ไข่กบ

สมาชิกมายฯ ท่านใด เคยเป็นไข่กบบ้าง

มีคนบอกว่า คนที่เคยเป็นหัด อีสุกอีใส เมื่อหายแล้ว

นอกจากจะไม่เป็นหัด อีสุกอีใส อีก เพราะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดชีวิตแล้ว

ยังทำให้มีโอกาสเป็นไข่กบ และงูสวัสดิ์ ได้มากกว่า่คนทั่วไปด้วย

เนื่องจากเป็นเชื้อเดียวกัน ....

เคยได้ยินเรื่องนี้บ้างหรือเปล่า

แล้วจริงเท็จประการใด .... ช่วยตอบที ....

11 คำตอบ · +5 โหวต · 0 รายการโปรด · 256 อ่านแล้ว

เคยเป็นแต่อีสุกอีสัย แต่ไม่เป็นแบบในภาพนะครับ

+4 โหวต · 1 ตอบกลับ

ถ้าขึ้นที่ปาก กับอวัยวะเพศเขาเรียกเริมน่ะเพ่

+0 โหวต

นี่มันงูสวัดนี่นา..สังเกตง่ายจะเป็นครึ่งเดียวของร่างกาย..

ไม่ซ้ายก็ขวาเลย..จะไม่ข้ามฝั่งเด็ดขาด..เพราะจะเกิดที่ปลายประสาทเท่านั้น..

เพราะปลายประสาทสองฝั่งจะแยกจากกันโดยสิ้นเชิง..

เคยเป็นแล้ว..ดีใจจัง..กินยา..ฉีดยา..โรคระงับชั่วคราว..เท่านั้น..ไม่หายขาด...

รอวันกำเริบเสิบสาน..หากร่างกายอ่อนแอเมื่อไหร่ก็กลับมาเป็นอีก..

แสบๆคันๆ..มันดี..แต่ไม่วงกว้างเท่าอิสุกอิใส..อย่างมากก็แต่ขึ้นหัวแค่นั้นเอง..เกากันมันเลย..เหอะๆๆ..

+3 โหวต · 5 ตอบกลับ

เค้าว่าอย่างงี้นะ..

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%87%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94

ปวดตึบทั้งหัวเลยแหละ..ก็ประมาณคนเป็นไข้หวัดใหญ่หล่ะมั้ง..ปวดตามกล้ามเนื้อ..เมื่อยเนื้อตัว...

แสบร้อนตามรอยแผล..คันแต่ไม่อยากเกากลัวลาม..

รอให้มันตกสะเก็ดแล้วก็เกาซิครัช...

+1 โหวต

ที่ส่งมาหน่ะ เคยอ่านแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันมากแค่ไหน

ฟังดูน่ากลัวเนอะ แต่ว่าเป็นงูสวัดแล้วไม่เป็นอีกไม่ใช่เหรอ?

+0 โหวต

หมอบอกว่าไม่หายขาด..ตลอดชีวิต......!!!!...

มันขึ้นอยู่กับว่าร่างกายเราอ่อนแอตอนไหน...มันก็กลับมาเป็นอีกได้..

แต่โอกาสก็น้อยนะ...ต้องอ่อนแอมากจริงๆ...

เคยเจ็บมากกว่านี้..เลยเฉยๆ..เป็นอีกก็ไม่ค่อยจะอะไรเท่าไหร่...

แค่ตอนแรกไม่เข้าใจว่ามันเป็นได้งัยแค่นั้นเอง..

เพราะว่าคนแก่ชอบสั่งสอนมาว่าถ้ามันพันรอบตัวแล้วตายได้..

แต่พอศึกษาจริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไร..ก็แค่เหมือนไข้หวัดใหญ่กะคันอย่างมากก็แค่นั้นเองง.....

+0 โหวต

แสดงว่าไม่น่ากลัวอย่างที่เคยได้ยินกันมานาน

ไม่เป็นก็ดีแหละ แต่คนที่เป็นแล้วอาจคิดว่าสบายๆ

เพราะเคยปวด เคยทรมานมาครั้งหนึ่งแล้ว

จะมีอีกสักครั้งก็คงไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก ... เป็นภูมิต้านทานความปวดได้โดยตรงเลย

ไม่กำเริบมากี่ปีแล้ว?

+0 โหวต

ทีแรกผมคิดว่าเป็นไข่กบที่พอถึงระยะเวลาหนึ่งกลายเป็นลูกอ๊อด

พอลูกอ๊อดหางหดสั้นจะมีขางอกออกมากลายเป็นลูกกบ พอโตเต็มที่

คนจับเอาไปยำเรียกว่ายำกบ ผมเข้าใจเป็นคนละเรื่องเลยครับ

+1 โหวต · 59 ตอบกลับ

ทั้งหญิงและชาย ช่วยกันร้องประสานเสียง

แบบเยือกเย็น ผมเองก็เถอะ หากเป็นไข้คง

หายไข้ในบัดนั้นเลยครับ

+0 โหวต

ไม่เอาแล้ว!!!

น่ากลัวอ่ะ ... ไปนอนดีกว่า

+0 โหวต

กลัวแล้วยังอยากรู้ พอทราบคำตอบ

เกิดอาการโหยงเลย นี่แหละ..ครับ

+0 โหวต

ก็แค่อยากรู้นิดๆ นึกว่าจะเล่าแบบคัดกรองความน่ากลัวออกไปบ้างหน่ะสิ

+0 โหวต

ไม่เคยได้ยิน

ไม่เคยเป็นจ้า แต่เคยเป็นอีสุกอีใส ตอนอายุ 21

+1 โหวต · 17 ตอบกลับ

เห็นด้วยจ้า เราก็แจ้ง ไม่รู้ใครแจ้งบ้าง

+0 โหวต

เราว่าหลายคนแหละ .... เพราะคนไม่ค่อยว่างเยอะอยู่อย่างพี่พันธ์ หรือคนอื่นๆ

+0 โหวต

อ้อ ใช่ๆ

เค้าเพิ่งข้อความไปแจ้งเมื่อวาน

สงสัยต้องมีหลายๆคนแจ่งแน่ๆ วันนี้เปลี่ยนและ เย้ ย้อนหลังดูแจ้งเตือนได้แล้ว

+0 โหวต

ใช่แล้วเกด .... วันนี้ถือศีล ขอให้จิดใจเบิกบานนะเกด

+1 โหวต

ไม่เคยอ่ะ

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

จ้ะ

ว่าแต่ว่าไม่เคยอะไร ... ไม่เคยเป็นหรือไม่เคยอะไรจ้ะ

+0 โหวต

เพราะภูมิคุ้มกันแต่ละคน......มันต่างกัน !!!

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

จ้ะ .... ตามข้อมูลคนที่เคยเป็นอีสุกอีใส จะมีการฝังตัวตามปลายประสาท

ถ้าภูมิต้านทานต่ำ ก็จะเกิดอาการ

+0 โหวต

เพิ่งเคยได้ยินว่ามีโรคนี้ด้วย

+1 โหวต · 3 ตอบกลับ

บางคนอาจเรียกต่างกันไป บางคนเรียกงูสวัด

+0 โหวต

ถ้างูสวัดเคยได้ยินค่ะ

+0 โหวต

จ้า เหมือนกันแหละ เพียงแต่ไข่กบยังไม่ลามไปทางเส้นประสาท แค่ขึ้นเป็นกระจุก

+0 โหวต

เล็มขนจั๊กกาแร้ซะบ้าง

+1 โหวต · 1 ตอบกลับ

ไม่ใช่หลานนร้า รูปนั้นหน่ะ

+0 โหวต

เคยเป็นแต่อีสุกอีใส ส่วนตามภาพผมไม่เคยเป็นครับ

ตามภาพ 4 ภาพจากข้างบนนี้ มันเป็นโรคเกี่ยวกับ เริม และ งูสวัด

ซึ่งมีที่มาจาก ไวรัส, พยาธิผิวหนัง, ม้าม (น้ำเหลือง) ก็บำบัดไปตามต้นเหตุ

เช่นทานเม็ดมะรุมรักษาไวรัส และพยาธิผิวหนัง

ทาน้ำมันมะรุม หรือ ทานกระเจี๊ยบเขียวเพื่อขจัดพยาธิผิวหนัง

ส่วนม้ามก็ อบเชย ขมิ้นชัน มันเทศสีเหลือง ทานตอน 9.00-11.00 ถ้ายอมเสียเงินก็สมุนไพรอัลฟ่า

ถ้าจากตำราของหมอเขียว การเป็นเริมหรืองูสวัดให้ถือว่าเป็นโรคที่เกิดมาจากภาวะไม่สมดุลแบบร้อนเกิน

ให้บำบัดด้วยน้ำคั้นใบย่านางทานทุกวันได้ทุกมื้อยิ่งดี สัก 1 สัปดาห์

ออกกำลังกายแบบโยคะ เผื่อระบายความร้อนออกจากตัว

เลือกกินอาหารฤทธิ์เย็น หลีกเลี่ยงอาหารฤทธิ์ร้อน

+0 โหวต · 28 ตอบกลับ

@ > Alone Man ได้อ่านคําตอบของคุณในกระทู้นี้

ได้ความรู้ ประเภทยาสมุนไพร -ยาไทยๆ-ยากลางบ้าน มากทีเดียว

ขอบคุณครับผม.

+1 โหวต

Pa-Mok ยินดีครับ

ที่ผมรู้มาได้ ก็เพราะว่า ผมมีญาติเป็นผู้เฒ่าผู้แก่อยู่ในหมู่บ้าน

ซึ่งพวกท่านมีความรู้ทางด้านนี้น่ะครับ และพวกท่านก็เคยบอกความรู้ให้กับผมเป็นวิทยาทาน

+1 โหวต

วิทยาทาน.

อืมส์.. มีประโยชน์+น่าสนใจมากทีเดียว

เพราะ..คนทั่วไปส่วนมากไม่รู้ นับวัน ของดีๆเหล่านี้จะสูญหายไป

น่าที่จะได้มีการบันทึกไว้ อย่างจริงจัง

เป็นประโยชน์ อย่างมากสําหรับคนรุ่นต่อๆไป

คุณน่าที่จะได้รวบรวมเป็น ตํารา-หลักฐานไว้นะ เพราะหายากมากขึ้นทุกวัน.

+1 โหวต

ครับ 555

แต่คงรวบรวมไม่ได้หรอกครับ เพราะผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่เภสัช

+0 โหวต

จากภาพ น่าจะเป็น งูสวัด

โรคงูสวัด (อังกฤษ: Herpes zoster) เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ "วีแซดวี" (varicella-zoster virus) เป็นคนละโรคกับ โรคเริม คนที่เป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เมื่อภูมิต้านทานอ่อนแอลงจึงกลายเป็นโรคงูสวัด มักจะเป็นผื่นตามแนว dermatome (แนวเส้นประสาทของผิวหนัง) และมักจะปวดมาก

วิธีรักษาโรคงูสวัด[แก้]

รักษาตามอาการคือ กินยาระงับอาการปวด อาการคัน เช่น พาราเซตามอล ไอดาแรค พอนสแตน คลอเฟนนิรามีน ฯลฯ ไม่ควรใช้ aspirin ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี

ยาต้านไวรัส ช่วยระงับอาการได้และทำให้ระยะเวลาของโรคสั้นลงและลดการเกิด PHN ได้แก่

Acyclovir 800 มก. รับประทานวันละ 5 ครั้ง ทุก 4 ชั่วโมง เป็นเวลาอย่างน้อย 5-7 วัน (ในเด็ก 20 mg/kg ทุก 6 ชั่วโมง)

Valacyclovir (the prodrug of acyclovir) 1000 กรัม รับประทานวันละ 3 ครั้ง 5-7 วัน

Famcyclovir (prodrug of penciclovir) 500 มก.ในประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ 250 มก. ในประเทศอื่นๆ รับประทานวันละ 3 ครั้ง 7 วัน

ยาทากลุ่มฆ่าเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มยาอะไซโคลเวียร์

ยาทาพวกเสลดพังพอน ใช้ทาระงับอาการได้ดีพอสมควร ราคาไม่แพง

จาก ... วิกิพีเดีย

+0 โหวต · 1 ตอบกลับ

ขอบคุณจ้ะ ที่แชร์ความรู้ให้เพื่อนสมาชิกชาวมายฯ

^ ^

+0 โหวต

คำตอบของคุณ

(ไม่บังคับ)

เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการตอบกลับ

คำถามที่คุณอาจจะสนใจ

คำถามในป้ายกำกับ
ถามคำถาม