษกสมรสก็เริ่มเกิดปัญหาขึ้นมา ซึ่งทั้งสองจะออกไปเที่ยวด้วยกันทุกวัน ทุกคืน เจ้าหญิงโอริฮิเมะมีความสุขมากและลุ่มหลงฮิโกโบชิจนไม่ยอมทอผ้าเหมือนก่อน แต่พระบิดาก็ให้อภัยมาตลอดยิ่งนานวันเข้าเจ้าหญิงโอริฮิเมะก็ยิ่งหลงระเริงไปกับความรักจนลืมหมดทุกสิ่งทุกอย่างเอาแต่ออกไปเที่ยวกับฮิโกโบชิ ทำให้เทพผู้ครองสวรรค์พิโรธ จึงลงอาญาให้ทั้งสองแยกจากกันไปโดยให้ไปอยู่คนละฝากฝั่งของแม่น้ำแห่งสวรรค์และไม่อนุญาตให้ทั้งสองพบกันอีก หลังจากที่ทั้งสองถูกแยกออกจากกันเจ้าหญิงโอริฮิเมะก็มีแต่ความโศกเศร้าที่ต้องพลัดพรากจากผู้เป็นสามีสุดที่รักจนน้ำตาแทบจะเป็นสายเลือด เทพผู้ครองสวรรค์ได้เฝ้ามองความเศร้าโศกของนาง และเห็นอาการของนางเลวร้ายลงทุกวัน ก็เกิดความสงสารที่จะเห็นนางเป็นเช่นนี้อีกต่อไป จึงอนุญาตให้นางสามารถพบกับสามีได้เพียงปีละ 1 ครั้ง โดย “ในทุก ๆ ปี นางจะสามารถข้ามแม่น้ำแห่งสวรรค์ไปพบกับสามีได้ 1 ครั้ง คือ วันที่ 7 เดือน 7 ของทุก ๆ ปี” ซึ่งคืนที่เจ็ดของเดือนที่เจ็ดนกกระสาจะบินมาเรียงตัวกันสร้างเป็นสะพานสวรรค์ เพื่อให้ทั้งสองได้มาพบกัน ถึงแม้จะเป็นแค่วันเดียวในหนึ่งปีด้วยความรักของทั้งสองก็คอยนับวันที่เขาทั้งสองจะได้พบกันอีก นับจากนั้นมาเจ้าหญิงโอริฮิเมะก็กลับมาขยันขันแข็งตั้งหน้าตั้งตาทอผ้าของนางเหมือนเดิม เพื่อรอคอยคืนที่เจ็ดของเดือนที่เจ็ดของปีต่อไป

+1 โหวต · 0 ตอบกลับ

คำตอบนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ