ใครอ่านแล้วงงมั่ง เราง๊ง งง

ขอบคุณอีกครั้ง และอีกครั้งนะจ๊ะ

สวัสดียามค่ำ ... อาบน้ำ อาบท่าหรือยัง ...? ?...

ไม่นะ

คนเขียนมีความคิดลึกซึ้งช่างเปรียบเทียบค่ะ แปลกดี...ปรับภาษาอีกนิดจะดีมาก

เขาเปรียบความสุขที่เกิดจากความรัก ดังเช่นความรู้สึกสบายช่วงที่ทุเลาจากอาการเจ็บป่วยของคนไข้แต่พอกินของแสลงเข้าไป อาการที่ดีๆอยู่นั้นก็ทรุดอีก

เขาจะสื่อว่า ...ความสุขที่เกิดจากความรักนั้นช่างน่าเวทนา ความรักดุจดังคนป่วย ความสุขดุจดังอาการทรงๆทรุดๆของคนป่วย เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย....ในขณะที่มีความหวัง(ความสุข) อยู่นั้น ความผิดหวัง(ความทุกข์)ก็รออยู่เบื้องหน้า

รักมากก็สุขมาก เมื่อสุขมากก็ทุกข์มาก เมื่อผิดหวังในความรัก

เราก็งง 555

เขาบอกว่า ความรักกินไม่ได้ ถ้ากินแล้วจะป่วยครับ

อันความรัก มักจะมอง ได้หลายแง่

สุดแล้วแต่ ที่จะมอง ตรองใคร่คิด

แต่ละคน ปนกันไป หลายจริต

เพียงสะกิด พินิจมอง ส่องใจคน

อย่ามองเพียง แค่ฉาบฉวย รวยเรื่องทรัพย์

อาจพังยับ เพียงเปลือกนอก บอกบ่ได้

คนเรามี หลายแง่ แย่ต่างไป

สุดแต่ใคร ได้สิ่งที่ ดีสู่ตน

( ทุกอย่างล้วน......เป็นไปตามกรรม !!! )

เขากำลังจะบอกว่า สุขกับทุกข์ มีได้ไม่นานมันวนเวียนกันไปครับ

ผู้เขียนpessimist เกินไป คนที่สมหวังคงมากกว่าคนผิดหวัง เพราะไม่งั้นคนบนโลก

นี้มีคนที่มีครอบครัวมากกว่าคนโสดเยอะ ดังนั้นเวลาอ่านข้อความหรือฟังใครพูด

จึงควรอย่างยิ่งที่จะพิจารณาว่าคำกล่าวหรือข้อความนั้นๆมันจริงกับทุกคน หรือจริง

เฉพาะกับบางคนเพียงแค่นั้น ไม่สามารถนำส่วนน้อยมาสรุปเป็นกฎทั้งหมดได้

สิ่งใดที่จริง ต้องเป็นจริงกับทุกคนเสมอ ถ้าจริงบ้างไม่จริงบ้าง จะสรุปมิได้ว่าจริงเสมอไป

งง นะ

แทนที่จะบอกว่า ความสุขของความรัก เหมือนคนกินของแสลง

รู้ว่ากินแล้วไม่ดี มีผลต่อกระเพราะ

แต่ก็มีความสุขในการกิน เพราะมันอร่อย

งงงะเนอะ หรือเราเข้าไม่ถึงความรัก