ในคำตอบ

บอกตามตรงนะ....'' เคยครับ '' กับอดีตคนรักไงครับ

สมัยนั้นตอนที่ยังรักกัน บอกเลยว่า.....หวาน ซึ้ง มดแทบขึ้นมือถือ ขึ้นที่นอนเลยล่ะ หึหึ

แต่คุยกันไม่เชิงถึงเช้าหรอกครับ ไม่ไหว

ประมาณเกือบเช้า คือตอนตี 4 ก็นอนแล้ว

+1 โหวต · 102 ตอบกลับ

ทุกคนอยากเจอคนดี อยากมีครอบครัวอบอุ่นกันทั้งนั้นแหละ

ก็อย่างที่แม่คุณบอกแหละ...

"หากได้เจอคนที่ดีดีแล้ว ความคิดอาจจะเปลี่ยน และเปิดใจบ้าง ไม่มากก็น้อย ดีกว่าไม่เปิดใจบ้างเลย"

เราก็ใช่จะปิดทั้งหมด เพียงแต่ขอให้คนที่จะเข้ามา มีคุณสมบัติที่ดี จนก้าวข้ามผ่านกำแพงมาได้

แม้กำแพงจะสูงชัน จะแข็งแกร่งเพียงใด หากเขามีรักแท้ ที่ยิ่งใหญ่ เขาจะพิสูจน์ตัวเขาจากการกระทำ

จนกำแพงนั้นพังทลายไปได้เอง และ ณ วันนั้น เราคงมีความสุขกับความรักครั้งสุดท้ายเสียที

+0 โหวต

มีทางเดียว คงต้องพิสูจน์กันไปเท่านั้นล่ะครับ ถึงจะรู้คำตอบ

คุณบอกว่า คุณเจ็บช้ำ แล้วคุณไม่คิดเหรอครับว่า ชีวิตผมน่ะ แย่ยิ่งกว่าคุณเสียอีก.!!!

ผมผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนผมป่วยทั้งกายและจิตใจไปหมดแล้ว

และผมก็เข็ดขยาดกับความรักซะด้วยซ้ำไป ทั้งๆที่ทำแต่ความดี ทำความรักที่ดีมาตลอด

จนผมคิดว่า ชาตินี้ อาจจะขอใช้ชีวิตตัวคนเดียวตลอดไป

แต่แม่ผมก็บอกผมไว้ว่า................

หากได้เจอคนที่ดีดีแล้ว ความคิดอาจจะเปลียน และเปิดใจบ้าง ไม่มากก็น้อย

ดีกว่าไม่เปิดใจบ้างเลย

ทุกอย่าง คงอยู่ที่ตัวคุณเองบ้างแล้วล่ะครับ ว่าอยากเจอคนดี อยากเจอคนที่ใช่บ้างมั้ย

+0 โหวต

ครอบครัวคุณก็โชคดีเนอะ

เราคงไม่ทำอย่างแม่ไปทุกเรื่องหรอก เพราะเชื่อว่าเราคงไม่โชคดีด้านความรัก

ที่ผ่านมาพบแต่ด้านลบของการมีความรักมาตลอด จนเลิกมองหาความรักดีๆ ไปนานแล้ว

ถ้าความรักจากใครคนหนึ่ง สามารถปีนข้ามกำแพงความเจ็บช้ำเรามาได้ ก็คงคือ คนที่ใช่

แต่เราก็รู้ดีว่า คนที่เขาจะรักเรามากมาย จนสามารถเข้ามาเยียวยาหัวใจช้ำๆ นี้ได้... คงไม่มีอยู่จริงหรอก

+0 โหวต

เขาเรียกว่า การยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ยอมทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก

แต่ก็แล้วแต่ความโชคดีของแต่ละคนนะ เผอิญแม่ของคุณโชคดีไง ที่มาเจอพ่อคุณ

และพ่อคุณคงชินไปนานแล้ว เลยไม่ถือสา ใจพ่อคุณแข็งเหมือนหินด้วยไงล่ะ ไม่งั้นคงไม่อยู่มาจนทุกวันนี้หรอกครับ

และพ่อคุณมองข้ามสิ่งไม่ดีของแม่คุณไป มองแต่สิ่งที่ดีดีในตัวแม่ของคุณไงล่ะครับ

ซึ่งหากเป็นคนอื่น เขาอาจจะไม่ทนก็เป็นได้ เพราะความรู้สึกของคนเรามันไม่เท่ากัน และมีขีดจำกัด

แต่คุณไม่จำเป็นต้องเอาแม่คุณเป็นตัวอย่างก็ได้ เพราะชีวิตมันเป็นของคุณเอง

และอีกอย่าง ชีวิตคุณอาจจะไม่โชคดี เท่าแม่คุณก็ได้ ใครจะไปรู้

ดีที่สุด คือ รู้จักปรับตัวบ้าง ดีที่สุด ในเมื่อได้เกิดมารักกันแล้ว ควรจะรู้ค่าในความดีและความรักของเขา

เห็นคุณถามว่า........เราเลยอยากรู้ว่าจะมีใครทำให้คนที่เขารักได้เท่าพ่อเราบ้างมั๊ย ในโลกใบนี้

ผมขอบอกเลยครับ ว่า............มี ตากับยายของผมเอง

+0 โหวต

คนแบบที่เราพูดมา มีอยู่จริงนะ พ่อกับแม่เราเองแหละ

พ่อเรารักแม่มาก ตามใจทุกอย่าง แม่ใส่อารมณ์แค่ไหน ไม่มีเถียงสักคำ นิ่งทนมาเป็นสิบๆ ปี

เรายังทึ่งเลย ทั้งยายเรา น้าเรา เข้าข้างพ่อหมด ทุกคนเตือนแม่ให้ปรับตัวบ้าง

ให้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ให้เอาใจพ่อบ้าง ให้ลดทิฐิลง ให้พูดดีๆ กับพ่อเหมือนที่พูดดีๆ กับคนอื่น

แต่แม่เราเป็นคนดื้อ คนรั้น ยิ่งเตือนยิ่งทำ ใครๆ ก็พูดว่าข้อเสียของแม่เรา คือ ใจร้อน ดื้อรั้น

เราเลยอยากรู้ว่าจะมีใครทำให้คนที่เขารักได้เท่าพ่อเราบ้างมั๊ย ในโลกใบนี้

+0 โหวต

แต่ถ้าชื่อว่า รักกันจริง

อีกฝ่ายก็คงจะยอมปรับตัวเข้าหากันบ้างละครับ

ไม่งั้นเขาไม่เรียกว่า ความรัก หรือคู่ชีวิตหรอก ถ้าไม่รักกันจริง แล้วจะมาคบหากันเพื่ออะไร..????1

ซึ่งหลายๆคู่ต้องมาจบชีวิตรัก เพราะว่าไม่รู้จักปรับตัวเข้าหากันเลย ก็มีมากมาย

และหากตัวคุณเอง ไม่ยอมปรับตัวเข้าหากันบ้าง ก็คงไม่แปลกหรอก ที่จะใช้ชีวิตตัวคนเดียวไปทั้งชีวิต

เพราะรักอิสระ รักความเป็นตัวของตัวเองสูงกว่าที่จะนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ที่เขารักคุณ จริงมั้ย.???

ผมไม่ได้ว่าคุณนะครับ แค่พูดด้วยความหวังดีเท่านั้นเอง......หวังดีจริงๆ

ส่วนผมเอง หากจะใช้ชีวิตโสด หรือตัวคนเดียวไปทั้งชีวิตก็จริง แต่ไม่ได้มาจากผลที่ว่าไม่รู้จักปรับตัวเข้าหากัน

แต่มันเป็นผลมาจากที่ว่า ไม่ไว้ใจใคร และเข็ดขยาดจากความรักต่างหากล่ะครับ สำหรับผมนะ

+0 โหวต

ต่อให้เรามีบุคลิกภาพที่ยึดติดอย่างแรงแค่ไหนน่ะเหรอ

แล้วคุณจะไม่น้อยใจเหรอที่คุณปรับเข้าหาเราฝ่ายเดียวร่ำไป

ต้องมีเบื่อ มีเรียกร้องบ้างแหละน่า ... เพราะปรับอยู่คนเดียวต้องมีเบื่อแน่นอน

+0 โหวต

ที่คุณกล่าวมาทั้งหมด เขาเรียกว่า การปรับตัวเข้าหา และคือ การยอมรับในสิ่งที่เป็นต่อกันครับ

แต่ขอกล่าวอ้างลอยๆนะ ที่เรียกว่า สมมุติ

หากเราสองคนเกิดมาเป็นคู่ครองกันจริงๆ และคุณรักผม ไม่มีเปลี่ยนแปลง

ถึงยังไง ผมก็ไม่มีวันเรียกกลับคืนไปหรอกครับ สำหรับหัวใจน่ะ เข้าใจนะครับ...????

+0 โหวต

ขอบคุณมาก ไม่แน่นะสักวันคุณอาจเรียกคืนกลับไปก็ได้ ใครจะไปรู้

บางคู่ก็ยากนะ อีกคนปรับ อีกคนไม่เคยปรับ หรือปรับไม่ได้

นิสัยคนเราหรือที่เรียกว่าบุคลิกภาพ แก้ยาก

เพราะกว่าจะหล่อหลอมมาเป็นนิสัย บุคลิกภาพก็ใช้เวลาเป็นสิบปี

จะแก้เมื่อมาอยู่เป็นครอบครัวกับคนๆ หนึ่ง แล้วแก้ได้ทั้งหมดก็ยาก

แถมยังมีคำว่าอคติ ทิฐิ เข้ามาเกี่ยวข้องอีก เลยทำให้เรื่องบางเรื่องแก้ยากขึ้นกว่าที่ควร

ถ้าพบคู่ครองที่คิดปล่อย ละวางความเป็นตัวเอง (EGO) ได้ก็ดีหน่อย

แต่ชีวิตหนึ่งจะมีสักกี่คนที่ละวางตัวตนได้ง่ายๆ

แม้แต่เรื่องของตัวเองในแต่ละคน หรือเรื่องทั่วๆ ไปยังวางยากเลย

อย่างที่เราเห็นบ่อยๆ การแซงคิว การถูกสะท้อนนิสัยการทำงาน การคบเพื่อนยังยาก

นับประสาอะไรจะไปยอมคู่ครองได้ง่ายๆ

+0 โหวต

ยินดีครับ เพราะความรู้สึกที่ดีของผม มันมีต่อคุณไปแล้วจริงๆ

ส่วนคุณจะคิดยังไง แบบไหน ผมคงห้ามใจคุณไม่ได้หรอก ต่อให้คุณปฏิเสธ และผมพูดบอกเหตุผล ตามแก้คำพูดของคุณก็ตาม

เพราะผมถือว่า จิตใจความคิดคนเรา ห้ามกันไม่ได้ ได้กายมา แต่ไม่ได้หัวใจมา มันก็ไร้ค่าแน่นอน

ยกเว้นซะว่า ปรับตัวเข้าหากันให้มากที่สุด ถึงแม้จะรู้ว่ามันจะมีปัญหาบ้างก็ตาม

หากคนเรารักกันจริง หากความรักมันเกิดขึ้นต่อกันแล้ว คำว่า ปัญหา คงไม่สำคัญแล้วล่ะครับ

+0 โหวต

ไม่มั๊ง อาจมีอะไรให้เรียนรู้ ทำความเข้าใจจากปัญหาที่เกิดระหว่างคนสองคนไปตลอดก็ได้นะ

เราคิดว่าเราคงทำให้คุณน้อยไจ ได้อีกแน่ๆ เพราะเป็นคนไม่ค่อยระวังตัว

มารู้อีกทีก็ทำให้คุณน้อยใจไปแล้ว เหมืนอทุกครั้งนั่นแหละ

ขอบคุณนะสำหรับความรู้สึกนั้น ... ^ ^

+0 โหวต

จ้า.............แม่คุณ 555+++

ถ้าในอนาคตได้เราสองคนมาเป็นคู่ครองกัน คงจะดีนะ เพราะได้เรียนรู้อะไรมากมายพอสมควร แทบจะหมดใส้หมดพุงเลยล่ะ เชื่อมั้ยล่ะ..????

อย่าคิดมากนะ ผมแค่กล่าวอ้างลอยๆ ออกมา เพราะในใจลึกๆ อยากบอกว่า.....ผมรู้สึกดีกับคุณ

+0 โหวต

จ้ะ ก็ให้เป็นไปตามธรรมชาติก็แล้วกัน ทักทาย พูดคุย เรียนรู้แบบฟรีสไตล์ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องกำหนดวัน

เมื่อไหร่ที่ความจริงใจชนะทุกอย่างจนสามารถข้ามผ่านกำแพงที่แข็งแรงมาได้ ก็เมื่อนั้นแหละ

เราจะพยายามไม่ปิดกั้น ไม่ระแวง ไม่ระวัง ให้มากเท่าที่เราจะทำได้

แต่ถ้าเราเผลอ มีกำแพงสูงและหนาขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็กระซิบบอกกันบ้างแล้วกัน จะได้ลดความสูง ความหนา ลงไป

เพื่อป้องกันความน้อยใจ ระแวง และอื่นไ ที่อาจเกิดขึ้นมา ณ เวลานั้นลงไป

+0 โหวต

แล้วแต่คุณจะรับพิจารณาล่ะกัน...=_=''...........

ผมคิดว่า จะพยายามทำให้ดีที่สุดก็พอแล้ว โอเคนะ.???

+0 โหวต

คุณมั่นใจแน่นะว่าจะไม่เป็นอย่างพวกนั้น ถึงบอกให้เราจัดคุณอยู่ห่างจากคนกลุ่มนั้น

คนเคยเจ็บ เลยไม่ไว้ใจใครง่ายๆ มาเจอกัน

ก็น่าจะรู้นะว่าต้องใช้ความอดทน และความจริงใจมาพิสูจน์มากหน่อย

ความไว้ใจจึงเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

+0 โหวต

ค้าบ รู้ว่าเผื่อ

แต่ถ้าจะให้ดี ยกให้ฐานะผมได้อยู่ห่างๆจากพวกที่เคยทำกับคุณจะได้มั้ย..????

คนเคยเจ็บ และไม่ไว้ใจใครง่ายๆ มาเจอกัน คุณก็น่าจะรู้

+0 โหวต

ก็บอกเผื่อไว้ไง

เราเจอคนโกหกมาเยอะแล้ว ต่อหน้าบอกอย่าง แต่ลับหลังทำอีกอย่าง

มารู้ทีหลังแล้วเสียความรู้สึกมากๆ เสียดายความรู้สึกดีๆ ที่ให้ไป

เลยไม่พร้อมจะรับการโกหก หลอกลอง ไม่จริงใจอีก

ถ้าใครคิดจะทำ จะได้เลิกเสียหรือไม่ก็เปลี่ยนใจยังทัน

แต่ถ้าทำ เรารู้เมื่อไหร่ ก็คงยากที่จะลืมความเจ็บ แล้วกลับมาเริ่มใหม่ในฐานะเก่า ... เลยบอกไว้ก่อน

+0 โหวต

รู้สึกจะบอกบ่อยจังนะครับ ว่าอย่าโกหก

ผมมันดูน่ากลัว ไม่น่าไว้ใจขนาดนั้นเลยเหรอครับ ถามจริง..???

ของอย่างนี้ มันต้องใช้ใจซื้อใจ เท่านั้นครับ ถึงจะคบกันต่อไปได้......

+0 โหวต

เคร เราไม่ชอบคนโกหกนะ บอกกันได้ตรงๆ ขออย่างเดียวอย่าโกหกกัน

+0 โหวต

ความจริงใจ ในตัวผม มันคือ สันดาน ของผมอยู่แล้วครับ

แต่ความจริงใจของผม มันเคยกลับมาทำร้ายชีวิต ซะมากกว่า

ฉะนั้น สบายใจได้เลยครับ

+0 โหวต

ความคิดเห็นของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ