.....................
คนนอกไม่เข้าใจเราไม่เท่าไหร่
พ่อแม่ไม่เข้าใจเรา หนักใจมาก
อธิบายก็ว่าเถียง เงียบก็ว่ายอมรับ
พักหลังๆ กลับบ้านมา ไม่พูดจากับใคร
เพราะเหนื่อยที่จะคุย ถามอะไรก็ตอบเท่านั้น
วันๆก็เครียดกับงาน กับความตอแหลของเพื่อนร่วมงาน
ของคนในสังคมก็มากพอแล้ว
ไม่อยากให้คนที่บ้านเครียด ไม่เคยเอาปัญหามาใส่
พยายามทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เหมือนไม่พอ ไม่เป็นดั่งที่ท่านหวัง บางทีเรื่องเล็กๆน้อยๆก็เอามาถากถางกัน
บางทีเจ้ากรรมนายเวรก็มีตัวตนในชีวิตจริง
เด็กๆโดนเปรียบเทียบตลอด ดีนะเป็นคนไม่แคร์
อยากด่าก็ด่าไป หูทวนลม ได้ยินแต่ไม่ฟัง
พยายามอย่างไรดี ให้พอใจทุกฝ่าย
ทำดีแค่ไหนถึงจะพอ
การเงียบเป็นทางออกที่ดี อยากว่าอะไร
เราจะผิดไม่ผิด เราก็ผิดอยู่ดี
ปู่บอกว่า มีสตินะลูก คิดก่อนคิด
ก็พยายามเชื่อคำปู่ ในสายตาเรา เราอาจคิดว่าเราพยายามแล้ว แต่สายตาพ่อแม่คงน้อยนิดมั้ง
พ่อแม่ทำอะไรก็ไม่เคยผิด พ่อแม่คือพระเจ้าของลูก
แต่ลูกจะประสาทกินแล้ว เลือดฝอยจะแตก
รายได้ทั้งหมดก็หาให้พ่อแม่หมดแล้ว
งานบ้านก็ต้องทำ งานพ่อแม่ก็ต้องทำ
ไม่ทำก็โดนว่า ว่าเปลี่ยนไป เหลวไหล
เกิดมายังไม่เคยทำตัวต่ำ เที่ยวผู้ชาย กินเหล้า ทำตัวเสียคน
ไม่เข้าใจจริงๆ ต้องดีแค่ไหน ถึงจะพอ และถึงมาตรฐานของพ่อแม่ แต่ยังขอบคุณเสมอให้เกิด เห้อ อึดอัดใจ
บางทีเกิดเป็นลูกก็ลำบาก
สมัยที่เราลำบากัน ทำไมรู้สึกรักกัน เข้าใจกันมากกว่านี้
ทำไมเดี่ยวนี้ ไม่รักพวกเราเลย เราอยู่บ้านคนเดียวตลอด
มีแต่พวกท่านเดินทางออกจากบ้าน เราติดบ้าน
เราอยู่กับกองหนังสือ เราไม่คบใคร ไม่เป็นนักปาร์ตี้
เราใช้เงินประหยัด มีบ้าง เอาเงินเก็บไปดูหนัง ฟังเพลง
ทุกวันนี้กินใช้ด้วยเงินส่วนตัว ส่งตัวเองเรียน
ขยันมาทั้งวัน พอไม่ได้กวาดบ้านครั้งเดียว ความดีี่ทำมา สลาย ทำดีมาทั้งวัน แค่ไม่ช่วยงานที่บ้าน เป็นคนชั่ว
เป็นสัตว์เดรัจฉานทันที ยังดีที่ไร้ความรู้สึกไป
หรือด้านชาก็ไม่รู้ มีแค่ความรู้สึกอึดอัด
ธรรมะข้อไหนจะเอามาคิดและปฏิบัติ
ที่เขียนถาม ไม่ได้อยากว่าใคร
ไม่ได้อยากได้คำปลอบใจ
แค่อยากได้ทางออกสักเล็กน้อย มุมมองเล็กน้อย
จากใครก็ได้ ที่ไม่เคยรู้จักตัวตนเราเลย
พวกเค้าไม่เคยแม้แต่เจอตัวจริงเรา
แต่แค่ได้เห็นตัวตนเราจากการถามตอบ
บางครั้งเล่าให้ใครสักคนที่ไม่รู้จักเรา ยังดีกว่าเล่าให้คนสนิทฟัง ขอบคุณค่ะ