เคยหรือเปล่า

คุณเคยพูดคำหยาบมั๊ย???

แล้วคิดว่าเริ่มพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ ...กับใครบ้าง??

แล้วคำว่า "มึง" "กู" "ไอ้เห้" "ไอ้ห่า"

จัดว่าเป็นคำหยาบหรือเปล่า??

.

วันก่อนเราเจอสาวสวยวัยรุ่น หน้าตาน่ารักบนรถเมล์

เธอมานั่งข้างๆ เรา เรางี้ใจเต้น แอบมองหลายครั้ง

แต่พอเธอรับโทรศัพท์เท่านั้นแหละ

เราไม่กล้ามองไปทางเธอเลย

กลัวเธอปล่อยของ ทั้งตัวเห้ ตะกวด ห่าลงแถวตัวเราเข้าให้

บอกตรงๆ ขี้เกียจไปอาบน้ำมนต์

ความสวย ความน่ารักหายหมดเลยแม่คุณ

.

.

คุณคิดเช่นไรบ้างกับเรื่องนี้

8 คำตอบ · +3 โหวต · 0 รายการโปรด · 133 อ่านแล้ว

โแยส่วนตัวเคยพูดคำหยาบนะ แต่พูดกับแค่เพื่อนสนิทที่คุยแบบนี้ได้เท่านั้น

โดยส่วนตัวคิดว่า มึง กู เห้ ตะกวด ถ้าใช้ไม่ถูกกาละเทศะก็หยาบ แต่ถ้าใช้ถูกกาละเทศะ ก็ไม่หยาบนะ

+4 โหวต · 1 ตอบกลับ

จ้า ขอบคุณสำหรับคำตอบจ้ะ ^^

+0 โหวต

หากเป็นผม ผมก็ตะลึงเหมือนกัน

เอาเป็นว่า เป็นความสนิทของคนที่เป็นเพื่อนกัน เพราะรู้กันดี เลยไม่ถือกัน ไม่ว่ากัน

แล้วหลังจากนั้น ตัวเราเอง ก็จงเงียบต่อไป.....

+3 โหวต · 3 ตอบกลับ

ใช่ ปกติเราไม่ใช่คนปากร้ายนะ

แต่คำหยาบ มึง กู ไม่เคยใช้กับใครเลย

แม้แต่ตอนรำพึง รำพันกับตัวเอง

+1 โหวต

ใช่ครับ ดีแล้วล่ะ

แต่เรื่องของคนอื่นเขา ช่างเขาไปเลย

หากจะต้องเสียภาพพจน์ ดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ก็ตัวเขาเองนี่ล่ะ ที่ทำตัวเอง....

+1 โหวต

จ้ะ เราก็พยายามไม่ไปตัดสินดี ไม่ดีแก่ใครนะ

เพียงแค่มองว่าฟังไม่เสนาะหู แต่นั้น

+1 โหวต

ก็มีพูดอยู่นะ ไปตามอารมณ์ นาน ๆ ครั้ง

+2 โหวต · 1 ตอบกลับ

จ้ะ

รูปโปรไฟล์รูปนี้ได้อารมณ์สุดๆ .. ชอบ

+0 โหวต

คำว่า "มึง" "กู" "ไอ้เห้" "ไอ้ห่า"

จัดว่าเป็นคำหยาบหรือเปล่า??

@ ส่วนตัวคิดว่าไม่หยาบ

มันก็แค่คำในยุคโบราณธรรมดา ๆ

ที่ผ่านยุคสมัยมาอยู่ในยุคนี้สมัยนี้ที่เขาบอกว่าหยาบ

ไม่เหมาะที่จะใช้พูดกัน (ในบางสังคม)

ส่วนคำถามสุดท้าย

ขอตอบว่ารู้สึกเฉย ๆ เพราะเคยเจอมายิ่งกว่านี้อีก //🐱🐱🐱🐱🐱🐱

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

ของคุณสำหรับคำตอบจ้ะ

โห!!... ยิ่งกว่านี้อีกเหรอ??

ดีนะเราไม่เคยเจออะไรรุนแรงแบบนั้น

+1 โหวต

เคยเจอบแบบคุณครับ คนสวยหน้าตาดีคุยกับแฟนเขา เรื่องเงินทอง พาเธออารมณ์ขึ้นเท่านั้น จริงมันก็เรื่องส่วนตัวของเธอแต่ตอนนี้เธอยังอยู่ต่อหน้าสังคมเธอควรระวังมากกว่านี้ แต่ทำไงได้หล่ะ เรื่องเธอ

แล้วคำว่า "มึง" "กู" "ไอ้เห้" "ไอ้ห่า" มิได้เป็นคำหยาบคายแต่เก่าก่อนแต่ในช่วงยุค 88-90 เป็นยุครุ่งเรื่องของปัญญาชน นักเรียนนักศึกษาในช่วงเวลานั้นคิดภาษาดอกไม้ของตนเองขึ้น เพื่อแยกตนเองให้แตกต่างจากคนยุคก่อนๆ เมื่อทำได้สำเร็จเนื่องจากนักศึกษายุคนั้นกลายเป็นคนทำงานทีวี คนควบคุมสื่อ ครูอาจารย์ไปจนถึงผู้มีบทบาททางการเมือง อีกทั้งวงสังคมที่เรียกว่า ผู้ดีหรือ ไอโซ ก็สนับสนุนวัฒนธรรมภาษาดอกไม้เอามาก จึงเกิดแบบคำหยาบคำสุภาพขึ้นนั้นเอง

สรุปผมจำใจยอมรับจ้า

ปล.เท่าที่ผมจำได้ผู้ถามเป็นผู้หญิงนี้ครับ ทำไหมอธิบายความตื่นเต้นยังกับหนุ่มเจอสาว

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

อาจไม่ใช่คำหยาบคาย

แต่มุมมองเราคำพวกนี้ ออกจากปากใคร

ทำให้คนนั้นลดความน่ารักลงไปมากมาย

จนน่าใจหาย

.

ส่วนเรื่องภาษาดอกไม้ ฟังดูเห็นภาพชัดเจน

ขอบคุณสำหรับความคิด ความรู้ เรื่องภาษาดอกไม้

ว่าแต่ว่า ....

คนยุคนั้น เขาคิดแบ่งชนชั้นเช่นนั้นจริงๆ เหรอ

หรืออาจจะจริง เพราะเห็นในละครสี่แผ่นดิน

ลูกแม่พลอยคนโตที่เป็นลูกแท้ๆ กับลูกสาวคนเล็ก

ดูว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย

.

.*__*.

+0 โหวต

ไม่เคยพูดเลยครับ แล้วทุกคนที่มาพูดกับเรา แรกๆ ก็อาจจะมีติดคำพูดเดิมๆ บ้าง

แต่ก็ตอบกลับตามปกติของเรา ในที่สุดคนที่มาคุยด้วยกับเรา ก็จะคุยดีๆ ปกติเหมือนกัน

มีคำพูดตั้งเยอะแยะให้เลือกใช้ ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเอาคำหยาบมาพูดเลยสักนิด

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

เราก็ไม่เคยพูดหยาบคายนะ

ทะลึ่ง ผวนคำยังยากเลย

แต่ถ้าคนพูดสองแง่ สองง่ามมานี่

แปลได้ไวกริ๊บ ...อิ_อิ...

+1 โหวต

เธอคงมีความกดดันน่ะครับ

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

เราว่าเป็นเรื่องเคยปากมากกว่า

ทำบ่อยๆ สิ่งที่แปลกก็ไม่แปลก

สิ่งที่ไม่คุ้นเคย ก็เกิดความคุ้นชิน

จากลบก็เป็นเฉยๆ

สุดท้ายก็กลายเป็นความชอบได้

+0 โหวต

เคยพูดคำไพเราะแล้วกลับถูกตำหนิว่าไม่จริงใจและเสแสร้งไหม แต่กลับมีการชื่นชมการพูดจาหยาบคายมากกว่า ว่าดูจริงใจ เรื่องตรรกะไม่ปกติที่น่าตลก แสดงถึงผู้กล่าวนั้นเริ่มแยกแยะไม่ออกในพฤติกรรมการแสดงออกและความจริงใจเลย บางกลุ่มเพื่อนมีตรรกะไม่ธรรมดาแบบนี้นะว่า การพูดจาหยาบคายคือการเปิดเผยความจริงใจไม่เสแสร้ง สังคมที่เปลี่ยนไปทำให้เหนื่อยใจกับเรื่องทำนองนี้เหลือเกิน

+1 โหวต · 17 ตอบกลับ

ไม่แสดงออกถึงความรู้สึกที่แท้จริงเช่นนั้นฤา

+1 โหวต

คนเราไม่อาจแสดงความรู้สึกได้ทุกครั้ง

หรือทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้นหรอก

เพราะไม่ยุติธรรมสำหรับคนอื่นที่ต้องรองรับอารมณ์

หรือรับรู้ทุกความรู้สึกของคนอื่น

อีกอย่างหนึ่ง

ความรู้สึกที่ไม่ดี ก็ไม่ควรปล่อยมันออกไป

ด้วยวิธีแสดงออกกับคนอื่น

ใครๆ ก็อยากรับรู้เรื่องดีๆ เรื่องที่ทำให้สบายใจ

ไม่ใช่เหรอ

.

แต่ทุกสิ่งที่แสดงออกหรือเก็บไว้

ก็เป็นตัวเราจริงๆ ไม่ได้แสร้งเป็น

+0 โหวต

แสดงว่าความรู้สึกที่ไม่ดีจะเปลี่ยนเป็นความคิดที่ดีได้รวดเร็วสิ

+1 โหวต

ก็มั่นใจนะ

ยังไม่ได้สำรวจตัวเองที่ความรู้สึก หรือความคิด

แต่เราพยายามจัดสรร แยกแยะความสำคัญ

จัดระบบเรื่องราวว่าจำเป็นต้องเก็บเป็นอารมณ์

หรือปล่อยผ่านไปให้ผ่านไปเลย เช่น ความโกรธ

จากนั้นก็จะไม่เก็บมาโกรธซ้ำไปซ้ำมา

โกรธแล้วก็จบ จากนั้นก็เริ่มใหม่

แต่ไม่ค่อยเกลียดคน

+0 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามในป้ายกำกับ
ถามคำถาม